หลับเต็มตื่น

เพียงความรู้สึก ถึงการขอบคุณหลายสิ่งหลายอย่าง ขอบคุณลมหายใจ ขอบคุณชีวิต ขอบคุณความสุขอย่างเรียบง่าย ที่ทำให้มีโอกาสตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับความไม่สุขไม่มากมาย ที่เพียงต้องการบันทึกไว้เตือนตน

หลับเต็มตื่น

 

อ้างอิง - ภาพ Kati1789

สำหรับชีวิต

ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะมากมาย

ไปกว่าความสุขที่ปรากฏในใจ

 

สำหรับกระบวนการจัดสรรความสุขในชีวิต ที่แต่ละคนต่างรู้ เข้าใจ และพยายามไขว่คว้า ด้วยรู้ว่าตัวเองสุขในเรื่องใด สุขมากสุขน้อยกับสิ่งใด และไม่มีความสุขกับสิ่งใด ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความจริง และเป็นแรงขับดันอันสำคัญยิ่ง ที่ซ่อนอยู่หลังชีวิตของเราแต่ละคน

นอกเหนือจากหน้าที่ภาระรับผิดชอบ

การเดินทางตามหาชีวิตของผู้คน

ที่ปรากฎขึ้นในแต่ละวัน

 

ล้วนมีจุดเริ่มต้นและเป้าหมาย เพื่อเดินทางไปสู่สุขทั้งสิ้น มุมมองคำสำคัญเพียงสั้นนี้ จึงมีมากมายล้นหลาม และน่าค้นหา หากเปรียบกับหลักสามประการอันเป็นเสาเอก ของแนวคิดทางปรัชญาแห่งทะเลอีเจียน ที่ว่าด้วย ความจริง ความดี และความงาม มุมมองของความสุขกลับเป็นภาพที่แอบซ่อน สะท้อนอยู่ในใจ ขับเคลื่อนทุกสิ่ง แต่ไม่ชอบฉายแสง

สำหรับความจริง

ที่เราแต่ละคน ล้วนแสวงหา

ทั้งสุขก้อนเล็ก สุขก้อนใหญ่ สุขมากสุขน้อย

 

สุขแบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป สุขอย่างมโหฬาร หรือ สุขแบบพอเพียง ทุกสิ่งอย่างในแต่ละอันพันละน้อยของชีวิต ล้วนคละเคล้ากันไป ให้ใจได้เรียนรู้และตระหนัก ให้ได้ทุกข์บ้างสุขบ้าง สุขกำลังดีทุกข์กำลังมาก จนวนเวียนสับเปลี่ยนให้ชีวิตได้รู้ถึงบาดแผล ด้านในเนื้อใจเรา

เราทุกคนต่างพยายามเข้าใจตัวเองเสมอ

ต่างรู้ว่า ชื่นชอบรสชาติใดบ้าง

ในแต่ละลมหายใจชีวิต

 

ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่ตามหาสุข หาความมีสุขของชีวิต บางทีก็เป็นกาแฟแก้วเดียวในท่ามกลางวันอันวุ่นวาย บางครั้งก็เป็นคำชมเพียงคำเดียว จากผลงานที่เราทุ่มเท อดตาหลับขับตานอน บางคราวก็เป็นรอยยิ้มเพียงบางๆ สำหรับสิ่งที่เขารู้ว่า เราได้มอบสิ่งดีดีให้กับเขา จนกระทั่งเช้าวันนี้ ที่ผมเริ่มรู้สึกดี กับการได้นอนเต็มตื่น นอนไม่ต้องยาว แต่นอนแล้วตื่นขึ้นมาด้วยความสุข

ขณะที่ไม่มีอาการงัวเงีย

ไม่มีอารมณ์อาลัยอาวรณ์ใด

ยามคิดจะลุกจากที่นอนอันอบอุ่น

 

บางคนก็พูดถึงที่นอนอันแสนสุข ว่าเป็นสถานที่ดูดวิญญาณ ประมาณว่าลงนอนแล้วแทบไม่อยากลุกไปไหน นอนได้นอนดีกับชีวิตที่ได้เกลือกกลิ้งไปมา ได้รู้ว่าความสุขอันเรียบง่าย จากการได้ล้มตัวขนานกับพื้นโลกนั้น ช่างเป็นสุขเพียงใด ขณะที่บางคนอาจรู้สึกว่าไม่ใช่ แต่ใครหลายคนพร้อมจะพยักหน้ารับ และ ยกมือสองแขนสนับสนุน ความรื่นรมย์บนที่นอน

สำหรับยามเช้า ที่ได้ตื่นขึ้นมา หลังจากนอนไม่นาน

เป็นการนอนข้ามคืน ด้วยการเต็มตื่นเต็มตา

ไม่ต้องฝัน ไม่ต้องจินตนาการ

 

ไม่มีความกระวนกระวายใจใดใด เพราะไม่มีโอกาสได้คิด อากาศสดชื่น ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป ตื่นขึ้นมาพอให้เห็นแสงแรกของวัน ด้วยการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ โดยไม่ปิดม่านบังตา ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการสดชื่น ที่วัดได้จากการไม่รำคาญแสงแรกของวัน และพร้อมจะลุกขึ้นมาทักทายโลกใบนี้ ฟังเสียงรถที่วิ่งอยู่ไกลๆบ้าง ฟังเสียงนกที่แข่งกันส่งเสียงสนทนาในยามเช้า

 

ทุกอย่างล้วนเรียบง่าย

ไม่มากมาย และ ไม่ต้องซื้อหา

ลุกจากที่นอน พร้อมกระโจนลงไปดื่มน้ำ

 

ดื่มสักห้าหกอึกใหญ่ พอประมาณว่าสักสองสามแก้วน้ำ หรือ หากไม่ขี้เกียจเกินงาม ก็รินน้ำใส่แก้วให้ครบถ้วนกระบวนความ โดยไม่ต้องกะเก็ง แต่เพิ่มเติมให้ชีวิตได้รู้ว่า เรากำลังเริ่มต้น ด้วยความสุขจากน้ำดื่มชื่นใจ ในยามที่ชีวิตพ้นจากหลับใหล และ ในยามที่กำลังบอกตัวเองว่า เริ่มต้นใหม่

ใครที่เห็นความจริง จากความรู้สึกยามเช้า

ด้วยการระลึกสุขในแต่ละขณะ

น่าจะทราบคำตอบได้ดี

 

สำหรับคำตอบอันเรียบง่ายของชีวิต คำตอบอันไม่มากมาย เมื่อชีวิตได้ปลดปล่อยบางเรื่องราวที่หนักหนา ตื่นขึ้นมาโดยยังไม่ต้องคิดถึงภาระ เพราะไม่นานเราจะเริ่มต้นสะสาง เริ่มต้นเดินทาง และเริ่มต้นแก้ปมในแต่ละขณะของชีวิต ก่อนคิดก่อนมอง ด้วยความสุขเพียงเล็กน้อยเมื่อได้ตื่น

สำหรับสิ่งเรียบง่าย

ที่ผมมี โดยไม่ต้องไปช่วงชิงกับใคร

สุขแบบเล็กน้อย ที่ตัวผมรับรู้ถึงความเพียงพอได้

 

สำหรับใจคน ที่ฝันใฝ่ มากมายและยาวนาน กว่าที่จะพบเส้นทาง กว่าที่จะพบจุดหมายในแต่โมงยาม หลายครั้งที่ใครบางคน อาจสุขใจเพียงเล็กน้อย เมื่อได้คิดว่า ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ว่า ตัวเองยังคงมีลมหายใจอยู่ ยังคงมีสุข และ พร้อมจะเปิดใจบอกกับผู้คน บางคนอาจส่งยิ้มในยามเช้าให้มาก บางคนอาจนั่งทำบุญตักบาตร บางคนลุกขึ้นมาสวดมนต์ หลายคนแผ่เมตตา

ไม่ว่ากิจกรรมใดใด ที่ส่งมอบความรู้สีกดีดี

ล้วนเป็นหนึ่งในความดีอันไม่มากมาย

ไม่ซับซ้อนและไม่ยอกย้อน

 

ใครบางคน และ ครูบาอาจารย์หลายท่าน จึงมักบอกให้เรียนรู้สุขในยามเช้าอย่างเล็กน้อยเช่นนี้ เหมือนเรียนรู้ ยามตื่นนอนในเช้าวันเสาร์ แล้วนึกฝันถึงตอนเป็นเด็ก เช่นที่ผมชอบฝันว่า ตื่นขึ้นมา พร้อมอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาว มีแดดอุ่นๆ จางๆ มีกลิ่นกับข้าวของแม่ลอยมา มีเสียงในครัวให้รู้ว่าแม่กำลังทำอะไร มีเสียงใสๆยามแม่คลอเพลง ผมมักฝันเช่นนี้ยามนึกถึงสุข

สำหรับสิ่งที่ไม่ย้อนคืน

และไม่อาจหวนคืนมาได้ของชีวิต

สิ่งเดียวที่งดงามและทรงพลัง คือ การได้คิด

 

การได้เข้าใจและตระหนักกับชีวิตเบื้องหน้า ได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้ หรืออยู่ท่ามกลางความสุข ด้วยเรื่องราวซึ่งปรากฎในใจเรา หลายต่อหลายครั้ง ที่ผมได้เข้าใจความสุขอันเรียบง่าย หลังจากปิดหน้าหนังสือที่เพิ่งอ่านจบ หรือได้ฟังเพลงเพราะในยามสงบ ได้ดูหนังที่บอกถึงความดีและความงามในชีวิต ได้เห็นความสุขที่อยู่ตรงหน้า อย่างเรียบง่ายและไม่มากมาย

แค่เพียงได้เข้าใจว่า ชีวิตมีสุขได้ในทุกขณะ

หากหัวใจของเราตระหนักรับรู้

เข้าใจและลอยจากเงามืด

วันนี้ ผมแค่สุขใจที่ได้ลืมตาตื่นในยามเช้า