หนอนและไส้เดือน...อาหารสัตว์มีระดับ


ทำไมหนอนยุคนี้แพงจัง นกและปลาที่อยากจะกินหนอนมีระดับก็ต้องมีเจ้านายกระเป๋าหนักหน่อย

ช่วงนี้คลายเครียดด้วยการเลี้ยงหนอนไว้ดูเล่น กะว่าถ้าโตดีเมื่อไหร่จะขายเป็นทุนเรียนต่อด๊อกเตอร์ซะหน่อย เนื่องจากราคาหนอนที่เป็นอาหารสัตว์ช่วงนี้ราคาสูงมาก ไส้เดือนแดงพันธุ์นอก ขนาดกล่องข้าว(โฟม) กล่องละ 25 บาท นับแล้วมีอยู่ 7-8 ตัว หนอนนกขีดละ 40 บาท กิโลละ 400 บาท หนอนยักษ์ขีดละ 50 บาท กิโลละ 500 บาท แม้แต่ราคาไรแดงก็ถีบตัวสูงขึ้นถึงกิโลละ 150 บาท เปิดดูเว็บก็เจอแต่ฝรั่งฮิตเลี้ยงไส้เดือนกันเป็นมหกรรมลดโลกร้อน มีคลิปมากมายและขนาดที่ตั้งเป็นชมรมคนรักไส้เดือนกันเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ใช้ชื่อคล้ายๆกัน เช่น Vermicomposting ส่วนเพื่อนฝูงและคนรอบตัวก็นิยมเลี้ยงนกกรงหัวจุกกันทั้งๆที่ก็มีกฎหมายควบคุม ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กำหนดให้นกปรอดทั้ง 36 ชนิด ที่พบในเมืองไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทนกที่ผู้ครอบครองต้องมีใบอนุญาตในการครอบครอง ส่วนการประกวดนกปรอดหัวโขนนั้นต้องปฏิบัติตามประกาศกรมป่าไม้ เรื่องการประกวดแข่งขันนกปรอดหัวโขน ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 โดยอธิบดีกรมป่าไม้ที่ระบุว่า

 

"ผู้ใดจะนำสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดนกปรอดหัวโขน หรือสัตว์ป่าอื่นๆ เข้าประกวดแข่งขัน จะต้องนำเอกสารการแจ้งการครอบครองตามมาตรา 66 หรือ 67 ซึ่งได้จดแจ้งต่อกรมป่าไม้แล้วภายในเดือนพฤษภาคม 2535 และต้องนำเอกสารดังกล่าวติดตัวสัตว์ป่าไปด้วยทุกครั้ง และผู้ที่นำสัตว์ป่าไปเข้าประกวดแข่งขันจะต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในเอกสาร ดังกล่าวข้างต้น หรือผู้เข้าประกวดนำสัตว์ป่าคุ้มครองอื่นไปแข่งขัน หรือมีการตกลงกันซื้อขายสัตว์ป่าคุ้มครองภายในสถานที่ประกวด จะมีความผิดตามมาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือทั้งจำทั้งปรับไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

แต่เซียนนกก็พยายามผลักดันให้หลุดออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ส่วนหนอนอาหารนกที่เลี้ยงอยู่ตอนนี้ก็มี 3 ชนิดคือ

หนอนนก (Mealworm) เป็นตัวอ่อนของแมลงชนิดหนึ่งชื่อว่า Meal-Beetle มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tenebrio molitor เป็นหนอนที่มีลำตัวสีน้ำตาลอ่อน ผอมยาว มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกยาว และจะเป็นดักแด้ก่อนที่จะกลายเป็นตัวเต็มวัยที่มีลักษณะแบบแมลงปีกแข็ง สีดำ เป็นแมลงศัตรูผลผลิตทางการเกษตรในยุ้งฉางของประเทศแถบหนาวหรือค่อนข้างหนาว เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และวงจรชีวิตช่วงที่เป็นตัวหนอนของแมลงชนิดนี้ยาวมาก จึงนิยมนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ปีก รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อย่างแพร่หลาย

หนอนยักษ์ (Super worms / Giant worm) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zophobas morio มีรูปร่างและสีคล้ายคลึงหนอนนกมาก ต่างกันตรงที่ส่วนหัวมีขนาดกลมใหญ่ มีรยางค์ขนาดใหญ่ 1 คู่ยื่นออกมาอย่างเด่นชัด แต่หนอนนกจะไม่มีสิ่งนี้ และสีเข้มกว่าหนอนนกมาก โตเต็มที่มีขนาดถึง 6 ซม. มาจากทางอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ในธรรมชาติดำรงชีวิตอยู่ตามใต้ใบไม้ ขอนไม้ หรือรากไม้ อาศัยกินซากพืชซากสัตว์ มนุษย์มีการนำมาใช้เป็นแมลงเหยื่ออย่างแพร่หลาย และบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น มีการเลี้ยงให้เป็นแมลงปีกแข็งเพื่อความเพลิดเพลิน ให้กินได้ทั้งผัก และผลไม้ที่ไม่แข็งมาก หรืออาหารปลาที่อ่อนนุ่ม ไม่ชอบรำ หรือเมล็ดพืชเท่าไหร่ แต่ก็สามารถกินได้ บางแหล่งมีการให้อาหารปลาหรืออาหารกุ้งจึงทำให้ลำตัวมีสีอมแดง เป็นที่นิยมของผู้เลี้ยงสัตว์มากกว่าสีน้ำตาลแบบธรรมดา แต่ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการไม่ได้แตกต่างกัน

อาหารหลักที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงคือ รำ ในประเทศเขตหนาวจะใช้รำข้าวสาลีซึ่งให้ผลผลิตดีกว่ารำข้าวเจ้า และหาได้ง่าย แต่ในไทยการใช้รำข้าวสาลีมีการใช้ในวงจำกัดเนื่องจากข้าวสาลีเราต้องนำเข้ามา และมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับรำข้าวเจ้าที่สามารถหาได้จากแทบทุกแห่งในไทย แต่รำทั้ง 2 ชนิดที่ใช้ก็ไม่แตกต่างกันมากในแง่ของความคุ้มทุนและผลผลิต ส่วนการเก็บรักษาของผู้เลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่มักให้อาหารสัตว์เม็ดสำเร็จรูป หรือเศษผักเนื่องจากสะดวก และหาง่ายกว่ารำการเก็บรักษา บางที่ใช้หัวอาหารไก่เล็ก แต่จากที่ลองใช้ต่อเนื่องกันพบว่ามีหนอนตายเพราะลอกคราบไม่ออก ก็ควรให้อาหารประเภทพืชผักที่มีน้ำให้กับหนอนบ้าง แต่ถ้าพืชนั้นฉ่ำนำเกินไปก็อาจนำเชื้อรามาติดหนอนได้ 
     ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเก็บในภาชนะที่เป็นของแข็งผิวเรียบลื่น เช่น กระเบื้องเคลือบ แก้ว โลหะ (ที่ไม่ขึ้นสนิม) เพื่อกันหนอนปีนออก ไม่แนะนำให้เก็บในภาชนะพลาสติกเนื่องจากว่าหากไม่มีการให้อาหารแก่หนอนนกอย่างเพียงพอหรือเก็บในที่แคบมีความหนาแน่นสูง หนอนนกอาจจะขูดกินเนื้อพลาสติกเข้าไปด้วยได้ ซึ่งเมื่อนำไปให้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงก็จะได้รับเอาพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปด้วยภาชนะที่เป็นไม้ห้ามใช้โดยเด็ดขาดไม่เพียงสามารถปีนออกได้แล้วยังสามารถเจาะให้ทะลุได้สบายๆ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกินกระดาษ ขี้เลื่อยฯลฯ ที่มีกากใยได้เป็นอย่างดี  อาหารที่ให้หากเป็นไปได้ควรใส่ไว้ในภาชนะเลี้ยงให้หนาราวๆ 1 นิ้ว เป็นดีที่สุดเพราะหนอนเหล่านี้มีนิสัยชอบมุดและช่วยในการรักษาอุณหภูมิและความชื้น แต่หากใส่น้อยกว่านี้ก็ไม่เป็นอะไร ตามสะดวกผู้เลี้ยง อาหารหนอนนกให้ได้แทบจะทุกอย่างตั้งแต่อาหารสัตว์สำเร็จรูป เศษผักรวมไปถึงเศษอาหาร แต่ควรระวังเรื่องของน้ำเพราะหนอนนกอาจจมน้ำเนื่องจากมีท่อหายใจอยู่ที่โคนขา หนอนนกที่เปียกน้ำอาจจะตายได้ ดังนั้นหากจะให้น้ำควรให้โดยคลุกในอาหารหรือให้ผักจะดีกว่า ส่วนหนอนยักษ์อาหารที่ให้ควรเป็นผักผลไม้ หรืออาหารเม็ดสัตว์สำเร็จรูปที่คลุกน้ำให้อ่อนนุ่ม เนื่องจากหนอนยักษ์แทบจะไม่สนใจอาหารที่แห้งและแข็ง ฉันทดลองตามนี้แล้วไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันไม่กินชมพู่เพชรที่อุตส่าห์บรรจงป้อน แต่ดูเหมือนจะชอบรำและงาที่ฉันโรยให้มากกว่า ผักจากตลาดนั้นไม่ควรใส่เพราะมียาฆ่าแมลงแค่โยนลงไปในกล่องหนอนก็แตกฮือแล้ว ดีที่สุดคือใบตำลึง ฟรีและปลอดสารพิษ ข้อสำคัญในการให้ผักหรือผลไม้คือ ระวังการเน่าเสียและจะนำมาซึ่งหนอนแมลงวันและแมลงหวี่ ท้ายที่สุดจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้
     - สถานที่เก็บรักษาไม่ควรโดนแดด หรือมีอุณหภูมิสูงเกินไป และควรมีความชื้นซักหน่อย วิธีที่แนะนำคือควรวางภาชนะที่เลี้ยงหนอนไว้บนถาดใส่น้ำ จากนั้นจึงคลุมทั้งหมดด้วยตาข่ายหรือฝาชี เพื่อช่วยเพิ่มความชื้นและยังกันมด จิ้งจก หรือศัตรูอื่นๆได้อีกด้วย

     - ศัตรูสำคัญของหนอนเหล่านี้ คือ มด จิ้งจก แมลงสาบ นก และมอด (ในรายที่ใช้รำเลี้ยง) การเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดและหล่อน้ำไว้จะดีที่สุด เหมือนที่ทำกับตู้กับข้าว

     - ควรมีการทำความสะอาดภาชนะเลี้ยงและร่อนแยกหนอนแมลงออกจากสิ่งขับถ่ายอยู่เสมอๆ เพื่อสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยง และเป็นช่วยลดการสูญเสียหนอนแมลงได้ด้วย ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง

เฮ้อ! เลี้ยงหนอนคลายเครียดแต่มองท่าจะเครียดกว่าเดิม ส่วนหนอนชนิดสุดท้ายที่แพงสุดสุด คือ เวทเวิร์ม(wet worm)ยังไม่ได้ลองให้อาหาร มองดูแล้วคล้าย sago worm น่าจะกินข้าวฟ่างบด ถ้าจะใช้จริงคงจะเอาไป autoclave ก่อนล่ะ แค่นี้คนข้างๆตัวก็ร้องเฮ้ย เธอเลี้ยงอะไรมากมาย ยั้วเยี้ย งั้นเชิญชวนคุณแม่บ้านมาเลี้ยงกำจัดขยะในครัวเรือนลดโลกร้อนกันดีกว่าค่ะ ปล่อยพวกผู้ชายใจปลาซิวพวกนั้นไปเถอะ ถ้าพูดจาสั่งเราผัดกะเพราตอนเมาไม่ดี ระวัง จะได้กินผัดกะเพราหนอนซักวันเนอะ!

ที่มา:ข้อมูลเลี้ยงหนอน http://www.aqua-medical.com/article/article5.htm

หมายเลขบันทึก: 334608เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2010 20:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านไปกลัวไปค่ะ พอดีไม่ค่อยจะถูกกะน้องหนอนและพี่ไส้เดือนสักเท่าไหร่ค่ะ ^-^

..หนอนผัดกระเพรา..คงจะกินได้เฉพาะคนเงินเดือนตั้งแต่สามหมื่นขึ้นไปที่พิเรนหน่อย...เพราะเป็นหนอนเลี้ยงและคงจะถูกโฆษณาว่า..ปลอดสารพิษ..ลดไขมันในเลือดได้..คนกินหนอนเพราะไม่ต้องซื้อ..อิอิ...สงสารนกในกรงที่มีโอกาศกินหนอนกิโลละห้าร้อย..แต่หมดอิสระภาพ...๕๕๕๖

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท