เครือข่าย "เหยื่อเมาแล้วขับ" ร่วมรณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ (30 ธ.ค.2552)


สวัสดีครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา รายงานตัวเข้าเวรรับใช้ครับผม

วันนี้วันพุธที่ 30 ธันวาคม 2552 อีกแค่วันเศษๆ ก็จะถึงปีใหม่ 2553 กันแล้ว แล้วก็วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการรณรงค์ 7 วันขับขี่ปลอดภัยเทิดไท้องค์ราชันย์ ที่บนถนนหลายที่หลายแห่งจะมียวดยานพาหนะพลุกพล่านเพราะพี่น้องคงจะออกจากบ้านไปฉลองปีใหม่หรือเดินทางไปที่ต่างๆ ตามที่ได้วางโปรแกรมไว้แล้ว อย่าลืมนะครับสำคัญมากเลยทีเดียวนั่นก็คือกฎจราจรที่พี่น้องทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถ,คนโดยสารหรือแม้แต่เดินถนนก็ตามจะต้องเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

  

วันนี้ผมมีหน้าที่ต้องเข้าเวรเป็นหัวหน้าจุดตรวจประจำหน่วยบริการประชาชนหรือตู้ยามตำบลแม่เย็นซึ่งเป็น 1 ใน 3 จุดตรวจหลักช่วงเทศกาลนี้ของ สภ.พานเรา เท่าที่สังเกตตั้งแต่เช้าที่มารับเวรเวลาประมาณ 08.00 น.รถราเริ่มมากขึ้นแล้วโดยเฉพาะช่วงขาขึ้นที่พี่น้องเดินทางเข้าเชียงรายกัน การปฏิบัติของพวกเรา ณ จุดนี้จะเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกเสียมากกว่า เราจัดทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ,พี่น้องสายตรวจอาสาและเจ้าหน้าที่ อปพร.ร่วมปฏิบัติ และที่สำคัญครับเช้าวันนี้มีพี่น้องเครือข่าย เหยื่อเมาแล้วขับ 6-7 คนมาร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกับพวกเรา

  

การรณรงค์ของเครือข่ายนั้นนอกจากจะพบปะพูดคุยกับพี่น้องที่สัญจรไปมาผ่านจุดตรวจของเราแล้วยังแจกจ่ายแผ่นปลิว แผ่นพับ รวมถึงภาพอันเป็นมงคลขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยอีกด้วย 

    

ผมได้สัมภาษณ์เครือข่ายที่มาร่วมรณรงค์กับเราช่วงเที่ยงเศษๆ ซึ่งทุกคนต่างเต็มใจและมีความยินดียิ่งที่จะได้นำอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองให้คนอื่นรับรู้รับทราบ สำหรับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ผมขอสรุปเป็นข้อๆ เพื่อความเข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ 

1. ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายมีทั้งต้องพิการไม่สามารถเดินได้โดยต้องนั่งอยู่บนรถเข็นตลอดชีวิต
2. สูญเสียอวัยวะโดยเฉพาะอย่างยิ่งขาข้างหนึ่งและใส่ขาเทียมตลอดไป

   

สาเหตุของการพิการในครั้งนี้สรุปได้ว่า

1. เกิดจากตัวของเครือข่ายเอง ซึ่งบางคนบอกว่าก่อนที่จะเกิดเหตุนั้นตัวเองเป็นคนดื่มเหล้าเมายาเหมือนคนอื่นๆ จำนวนหนึ่งนั่นแหละ ทีนี้เมื่อดื่มได้ที่จนเมาแล้วก็ขับรถ ขับไปขับมาด้วยความเมาครองสติไม่ได้เลยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นทำให้ถึงขนาดต้องสูญเสียอวัยวะที่สำคัญคือขาไปข้างหนึ่ง จนต้องใส่ขาเทียมไปตลอดชีวิต
2. เกิดจากการกระทำของคนอื่นที่เมาแล้วขับรถโดยที่เหยื่อหรือผู้ได้รับความเสียหายนั้นไม่มีส่วนร่วมก่อด้วย ซึ่งท่านหนึ่งนั้นบอกว่าตอนก่อนจะเกิดเหตุตัวเองอยู่ระหว่างขับขี่รถมอเตอร์ไซค์จะกลับบ้าน สักพักหนึ่งมีรถซึ่งขับตามหลังมาชนเข้าอย่างจังทำให้ต้องพิการเป็นอัมพาตและนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตโดยคนขับรถที่ชนนั้นมีอาการเมาสุราจนครองสติไม่ได้
3. ทุกคนในเครือข่ายที่ให้สัมภาษณ์วันนี้บอกตรงกันว่าจะต้องมีภาระเลี้ยงดูลูกดูครอบครัวอีกมากแต่ตัวเองต้องมาได้รับความเสียหายบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ แทนที่จะเป็นตัวหลักในการเลี้ยงดูคนอื่นแต่ต้องเป็นภาระคนอื่นที่ต้องมาเลี้ยงดูแลเช่นนี้จึงทำให้จิตใจหดหู่และท้อแท้อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
 

  

ในตอนท้ายพี่น้องที่ให้สัมภาษณ์ฝากข้อคิดไว้ว่าเหตุที่เกิดกับตัวเองนั้นมาจากสุราหรือการเมาเหล้าเมายาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตนเองก่อขึ้นหรือคนอื่นเป็นคนก่อ จึงอยากจะวิงวอนพี่น้องทุกคนว่าในเวลาขับรถขับราขอให้งดการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เสียจะดีกว่า หรือหากทำไม่ได้ก็ควรให้คนอื่นเป็นคนขับแทนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน 

ก็ขอฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกท่านในวันก่อนสิ้นปี 2552 นี้ด้วยครับผม

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับผม 

************************

ติดตามการทำงานทั้งหมดของผมได้ที่  

http://phanpatrol.spaces.live.com

คำสำคัญ (Tags): #2503
หมายเลขบันทึก: 324095เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2009 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • ชอบโครงการแบบนี้ครับ
  • ขอให้มีความสุขกับการทำงาน
  • ตำรวจเสียสละเพื่อประชาชนจริงๆๆครับ

มาให้กำลังใจตำรวจคะ  มีความสุข สดชื่น และสมหวังตลอดปี 2553 นะคะ

สวัสดีครับท่าน เอาตัวอย่างมาให้ ถ้าใจไม่เย็นลงก็หินแล้วครับ

  • มาส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน
    ที่ทำงานหนักในช่วงปีใหม่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท