อ่านพบบทความเรื่อง "ท่ามกลางความขัดแย้ง...บุคคลจะเจริญเติบโตขึ้นได้อย่างไร?" ของโยมวิจิตรา สายอ๋อง (http://gotoknow.org/blog/vij2518/319420) ที่นำประเด็นของเวอร์จิเนียร์ ซะเทียร์ (Virginia Satir) มาขยายความว่า " ความสัมพันธ์ของมนุษย์จะเป็นไปตามข้อตกลงของความเหมือนและความขัดแย้ง กล่าวคือความเหมือน จะดึงดูดความสนใจให้มนุษย์ติดต่อสัมพันธ์กัน ขณะที่ความขัดแย้ง จะช่วยให้บุคคลเจริญเติบโตขึ้น ..." จริงหรือ??...
ขอสนับสนุนข้อสังเกตของเวอร์จิเนียร์ ซะเทียร์ว่า "ถูกต้อง เหมาะสม และจริงเป็นที่สุด" ที่่ว่า "ความขัดแย้งช่วยให้บุคคลเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น" เหตุผล (๑) ทำให้เราได้มีโอกาสศึกษาและเรียนรู้บุคคลอื่น (๒) ช่วยให้เราพยายามที่จะเข้าใจคนอื่น (๓) ช่วยให้เราพยายามที่จะวางท่าทีที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อคนอื่น และ (๔) ช่วยให้เราพยายามค้นหาความจริงที่ว่า "การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมมีคุณค่ามากน้อยเพียงใด"
จากประสบการณ์ในการงานที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนั้น ความขัดแ้ย้งเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และเปลี่ยนรูปอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ของความขัดแย้งทั้งเชิงบวก และลบ
(๑) ควรศึกษาและเรียนรู้ว่า ทำไมเขาจึงคิด พูด และทำต่างจากเรา โดยการเรียนรู้ในฐานะเขาเป็นเขา ไม่ใช่พยายามที่จะทำให้เขา คิด พูด หรือทำเหมือนเรา
(๒) เมื่อใช้เวลาในการศึกษาและเรียนรู้อย่างมีสติ "ความเข้าใจ" (สัมมาทิฐิ) จะเกิดขึ้น เข้าใจความจริงว่า ทำเขาจึงคิด พูด และทำเช่นกัน หรือต่างจากเรา ความเข้าใจจะนำไปสู่
(๓) การที่เรามีท่าทีที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อคนอื่นที่เราเคยคิดว่า เขาคิด พูด และทำต่างจากเรา และสุดท้าย
(๔) เราก็จะสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น รัก และใส่ใจคนอื่นมากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่ควรใส่ใจก็คือ "ทุกครั้งเกิดความขัดแย้งในครอบครัว และสังคม" เรามักจะละเลย และหลงลืมที่จะ ศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจ มีท่าทีไม่ถูกต้อง เหมาะสมต่อเพื่อมนุษย์ที่อยู่รอบข้างตัวเรา ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่หลายคน "มักตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้ง" แทนที่ "จะได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง"
เห็นด้วยกับพระอาจารย์ขอรับ..
ทุกสังคมเมื่อเกิดความขัดแย้งแล้วละเลยที่จะตรพหนักเรียนรู้
จึงเกิดปรากฏการณือย่างที่เห็นๆในปัจจุบันขอรับ..
ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านผู้ช่วยอธิการบดีฯด้วยนะครับ
มนุษย์สร้างฝั่งให้ตัวเองไว้มากมายแล้วตัวเองอีกนั่นแหละมักติดฝั่งที่สร้างไว้ ฝั่งก็เลยกลายเป็นกับดักตัวเอง
ฝั่งแห่งสีผิว
ฝั่งแห่งเชื้อชาติ
ฝั่งแห่งสีเสื้อ
ฝั่งแห่งความโกรธเกลียด
ฝั่งแห่งความเคียดแค้น
ฝั่งแห่งความอาฆาต
การเห็นความทุกข์ความเดือดร้อนและความดีของคนอื่นแล้วเราก็จะข้ามพ้นฝั่งได้.
เห็นด้วยขอรับ พระคุณเจ้า กระผมเอง เป็นบ่อยเลยครับ เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง แล้วใช้อัตตาทุ่มใส่กัน เพราะไม่ค่อยได้ศึกษามัน ให้เข้าใจครับ จะนำไปปรับวิธีคิดครับ กราบขอบพระคุณขอรับ
กราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ
ความจริงเรื่องความขัดแย้ง..เนี่ยชยาภรณ์ ไม่เคยคิดว่ามัน..จะเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้นะเจ้าค่ะ
เพราะคิดว่าความขัดแย้งอยู่คู่กับมนุษย์ เหมือนเช่นความทุกข์
อาจเรียกได้ว่า ทุกข์ คือความขัดแย้ง
สุขคือสันติภาพ
ก็น่าจะได้นะคะ
เพียงแต่เราหาทางสายกลาง ของความขัดแย้ง เจอหรือไม่....