๓.ฉันถูกผู้ชายบอกเลิกเพราะทางรถไฟ


               เรื่องเล่าของบันทึกนี้มาจากไดอารี่เล่มเก่า เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา  จากการอ่านทบทวนดูแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ"วินัยในตนเอง" อ่านจบแล้วย้อนอดีตหากพูดเข้าข้างตนเอง  น่าจะขอขอบคุณรางรถไฟเป็นอย่างมาก 

              การคบหาของหนุ่มสาวในสมัยก่อน  การที่คนสองคนจะมีโอกาสพบและพูดคุยกัน  รวมทั้งการได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันนั้นมีน้อยมาก  เพราะเป็นการติดต่อด้วยภาษาหนังสือผ่านจดหมายเป็นส่วนใหญ่   กว่าจะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายนั้นต้องใช้เวลานานพอสมควร

            ขอย้อนอดีตว่า  วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ตอนบ่าย ๆ ฉันนัดพบกับเพื่อนชายของฉันว่าจะไปดูหนังสักเรื่องหนึ่งและเดินห้างอีกด้วย   เพราะฉันทำงานบริษัทเอกชนจะมีวันหยุดทำงานสัปดาห์ละ ๑ วันคือวันอาทิตย์เท่านั้น 

            ตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน  เพื่อนชายของฉันคงรู้สึกเบื่อหน่ายและรับฉันไม่ได้อยู่เงียบ ๆ หลายอย่างและเขาก็คงหมดความอดทนที่จะปรับตัวเองให้มายอมรับความเป็นตัวตนของฉันได้   แม้ว่าเราแต่ละคนมีการศึกษาทัดเทียมกัน  แต่มีความแตกต่างกันเรื่องพื้นฐานทางครอบครัวและการอบรมเลี้ยงดู 

            วันนัดพบเขาได้ไปรับฉันที่บ้านลาดพร้าว ๗๑  ฉันชอบนั่งรถเมล์มากกว่าแท็กซี่เพราะพ่อฉันสอนไว้ เรานัดกับเพื่อนหญิงของฉันอีกคนหนึ่งที่สามเสน  เมื่อลงจากรถเมล์เขาจะข้ามถนน  แต่ฉันบอกเขาว่า "น่าจะไปข้ามทางม้าลายนะคุณ"  แต่เขาบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอกไม่มีรถและไม่มีจราจรมาเห็นหรอกน่า" ฉันปล่อยให้เขาข้ามไปคนเดียวแต่ฉันเดินไปข้ามทางม้าลาย  นับเป็นชนวนความร้าวฉานอย่างเงียบ ๆ ที่ก่อตัวขึ้น

           ความร้าวฉานได้เพิ่มความรุนแรงจนถึงขีดแตกหักก็คือ  เขาจะพาฉันข้ามทางรถไฟที่ไม่ใช่ทางข้ามทั้ง ๆ ที่มองเห็นทางข้ามอยู่ไม่ไกลนัก  แม้ว่าฉันจะเตือนแล้วแต่เขายังทำท่าดื้อดึงเหมือนเดิม  มิหนำซ้ำยังพูดว่า "ใคร ๆ เขาก็เอาง่าย ๆไว้ก่อนสบายดีด้วย"  ฉันจึงบอกเขาไปว่า "เราเป็นผู้มีวัฒนธรรมไม่ใช่หรือ" แล้วเราก็ไม่ต้องไปดูหนังและไม่ต้องไปเดินห้าง  เพราะถกเถียงกันเรื่องการรักษาวัฒนธรรมกับการรักษาวินัย 

          ก่อนจากกัน..เขามองหน้าฉันอย่างมั่นใจแกมปวดร้าวนิด ๆ และพูดเบา ๆ ว่า "เราควรเลิกคบกันนะ เวลา ๓ ปีคงไม่มีเยื่อใย เพราะผมเป็นคนไม่มีวัฒนธรรม" ความเสียใจคงมีบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับฟูมฟาย เพราะเรายังไม่ถึงขั้นคนรักกัน  เพียงแต่เป็นคนที่มีความรู้สึกพิเศษต่อกันเท่านั้น 

        ขอขอบคุณสมุดบันทึกเล่มเก่า  และขอขอบคุณพ่อแม่ที่ฝึกให้เป็นผู้จดบันทึกมาตั้งแต่เล็ก ๆ หรือจะขอบคุณรางรถไฟดี อ่านจบแล้วโปรดหัวเราะดัง ๆนะคะ

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/837/23837/images/night_train_to_1.jpg

หมายเลขบันทึก: 330511เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2010 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

สวัสดีครับพี่...

