ระยะทางของความรัก


ต่อให้เดินทางไปไกลแสนไกลก็หนีไม่พ้นใจตัวเอง

 

          ระยะทางระหว่าง “การเลิกรา” กับ “การเริ่มต้นใหม่” ห่างกันเท่าไร เราจะวัดได้อย่างไร ใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า เวลา ระยะห่าง หรือว่าความทรงจำ?

          My Blueberry Nights “๓๐๐ วัน ๕๐๐๐ ไมล์ ห่างไกล ไม่ห่างกัน”  เป็นหนังโรแมนติกว่าด้วยการค้นหาตัวเอง  อลิซาเบธ หญิงสาวผู้หวาดกลัวต่อการใช้ชีวิต และการข้ามถนน  วัน ๆ เอาแต่นั่งอยู่ในร้านกาแฟของนิวยอร์ค หาความสุขให้ชีวิตไปกับการกินพายบลูเบอรี่อันแสนอร่อยที่ไม่ค่อยมีใครกิน และมองดูคนอื่นใช้ชีวิตผ่านกระจกของร้าน

            ฉันดูหนังเรื่องนี้ และคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในเรื่อง ชีวิตฉันก็คล้ายๆ ทำนองนั้น มีเรื่องราวไม่ต่างจากอลิซาเบธ  ฉันมีความสุขที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ และเผลอคิดไปว่าหนังเรื่องนี้สร้างเพื่อฉันโดยเฉพาะ

            ในที่สุด อลิซาเบธก็เปิดรับ เจเรมี่ เจ้าของร้านกาแฟรูปหล่อเข้ามารักษาหัวใจอันบอบซ้ำ แต่ไม่นานเธอก็หายไปจากชีวิตของเจเรมี่อย่างไร้ร่องรอย  ภายหลังเขาพบว่าเธอออกเดินทางเพื่อไปค้นหาตัวเอง จากเมมฟิส ไปเนวาด้า จนถึงถนนสาย 66 เธอทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน  แล้วเดินทางต่อไปเรื่อยๆ หางานทำไปเรื่อยๆ เธอใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น ๓๐๐ วัน ๕,๐๐๐ ไมล์พอดี  เพื่อที่จะไปพบพานตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย

            อลิซาเบธมาที่ร้านของเจเรมี่ครั้งแรกเพื่อตามหาคนรัก   เจเรมี่บอกเธอว่าเขาจดจำคนจากอาหารที่พวกเขากิน ไม่ใช่จากรูปร่างหน้าตา  เธอบอกว่าบางทีเขาอาจจะกินพอร์คชอป เจเรมี่บอกว่าถ้ามีใครสักคนกินพอร์คชอปล่ะก็ เขาเพิ่งมาที่นี่กับผู้หญิงคนหนึ่ง สั่งพอร์คชอปสองจานมากินด้วยกัน และเธอก็ได้รู้ว่าคนรักของเธอนอกใจ

            เธอฝากกุญแจห้องคืนชายที่มากินพอร์คชอปคนนั้น เจเรมี่เอาไปใส่ไว้ในโหลที่มีกุญแจอยู่เต็ม กุญแจแต่ละดอกในร้าน ล้วนมีที่มา และมีเรื่องราวของมันเอง  บ้างก็รอวันคืนให้เจ้าของ บ้างก็แค่กุญแจ ที่ไม่มีใครต้องการ  

 

            จากนั้นเธอออกไปยืนเหม่อมองอดีตคนรักของเธอกับคู่รักใหม่จากหน้าต่างห้องที่เธอเคยอยู่กับเขา

            เธอข้ามถนนไปไม่พ้น จึงกลับมาที่ร้านอีกครั้ง  เจเรมี่ให้เธอกินบลูเบอรี่พาย พายที่ไม่มีใครกิน เจเรมี่บอกเธอว่าไม่ใช่ความผิดของพายที่ไม่มีใครกิน แม้จะขายไม่ดีแต่เขาก็ต้องทำพายทุกวัน เพื่อจะเททิ้งในตอนเย็น เพราะวันหนึ่งก็จะมีคนที่ชอบกินจริงๆ อย่างเธอนี่ไง  คงเหมือนกับความรักนั่นแหละ ต้องรอคนที่ใช่จริงๆ ซึ่งต้องมีมาสักวันหนึ่ง

            จากนั้นทุกคืนค่ำ เธอกลับมานั่งนิ่งๆ กินบลูเบอรี่พายกับไอศกรีมวานิลลา ฟุบหลับบนเคาน์เตอร์โดยมีไอศกรีมติดอยู่บนริมฝีปาก นับแต่นั้น เจเรมี่จะเก็บพายบลูเบอรี่ไว้ให้เธอเสมอ

