เทศกาล
“วันขึ้นปีใหม่” เป็นห้วงเวลาที่คนเราได้มีโอกาสต้อนรับ
“ชีวิตใหม่ในปีใหม่” และ “อำลาชีวิตเก่าในปีเก่า”
เมื่อมองในมิติของจิตใจที่ให้ความสำคัญแก่ปีเก่าและปีใหม่ เรากำหนดเดือนธันวาคมที่สิ้นสุดลงไปนั้นว่าเป็นการสิ้นปีเก่า
และการเริ่มต้นของเดือนมกราคมเป็นปีใหม่ ฉะนั้น
ในช่วงเวลานี้แต่ละคนจึงมีความคิด ความปรารถนาและความฝันว่า
“ชีวิตในปีใหม่น่าจะดีกว่าชีวิตในปีเก่า”
เพราะเหตุนี้
คนทั่วโลกได้ยึดถือว่า “ปีใหม่เริ่มต้นในเดือนมกราคม”
ภาษาอังกฤษจึงเรียกเดือน ‘มกราคม’ว่า ‘January’
โดยถือคติตามตำนานของเทพเจ้าโรมัน ที่ชื่อว่า Janus (เจนัส)
ชื่อของเทพเจ้าเจนัสนี้เป็นที่มาของคำว่า
January (มกราคม)ในภาษาอังกฤษ
ประเด็นคือ “เจนัส” เป็นเทพเจ้าโรมันที่มีใบหน้าสองหน้าซึ่งมองในทิศทางที่ตรงกันข้าม ใบ หน้าด้านหนึ่งมองไปข้างหน้าคือ “มองอนาคต” อีกใบหน้าหนึ่งมองไปข้างหลังคือ “มองอดีต”
จะเห็นว่า
วันขึ้นปีใหม่
คนเรากำลังยืนอยู่ระหว่างรอยต่อของปีเก่าต่อกับปีใหม่
คือวันที่ ๓๑ ธันวาคมเป็นปีเก่า ส่วนวันที่ ๑
มกราคมเป็นปีใหม่ ฉะนั้น
เรามีความจำเป็นต้องมองสองด้านเสมอเหมือนเทพเจ้าเจนัส คือ
“เหลียวหลังและแลหน้าในเวลาเดียวกัน”
ด้านหนึ่งเราหันกลับไปดูอดีตซึ่งอยู่ข้างหลัง
และอีกด้านหนึ่งเรามองไปในอนาคตข้างหน้า
สิ่งที่ควรทำในช่วงปีใหม่นี้ก็คือ “มองไปข้างหน้าด้วยความหวัง
มองกลับข้างหลังด้วยความภูมิใจ”
เมื่อมองย้อนไปในปีเก่า เราพบว่าชีวิตเรามีอะไรที่น่าพอใจ
เราก็เกิดความภาคภูมิใจและเก็บไว้ในความทรงจำ
จากนั้นให้นำเอาความทรงจำที่ดีในปีเก่าติดตามไปทำซ้ำในปีใหม่ด้วย
อะไรที่เป็นความไม่ดีในปีเก่า เราจะไม่นำติดตัวไปสู่ปีใหม่
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้สามารถกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยการ
อธิษฐานจิตว่า เราจะทิ้งความไม่ดีไว้กับปีเก่า
โดยการย้ำเตือนตัวเองว่า “เราจะนำอดีตมารับใช้ปัจจุบัน
เพราะเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้
แต่เราเปลี่ยนปัจจุบันให้ดีได้”และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
ปีใหม่ และวันใหม่ด้วยการ "คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี
และไปสู่สถานที่ดีๆ"
นมัสการพระคุณเจ้า
“มองไปข้างหน้าด้วยความหวัง มองกลับข้างหลังด้วยความภูมิใจ”
เราจะนำอดีตมารับใช้ปัจจุบัน เพราะเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนปัจจุบันให้ดีได้”
และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ปีใหม่ และวันใหม่ด้วยการ "คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี และไปสู่สถานที่ดีๆ
ครูคิม ขอบใจมากๆ สำหรับการแลกเปลี่ยนมุมมอง