แวะมาเยี่ยมครับ

ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ค่ำ ๆ นี้จะเดินทางไปสุพรรณครับ

มีงานพรุ่งนี้ครับ

เพิ่งรู้ว่าพี่คิมก็มีมุมแบบนี้เหมือนกันนิ...

  • สาธุ ค่ะครูคิม
  • ขอบคุณที่มาเม้นให้นะคะ  จึงมีโอกาสมาอ่านเรื่องของคุณครู
  • ขอบคุณเรื่องเล่าของคุณครูนะค่ะ อ่านจบแล้วยิ้มมมมม  อุอุอุ

+ สวัสดีค่ะพี่คิม...

+ เมื่อคืน...เมื่ออ่านบันทึกของพี่แล้วทำเอาเครียดพอควร...จริง ๆ แล้วอ๋อยรู้สึกเครียดสะสมมาก่อนแล้วค่ะ...เพราะการตีเด็ก...

+ ทุกครั้งที่ตี...รู้สึกปวดร้าวใจมากค่ะ...แต่มีแวดล้อมและบริบทหลายอย่างที่ต้องตี...

+ อ๋อย...กำลังตั้งสติ...ตั้งหลัก...กับการแก้ปัญหาเรื่องการตีเด็กค่ะ...อ๋อยไม่แน่ใจมากนักว่า...โดยลำพังจะทำได้มากน้อยเพียงใด...และการกระทำของอ๋อยจะสร้างแรงกดดันจากบริบทรอบข้างแค่ไหน...แต่จะลองดูค่ะ....ขอเพียงเรา " ชื่อมั่น...ศรัทธา..." ใช่ไหมค่ะ....

+ อ๋อยนับว่าโชคดีที่คนรอบข้างไม่เป็นอย่างที่พี่คิมกล่าวมา...รู้สึกว่าทุกคนรอบข้างจะเข้าใจวินัยพื้นฐานแบบนี้ได้ดีค่ะ...เราจึงไม่มีปัญหา...ว่าไปก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองทั้งนั้นนะค่ะ....

+ พี่คิมค่ะ...อ๋อยขอเชิญพี่คิมไปเยี่ยมชม  "ที่นี่...บ้านควนเสม็ด" นะค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูคิม ..แวะมาอ่านไดอารี่ของครูคิมค่ะ ..วันเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปเสมอ ..แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย..คือทางรถไฟ ..(แถมยังเป็นเหตุให้ครูคิมถูกบอกเลิกอีกแหน่ะ ..ไม่ยอมปรับปรุงตัวเองเลยนะคุณทางรถไฟเนี่ย..)

โอโห บันทึกละเอียดนะครับ ได้เรียนรู้ไปด้วยจากพี่ ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับ

สวัสดีค่ะพี่คิม

แอบมาอ่านบันทึกรักครูคิมค่ะ อิอิ

พูดถึงคำว่าวัฒนธรรม วันก่อนมีเพื่อนโทรมาเล่าให้ฟังว่า กินเหล้าแล้วขับรถเกือบชน...ดาวเลยถามเค้าว่า แล้วไปกินเหล้าทำไม? เค้าบอกว่า มันเป็นวัฒนธรรมในการทำงาน เลิกงานเสร็จก็ต้องกินเหล้า...เลยโดนดาวเทศน์ไปว่า วัฒนธรรมหมายถึงสิ่งที่ดีงาม แต่เมาแล้วขับเนี่ย ไม่น่าจะเรียกว่าวัฒนธรรม น่าจะเรียกว่า ข้ออ้างของการดื่มมากกว่าค่ะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทาย

วัฒนธรรมของคนบางคนนี่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อนนี่แย่นะค่ะครู

จุดเริ่มต้นก็เป็นหนทางแห่งการเปลี่ยนแปลงค่ะ

พี่คิมขา...อ่านไปแล้ว..จะตลก ก็ตลกน่ะค่ะ  ก็ซึ้งก็ซึ้งค่ะ..หลากอารมณ์ขนาดนี้ น่ามาทำเป็นบทละครน่ะค่ะ..ขอจองตั๋วดูลวงหน้า  เด้อค่า!..

ชอบ ที่คำพูดของคุณผู้ชาย ประโยคที่เลิกกันน่ะคะ  

สวัสดีค่ะน้องหนานเกียรติ

  • ขอขอบคุณที่แวะมาอ่านเรื่องเล่าของคนสูงวัย
  • บล็อกนี้เกี่ยวกับเรื่องวินัยเท่านั้นนะคะ
  • ว่าง ๆนำไดอารี่สมัยประถม มัธยม มหาลัยและวัยต่สง ๆ มาดูค่ะ
  • เพื่อนเคยซื้อสมุดให้ ๑๒ เล่มบอกว่า..กลัวไม่พอจดบันทึก
  • ฮ่า ๆ ๆ ๆ

สวัสดีค่ะน้องnawa~natachoei

  • ขอขอบคุณที่มาอ่านและยิ้มได้นะคะ
  • ไม่อยากบอกอาชีพ..ของคุณผู้ชายคนนี้เลยนะคะ
  • แต่ไม่ใช่คนในเครื่องแบบค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอ๋อยที่นี่...บ้านควนเสม็ด

+ เมื่อคืน...เมื่ออ่านบันทึกของพี่แล้วทำเอาเครียดพอควร...จริง ๆ แล้วอ๋อยรู้สึกเครียดสะสมมาก่อนแล้วค่ะ...เพราะการตีเด็ก...

  • ขออภัยที่ทำให้เครียด
  • เมื่อรู้ตัวว่าเครียด..ก็เป็นการดีนะคะ  จะปลงได้ง่ายขึ้น

+ ทุกครั้งที่ตี...รู้สึกปวดร้าวใจมากค่ะ...แต่มีแวดล้อมและบริบทหลายอย่างที่ต้องตี...

  • สิ่งแวดล้อมและบริบทของเด็กนั้นแหละท้าทายความสามารถของครูค่ะ
  • ไม่เป็นไรนะคะเรื่องมันผ่านไปแล้ว

+ อ๋อย...กำลังตั้งสติ...ตั้งหลัก...กับการแก้ปัญหาเรื่องการตีเด็กค่ะ...อ๋อยไม่แน่ใจมากนักว่า...โดยลำพังจะทำได้มากน้อยเพียงใด...และการกระทำของอ๋อยจะสร้างแรงกดดันจากบริบทรอบข้างแค่ไหน...แต่จะลองดูค่ะ....ขอเพียงเรา " ชื่อมั่น...ศรัทธา..." ใช่ไหมค่ะ....

  • ลองดูสักครั้งแล้วจะรู้สึกดีและเป็นเรื่องเคยชินค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ

+ อ๋อยนับว่าโชคดีที่คนรอบข้างไม่เป็นอย่างที่พี่คิมกล่าวมา...รู้สึกว่าทุกคนรอบข้างจะเข้าใจวินัยพื้นฐานแบบนี้ได้ดีค่ะ...เราจึงไม่มีปัญหา...ว่าไปก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองทั้งนั้นนะค่ะ....

  • ความรู้สึกภายในและจิตสำนึกที่จะติดตัวเด็กไปภายหน้า
  • เขาได้รับอะไรมา ผลก็ออกมาแบบนั้นค่ะ

+ พี่คิมค่ะ...อ๋อยขอเชิญพี่คิมไปเยี่ยมชม  "ที่นี่...บ้านควนเสม็ด" นะค่ะ

  • น่าสนใจทำวิจัย
  • ก็ทำแบบอันก่อนนะคะ  ดีมาก ๆ

สวัสดีครับเกลอ นำบันทึกเก่าเก็บมาเรียนรู้กัน เห็นฐานคิดที่มาที่ไป และเป็นอยู่

ได้เรียนรู้ครับเกลอ

สวัสดีค่ะอาจารย์น้องขจิต ฝอยทอง

  • อ่านจบแล้วหัวเราะหรือเปล่าคะ
  • เรื่องจากไดอารีเล่มเก่า  อ่านแล้วความรู้สึกแตกต่างไปกับโลกทัศน์ของเรานะคะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องดาวblue_star

  • วัฒนธรรม(ไทย)...น่าจะหมายถึงสิ่งทีดีงามของสังคมจะเหมาะกว่านะคะ
  • ดื่มเหล้า...น่าจะเป็นค่านิยมนะคะ
  • ตอนพี่คิมอยู่หอ  เพื่อน ๆ เหมาว่าเป็นคนเรื่องมาก ระเบียบจัด ต่อมาพวกเขาเห็นว่าเป็นเรื่องดี เขาก็ทำตามค่ะ
  • ขอขอบคุณน้องดาวค่ะ

สวัสดีค่ะน้องตุ๊กตา

  • คนที่ทำความเดิอดร้อน..หมายความว่าเขาขาดวัฒนธรรมค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะที่มาร่วมอ่านเรื่องขำ ๆ

สวัสดีค่ะน้องNew.ครูบันเทิง

  • เพื่อน ๆ ล้อพี่คิมว่า..พี่คิมถูกผู้ชายบอกเลิก
  • ส่วนพวกหล่อนสิ บอกเลิกผู้ชาย
  • ใช่ค่ะ น่าตลกนะคะ  แต่ก็ใจหายเพราะรู้จักกันมา ๓ ปี
  • อีกอย่างเขารู้นิสัยพี่คิมดี  จึงไม่กล้ามาง้อ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณkaniya

  • ก็สมเหตุสมผลเหมือนกันนะคะ
  • เขาปรับตัวมาบ่อยครั้งแล้วค่ะ
  • คราวนี้..เขาคงรู้สึกว่าเราด่าละมั้งคะ
  • ขอขอบคุณที่มาอ่านเล่นคลายเครียดค่ะ

สวัสดีค่ะเกลอวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

  • สบายดีไหม  วันที่ไปยโสธรถ้ามีต้นผักเหลียงที่แข็งแรงพาไปหน่อนะคะ
  • เขาทำขายมีไหมละ
  • ขอขอบคุณล่วงหน้า  พักนี้อากาศพื้นล่างร้อนอบอ้าวมาก
  • ส่วนบนเขาหนาวเย็นค่ะ
  • รักษาสุขภาพนะเกลอ  หวังว่าคงสบายดีกันทุกคน  อย่าทำให้ก๊ะงอนบ่อย ๆนะ  อารมณ์จะเครียดเป็นภัยต่อสุขภาพค่ะ

ป้าเหมียว ไม่มีโอกาสที่ใครจะมาบอกเลิกเลย..เพราะไม่เคยมีแฟน...(คนไม่มีแฟน) มีแต่สามีไปเลย!!!

สวัสดีค่ะน้องป้าเหมียว

  • ขอขอบคุณค่ะ
  • ที่มาฮากับเรื่องเล่าเก่าเก็บของพี่คิม
  • หากมองว่าพี่คิมเป็นผู้หญิงไร้ค่า  ก็ช่างน่าขันนะคะที่ผู้ชายบอกเลิก
  • อ่านจบแล้วค่ะครูคิม
  • แต่ไม่กล้าหัวเราะ
  • เพราะครูแจ๋วก็เลิกกับคนพิเศษคนแรกเพราะเหตุผลที่ซ้อนรถจักรยานยนต์แล้วไม่ยอมกอดเอวคนขับค่ะ...อิ อิ
  • ของครูคิมเหตุผลแห่งการเลิกรายังเป็นเหตุผลของผู้มีวัฒนธรรมกว่า ครูแจ๋วเลยไม่กล้าหัวเราะค่ะ
  • ส่วนเหตุผลของครูแจ๋ว มันน่าหัวเราะให้ก้องฟ้ามาก ๆๆๆๆๆ....
  • เรื่องของครูแจ๋วไม่มีในบันทึกหรอกค่ะ แต่พอได้อ่านเรื่องของครูคิม ความทรงจำมันก็แล่นผ่านมาเอง...
  • ก็แปลกนะคะ...ยังไม่ทันเป็นคนรักกัน แต่ก็ไม่รู้จักลืม
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณครูคิม

อ่านแล้วหัวเราะไม่ออก เพราะหนูก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบความสบายๆ ง่ายๆ แต่ไม่มักง่าย(เมื่อรู้ตัว)

บันทึก(รัก)ในอดีต เก็บทิ้งหมดเลยค่ะ เพราะขำและอาย(ตอนนั้น) เมื่อเจออาถรรพ์เลข 7 เข้าให้ก็เลยไม่เก็บ

อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ  พี่คิม

  • พอเห็นหัวข้อบันทึกแล้วต้องรีบคลิกเข้ามาอ่านทันทีเลยค่ะ
  • อ่านจบแล้วก็ให้นับถือในความมีวินัยจนเป็นปกตินิสัยของพี่คิมมากค่ะ
  • แม้จะในวัยอย่างนั้น (วัยรุ่น) น้อยคนที่จะเคร่งครัดมีวินัยอย่างนี้ 
  • น้องว่าผู้ชายคนนั้นเขารู้ตัวว่าถูกพี่คิมทิ้งก่อน มากกว่าค่ะ
  • ส่วนน้องสมัยเป็นสาวรุ่น  ก็รับไม่ได้กับผู้ชายที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย เสื้อลอยชาย รองเท้าแตะ (ฟองน้ำ)
  • พูดบ่อยมากจนถูกเขาทิ้งเช่นกันค่ะ  55

 

แม่ครูคิม ส่อแววเป็นครูเจ้าระเบียบมาตั้งแต่แรกแล้วนะคะ..น้องสาวคนสุดท้องของพี่ใหญ่เป็นครูที่ รร.ราชินี มีนิสัยนี้คล้ายแม่ครูคิมมาก..

 

สวัสดีค่ะครูแจ๋วคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

  • เออหนอ..ครูแจ๋วก็มีเรื่องฮากลิ้ง..เหมือนกัน
  • อ่านไปหัวเราะไปนะคะ
  • คนอะไร...โรแมนติคเป็นบ้า  แก่แล้วจะเหลือโรแมนติคไหมหนอ
  • ส่วนครูคิมน่าจะเป็นคนไร้ค่านะคะ  เพราะถูกบอกเลิก
  • ฮา..ได้เหมือนกันนิ

สวัสดีค่ะน้องnamsha

  • น้องสบายดีไหมคะ  งานยุ่งหรือเปล่า
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ
  • ขอขอบคุณที่มาฮา..กับเรื่องของวัยละอ่อนค่ะ
  • พี่คิมเก็บบันทึกมาตั้งแต่อายุ ๙ ขวบค่ะ

สวัสดีค่ะน้องครูอรวรรณ

  • ขอขอบคุณค่ะที่มาฮา...ด้วยกัน
  • คล้าย ๆ กันเลยนะคะ
  • วันที่ ๕ - ๙ นี้จะเจอกันไหมคะ
  • งานยุ่งไหมคะ  ระยะนี้  เป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

  • คุณพี่ใหญ่อาจเข้าใจลูกทหาร เมียทหารนะคะ
  • แม้กระทั่งการตากผ้า..การพับผ้า..การปูผ้าคลุมที่นอนต้องเอาชนิดเหรียญเด้งได้ ฮ่า ๆ
  • ครูคิมติดนิสัยทุกวันนี้กลับมาจากนอกบ้านต้องเช็ดรองเท้าก่อนเก็บค่ะ ออกจากห้องน้ำก็ขัดห้องน้ำเสมอไม่เคยลืม
  • การทำความเคารพ..ไม่ต้องรอให้ใครมาไหว้เราก่อน
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ ผอ.พรชัย

  • ฮาไหมละ  เรื่องเล่าวัยละอ่อนของพี่คิม
  • วันนี้เด็กนักเรียนอ่าน..นักเรียนชายบอกว่า...โสนาน่า
  • ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท