(เผยแพร่ทาง Learners.in.th เมื่อ 7 ธ.ค.2552)
สวัสดีครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา สวป.สภ.พาน ครับผม
วันนี้วันอาทิตย์แรม 5 ค่ำเดือนอ้าย ปีชวด ตรงกับวันที่ 7 ธันวาคม 2552 วันหยุดชดเชยเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่หลายท่านมีเวลาว่างจากการทำงานทำการในวันนี้อีกวันหนึ่งก็ขอให้ใช้เวลาว่างนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ก็แล้วกันครับ
อีกไม่ถึงเดือนดีก็จะถึงปีใหม่กันแล้ว เร็วจริงๆ ครับ วันเวลาผ่านไปเหมือนมีปีกบินยังไงยังงั้นเลย รู้แบบนี้แล้วใครมีหน้าที่หรือจะต้องทำอะไรก็จงรีบทำซะอย่าผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวจะไม่มีเวลาให้ทำ ในวันหยุดนี้ที่ผมก็ได้หยุดอยู่กับบ้านและครอบครัวกับเขาบ้างเหมือนกันก็เลยใช้โอกาสนี้ขอนำความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวกับตำรวจแต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนบ้างอยู่มาบอกกันครับ นั่นก็คือเรื่อง “คดีอาญา 5 กลุ่ม”
ปัจจุบันนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวมูลข่าวสารให้พี่น้องประชาชนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งช่องทางหนึ่งที่สำคัญและในความเห็นส่วนตัวของผมเองคิดว่าจำเป็นอย่างขาดเสียไม่ได้ในสังคมยุคดิจิตอลนี้ก็คือการจัดทำเว็บไซต์ของหน่วยงานนั่นเอง ในส่วนของตำรวจนั้นเท่าที่พบก็รู้สึกชื่นใจที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญในส่วนนี้ซึ่งมีการจัดทำในหลายรูปแบบ แล้วแต่ความคิดของผู้เขียนหรือผู้บังคับบัญชาหน่วยงานนั้นๆ สำหรับท่านที่เคยเปิดเว็บไซต์ของหน่วยงานตำรวจอาจจะพบคำว่า "สถิติคดีอาญา 5 กลุ่ม" หรือ "คดีอาญา 5 กลุ่ม" ผ่านตาอยู่บ้าง บางท่านอ่านแล้วก็ผ่านไปเลย แต่บางท่านอาจเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าคำคำนี้คืออะไร หมายความว่าอย่างไร เพราะในเว็บไซต์เหล่านั้นแทบจะไม่มีการอธิบายความหมายไว้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจผมจึงขออธิบายถึงคำคำนี้ให้ท่านที่ยังไม่ทราบได้รับทราบ เผื่อโอกาสต่อไปหากพบเห็นคำคำนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามจะได้เข้าใจกัน
"คดีอาญา 5 กลุ่ม" นี้นำมาใช้สมัยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็น "กรมตำรวจ" และสังกัดอยู่กับ "กระทรวงมหาดไทย" โดยในครั้งนั้น (ไม่สามารถค้นหาหลักฐานที่แน่นอนได้ว่าเป็นปีหรือ พ.ศ.ใด) ได้กำหนดให้มีการแบ่งคดีอาญาที่เกิดขึ้นเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รวมไปถึงผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน โดยนำเฉพาะเรื่องสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยในสังคมและประชาชนเป็นเกณฑ์ สำหรับคดีอาญาที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ นั้นมีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มที่ 1 เป็นคดีประเภทอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ซึ่งประกอบไปด้วยความผิดในข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้
1)
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
2) ปล้นทรัพย์
3) ชิงทรัพย์
(ทั้งได้รับบาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ)
4) วางเพลิง
5)
ลักพาเรียกค่าไถ่
กลุ่มที่ 2 เป็นคดีประเภทที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกายและเพศ ซึ่งประกอบไปด้วยความผิดในข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้
1)
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
2)
ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
3)
กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
4)
พยายามฆ่า
5) ทำร้ายร่างกาย
6)
ข่มขืนกระทำชำเรา
กลุ่มที่
3
เป็นคดีประเภทที่เกี่ยวกับทรัพย์
ซึ่งประกอบไปด้วยความผิดในข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้
1)
ลักทรัพย์
2) วิ่งราวทรัพย์
3)
รีดเอาทรัพย์
4) กรรโชกทรัพย์
5) ชิงทรัพย์
(ทั้งได้รับบาดเจ็บและไม่บาดเจ็บ)
6)
ปล้นทรัพย์
7) รับของโจร
8) ทำให้เสียทรัพย์
กลุ่มที่
4
เป็นคดีประเภทคดีที่น่าสนใจ
ซึ่งประกอบไปด้วยความผิดในข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้
1)
โจรกรรมรถจักรยานยนต์
2)
โจรกรรมรถยนต์
3)
โจรกรรมโค-กระบือ
4)
โจรกรรมเครื่องมือการเกษตร
5) ปล้น-ชิงทรัพย์รถยนต์โดยสาร
6)
ปล้น-ชิงทรัพย์รถแท็กซี่
7) ข่มขืนและฆ่า
8)
ลักพาเรียกค่าไถ่
9) ฉ้อโกงทรัพย์
10) ยักยอกทรัพย์
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือเรื่องราวของคดีอาญา 5 กลุ่ม หรือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะเรียกกันติดปากว่า "คดี 5 กลุ่ม" นั่นเอง สำหรับการนำคดีอาญา 5 กลุ่มไปใช้นั้นก็สุดแล้วแต่นโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะกำหนดว่าจะให้เป็นไปในทิศทางใด เช่น ในสมัยก่อนนั้นส่วนใหญ่จะนำไปใช้เปรียบเทียบการเกิดหรือการจับกุมของคดีกลุ่มต่างๆ ตามห้วงเวลา เช่น ปีหรือเดือนเดียวกันระหว่างปีนี้กับปีหรือเดือนที่ผ่านมา เป็นต้น
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเขียนนี้คงจะสร้างความกระจ่างหรือความเข้าใจแก่ท่านผู้อ่านบ้างตามสมควรนะครับ
สวัสดีครับ
************************
แวะมาอ่านครับ
ไม่ค่อยมีบันทึกแบบนี้เลยครับ
พี่น้อยสุพจน์ เข้ามาสร้างสีสันให้ G2K ได้มากเลยครับ...
ปัญหามันมีไว้ให้แก้จริง
ผู้ที่มีหน้าที่แก้ปัญหาเหล่านี้ ขอให้สู้ต่อไปนะ
ต่างหน้าที่ต่างความรับผิดชอบ ต่างปัญหา
แต่เมื่อมันผ่านพ้นไป ทุกอาชีพล้วนมีความสุขอยู่แล้ว
คนดีมีมากกว่าคนเลว ดีใจจัง55+