มุมหนึ่งในหน่วยไตเทียม
หน่วยไตเทียม เปิดให้บริการผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย โดยวิธีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการล้างไตทางช่องท้อง ก่อนที่ผู้ป่วยจะเริ่มเข้ารับการรักษาการทดแทนไต พยาบาลไตเทียมก็จะ ให้คำปรึกษาเรื่องแผนการรักษาของผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งจะมี 3 วิธี คือ 1.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 2.การล้างไตทางช่องท้อง 3.การเปลี่ยนไต (ส่งผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น โรงพยาบาลยังทำไม่ได้ )
เดือน ธันวาคม ปี 2550 ผู้ป่วยหญิงไทย สิทธิการรักษาคือบัตรประกันสุขภาพ อายุ 43 ปี ผิวคล้ำเข้ม สีหน้าดูไม่ค่อยสบาย นั่งรถเข็นมาที่ห้องไตเทียมพร้อมสามีและลูกชาย อายุประมาณ 20 ปี และลูกสาว อายุ 10 ปี พยาบาลห้องไตเทียม ทักทายเพื่อสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยและญาติ หลังจากได้ศึกษาประวัติผู้ป่วย พบว่าอายุรแพทย์โรคไตส่งผู้ป่วยมาจากตึกผู้ป่วยนอกเพื่อให้มารับฟังรายละเอียดเรื่องการทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย ช่วงแรกของการให้ข้อมูลการรักษา.......สังเกตเห็นผู้ป่วยไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ นั่งซึม ตาเริ่มแดง การให้คำปรึกษาเฉพาะเรื่องโรคอย่างเดียวคงทำให้บรรยากาศตึงเครียดเกินไป พยาบาลจึงหาทางออกโดยการพูดแนวธรรมะและการปลอบใจ เข้ามาช่วยเสริม พร้อมยกตัวอย่างผู้ป่วยรายอื่นๆที่มาเข้ารับการรักษาด้วยอาการที่หนักกว่า ส่วนทางด้านสามีและลูกที่นั่งฟังด้วยกันก็พูดเสริมให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย ... พยาบาลปลอบว่า“ต้องต่อสู้กับโรคให้ได้และอดทนเพื่อสามีและลูก” ผู้ป่วยจึงเริ่มคุยได้มากขึ้น สีหน้าสดชื่น ดูมีกำลังใจมากขึ้น…. ในช่วงสุดท้ายของการพูดคุย ผู้ป่วยและญาติได้เลือกวิธีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และ......วันต่อมาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยเคราองไตเทียม และรับการฟอกเลือดอย่างสม่ำเสมอ 2 ครั้ง/สัปดาห์ (วันอังคาร- ศุกร์) ในช่วงที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา สามีและลูกต่างช่วยกันให้กำลังใจ สามีผู้ป่วยเป็นหลักในการหารายได้ เพื่อให้พอกับค่ารักษาฟอกไต ประมาณ 20,000 บาท /เดือน อีกทั้งต้องจ่ายค่าเล่าเรียนของบุตรชายที่กำลังเรียนระดับมหาวิทยาลัย และลูกสาว ระดับประถม บางวันพยาบาลได้นั่งคุยกับผู้ป่วยข้างเตียง ผู้ป่วยก็จะได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง ออกมาให้พยาบาลฟัง ว่า” สงสารสามีที่ต้องทำงานหนักเพื่อตัวเอง... อยากตาย” ! แต่ก็ห่วงลูก ที่กำลังเรียน พยาบาลก็จะพูดให้กำลังใจอยู่บ่อยๆ ....
เช้าวันหนึ่ง สามีผู้ป่วย เดินเข้ามาหาพยาบาลที่ห้องไตเทียม ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี ? ยังไม่ทันที่พยาบาลจะพูดอะไร สามีผู้ก็รีบบอกว่า “ ภรรยา มาโรงพยาบาลด้วยอาการไม่รู้สติที่ตึกอุบัติเหตุ แพทย์กำลังตรวจอาการ พยาบาลทุกคนที่หน่วยไตก็ เข้าไปดูอาการ อย่างสนใจและเป็นห่วง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พยาบาลไตเทียม จะสนใจดูแล ติดตามอาการผู้ป่วยฟอกเลือดทุกคนที่มารักษาด้วยโรคอื่นที่ไม่ใช่มาฟอกเลือดอย่างเดียว และผู้ป่วยทุกคนถ้าเจ็บป่วย จะเข้ามาหาพยาบาลไตเทียมทุกครั้ง! ถ้ามองในแง่ดี คือ เค้าคงไว้ใจพยาบาลที่นี่มากกว่า.....สักพัก หมอที่ดูแลก็เดินเข้าแจ้งข่าวผู้ป่วย ว่าจำเป็นต้องรีบทำการฟอกเลือดด่วน ! เนื่องจาก ผู้ป่วยกำลังอยู่ในภาวะน้ำท่วมปอด ถ้าช้ากว่านี้ระบบหัวใจจะไม่ทำงาน เมื่อพยาบาลรับทราบก็ รีบเตรียมเครื่องฟอกไตทันที และตามผู้ป่วยซึ่งไม่รู้สึกตัวและใช้เครื่องช่วยหายใจ เข้าเครื่องฟอกไตตามแผนการรักษา หลังฟอกเลือด อาการผู้ป่วยดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่รู้สึกตัวและยังจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ส่งเข้าตึกไอซียู และได้มาฟอกเลือดอีกครั้งวันต่อมา .....ผู้ป่วยจึงเริ่มรู้สึกตัวดีขึ้น......ในวันที่ 2 หลังจากนอนในโรงพยาบาล และ ดีขึ้นเรื่อยๆ.... เรื่อยๆ จนสามารถ ถอดเครื่องช่วยหายใจ และกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ....ก่อนกลับบ้านผู้ป่วยและสามี ได้มาลา และกล่าวขอบคุณ ทีมแพทย์ พยาบาลไตเทียม ว่า “ถ้าทีมไม่ใส่ใจดูแลให้ทันเหตุการณ์ ผู้ป่วยคงไม่รอดแน่ๆ และขอถือโอกาสเชิญทุกคนไปร่วมงานบวชลูกชาย ที่ตั้งใจจะบวชให้แม่ หลังจาก รอดชีวิตกลับมาอีกครั้ง “ พร้อมมอบผลไม้และอาหาร....วันต่อมาทีมแพทย์และพยาบาลได้ไปงานตามที่ผู้ป่วยเชิญไว้ รู้สึกประทับใจในการดูแลการต้อนรับของญาติผู้ป่วยมาก แต่ ...สิ่งที่ประทับใจกว่า คือ ผู้ป่วย เข้ามาดูแลด้วยตัวเอง ทั้งๆที่อาการยังอ่อนเพลียอยู่ !
หลังจากผู้ป่วยฟอกเลือด ได้ประมาณ 1 ปี เริ่มบ่นให้พยาบาลฟังว่า สงสารสามีต้องหาเงินเพื่อมารักษาตัวเอง พยาบาลจึงแนะนำให้ผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้องเนื่องจากไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษา เพราะ สปสช.เข้ามาช่วยดูแล จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง พร้อมทั้งอธิบายวิธีการดูแล และยกตัวอย่างคนที่ทำแล้วให้ฟัง ผู้ป่วยยังไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทำได้ จึงขอเวลาตัดสินใจ..... จนกระทั่ง3 เดือนต่อมาจึงได้ตัดสินใจ เลือกทำ วิธีล้างไตทางช่องท้อง ทีมแพทย์พยาบาลที่ดูแลได้เตรียมผู้ป่วยและญาติในการทำฟอกไตทางช่องท้อง จนสำเร็จไปด้วยดี ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นผู้ป่วยไม่ได้จ่ายค่ารักษาเหมือนเช่นที่ผ่านมา ...เวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน ผู้ป่วย มีความจำเป็นต้องย้ายไปอยู่กับญาติที่ จังหวัดสมุทรสาคร ได้มาปรึกษากับพยาบาล เรื่องการติดตามการรักษาที่ต่อเนื่องจะต้องทำอย่างไร ? พยาบาลได้อธิบายระบบการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น และแจ้งแพทย์รับทราบข้อมูล เพื่อส่งตัวตามระเบียบทางราชการ เมื่อผู้ป่วยรับทราบได้เดินทางไปตามที่แจ้ง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการปฎิเสธการรักษา อ้างว่า อยู่คนละเขต ทำไม่ได้ แม้คนไข้จะพยายามอธิบายก็ไม่ได้ ผู้ป่วยจึงโทรศัทพ์มาหาพยาบาลเพื่อ ปรึกษาเรื่องดังกล่าว พยาบาลไตเทียมที่โรงพยาบาลท่าบ่อจึงโทรศัพท์ประสานไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร 2-3 ครั้ง ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งผู้ป่วยเริ่มหงุดหงิดกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางพยาบาลไตเทียมโรงพยาบาลท่าบ่อจึงให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นโดยให้น้ำยาล้างไตทางช่องท้องไปใช้จนกว่าจะดำเนินการสำเร็จ ......สุดท้าย ..! ไม่สำเร็จ ผู้ป่วยและลูกชาย จึงตัดสินใจย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ....และแล้วเหตุการณ์ก็ซ้ำรอยอีกครั้ง .....เหมือนเดิมทุกอย่าง จนลูกชายของผู้ป่วย ต้องโทรไปร้องเรียนที่สำนักงานหลักประกันแห่งชาติ ....ไม่มีอะไรเกิดขึ้น .!....นานมาก และทุกครั้งที่ย้าย พยาบาลจะติดตามและช่วยประสานงานด้วย ....เดือนที่ 3 ผู้ป่วยจึงย้ายไป โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่น ......คาดไม่ถึง ! ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี...ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย ...... ฝันเป็นจริงแล้ว ????
สุดท้าย วันที่ 18 ธันวาคม 2552 ผู้ป่วยกลับมาเยี่ยมพยาบาลพร้อมอาหารผลไม้ มากมาย “ ขอบคุณคุณหมอทกคน ถ้าคุณหมอไม่ช่วย อิฉันคงไม่รอดมาได้จนป่านนี้”.....
จบๆๆๆๆๆแล้วค่ะ....................................................
"สาวไตแท้ หน่วยไตเทียม"
ขอบพระคุณพยาบาลแทนผู้ป่วยน่ะค่ะ อ่านบทความแล้วอยากให้ทุกคน เป็นมืออาชีพอย่างคุณพยาบาล ไม่ใช่แค่มีอาชีพเป็นพยาบาล
ขอบคุณผู้รับบริการเช่นกันค่ะ ที่ให้พวกเราเกิดการเรียนรู้
มืออาชีพ และมีหัวใจของความเป็นมนุษย์ในการให้บริการจริงๆ แอบชื่นชมใกล้ๆ ติดตามผลงานมาโดยตลอด ประทับใจมากค่ะ
อ่านตามแล้วมันสะกิดใจมาก เป็นพยาบาลมืออาชีพ
คือต้นแบบของพยาบาลไตเทียมที่ดี
การก้าวเข้ามาเพื่อเป็นพยาบาลไตเทียมแล้วมีหัวใจใฝ่บริการนั้นยาก
เพราะเน้นที่่ค่าตอบแทนเป็นหลัก ผมเองก็เป็นพยาบาลไตเทียม
มันทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง และจะทำให้ดีที่สุด
เพื่อวิชาชีพที่มั่นคงยั่งยืน