            แล้ววันหนึ่งเธอก็ออกเดินทางไป ทิ้งรอยจำเศร้าสร้อยให้เจเรมี่ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยหย่อนกุญแจดอกแรกลงในขวดโหล เฝ้ารอว่าประตูที่ปิดอยู่นั้นจะเปิดออกอีกครั้งเมื่อเจ้าของกุญแจกลับมา รอคอยสาวรัสเซียแฟนเก่าที่ไม่หวนกลับ  ตอนนี้เขารอคอยเธอผู้ทิ้งความทรงจำไว้กับพายบลูเบอรี่  เธอที่ออกเดินทางไกลไปเรื่อยๆ และเขียนโปสการ์ดถึงเขา

            เธอเดินทางไปไกลแสนไกล  โดยได้เรียนรู้เพียงข้อเดียวว่าเธอไม่สามารถหลบหนีจากความทรงจำของตัวเองได้ แต่การเดินทางของเธอก็ไม่ได้นำตัวเองไปผูกพัน หรือฝากรอยจำไว้ในชีวิตของใครอีก เธอแค่ทำหน้าที่ของคนที่เฝ้ามองความสัมพันธ์อันบกพร่องของคู่รักอื่นๆ    และเขียนโปสการ์ดไม่ระบุที่อยู่ถึงเจเรมี่ เจ้าของร้านกาแฟ  บอกเล่าสิ่งต่างๆ ที่พบเจอและการเติบโตทางความคิดของเธอ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเจเรมี่กับสาวรัสเซียก็ถึงฉากสิ้นสุดลง เมื่อสาวรัสเซียตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด

 

            ทุกตัวละครและคนดู เติบโตไปพร้อมกับเธอ เมื่อเธอเดินทางไปจนถึงจุดหนึ่ง ก็พบว่า มันไม่ได้สำคัญที่ระยะทางที่ไกลเท่าไหร่  หรือจุดหมายจะอยู่ที่ใด ถึงแม้จะเดินทางจนไกลสุดขอบโลก ก็หนีใจตัวเองไม่พ้น

            เรื่องราวของผู้คนที่พบเจอ ช่วยหล่อหลอมให้เธอมีมุมมองต่อชีวิต สัมพันธภาพ และต่อภาพลักษณ์ของตัวเธอเองเปลี่ยนไป เธอเริ่มมีชีวิตชีวา มีความสดใส และเริ่มปล่อยให้อดีตผ่านไป เมื่อเธอได้ค้นพบเส้นทางใหม่ที่งดงามสำหรับตัวเธอเอง คือเส้นทางไปสู่รักแท้


            เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง  เธอกลับมา .... อาหารถูกเสิร์พ...ดอกไม้ในแจกัน และขวดโหลที่ว่างเปล่าไม่มีกุญแจอีกต่อไป  พายบลูเบอรรี่ร้อนๆ กับไอศกรีมลูกโต อยู่ในจาน ....

 

           “ที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่”

           “คุณรู้ได้ไง...”เขาถาม 

           “ฉันไปมาทั่วแล้ว....ที่นี่ดีที่สุด” เธอยิ้ม และจัดการทุกอย่างจนหมดเหมือนเคย

           “การเดินทางไกลแค่ไหน มันไม่สำคัญที่ระยะทาง มันสำคัญที่ว่า....เรากำลังเดินทางไปหาใครมากกว่า”  

           “ถนนน่ะ จริงๆ แล้วข้ามไม่ยากหรอก มันอยู่ที่ว่ามีอะไรรอเราอยู่อีกฟากหนึ่งต่างหาก” นี่คือบทสรุปของทั้งเธอและฉันในห้วงอารมณ์เดียวกัน

หมายเลขบันทึก: 328383เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2010 20:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 02:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีคุณวันรวีครับ

เป้าหมายอาจจะไม่สำคัญ

แต่อาจจะอยู่ที่รายละเอียดและความสุขในการเดินทางนะครับ

ขอบพระคุณครับ...

"การเดินทางไกลแค่ไหน มันไม่สำคัญที่ระยะทาง มันสำคัญที่ว่า....เรากำลังเดินทางไปหาใครมากกว่า”  

           “ถนนน่ะ จริงๆ แล้วข้ามไม่ยากหรอก มันอยู่ที่ว่ามีอะไรรอเราอยู่อีกฟากหนึ่งต่างหาก”

ชอบจังเลยครับ ต้องดูบ้างแล้ว ขอบคุณครับ

 “การเดินทางไกลแค่ไหน มันไม่สำคัญที่ระยะทาง มันสำคัญที่ว่า....เรากำลังเดินทางไปหาใครมากกว่า” 

ประโยคนี้ชอบมากค่ะ "กินใจ" 

       ชอบประโยคเดียวกับคุณ

 “ถนนน่ะ จริงๆ แล้วข้ามไม่ยากหรอก มันอยู่ที่ว่ามีอะไรรอเราอยู่อีกฟากหนึ่งต่างหาก”

       เพราะชีวิตจริงในวันหยุดที่ไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดกลับบ้าน  เวลาเหงาๆมากๆขึ้นนั่งบนรถแล้วไม่รู้จะขับไปไหนดี...

เพราะไม่มีปลายทางที่ใครรออยู่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท