หลงใหลใฝ่เฝ้าโลกเร่ารุ่มร้อน.... ระเริง
ฤทัยดั่งเพลิง....ร้อนรุมสุมพา
โลกร้อนรอนรานแรมวัน....ไฟอันฉะเขาแนวป่า
ควันพวยพุ่งพา น่าเศร้าฤทัย.....
หลงใหลใฝ่เฝ้าไฟเร่ารุ่มร้อน.....ฤดี
ใจดั่งอัคคี.....ร้อนในหัวใจ
โขดเขาตื้นเขินเนิ่นนาน
ธารใสละหารห้วยไพร
แห้งหายเหือดไป ให้เศร้าอุรา....
โอ้น้ำใส....ก่อนเคยได้ด่ำดื่มกิน
กระแสสินธุ์จากถิ่นไพรใหญ่หนักหนา
ขุนเขาเขินเนินคีรีมีธารา...
เลี้ยงสัตว์ป่า พฤกษาไพร ได้มากมี....
โอ้ป่าเขา.....ลำเนาไพร ได้อยู่คง
หากโค่นลงล้มพฤกษ์ไพรให้หมองศรี
ช่วยเหลียวแล แค่ฝนปะ ชะดินมี
ธารนที พัดท่วมบ่า น่าเศร้าใจ
โอ้เก้งกวาง...อีกทั้งช้าง ค่างนกไพร
สัตว์น้อยใหญ่ ในพนาล่าถอยหนี
น้ำแห้งเหือด ดั่งดินเดือด เหือดแห้งมี
ขอน้องพี่ ยังต้นน้ำ ฉ่ำธารใจ .....
หลงใหลใฝ่เฝ้า โลกเราเร่าร้อน.... เผชิญ
หากมัวหลงเพลิน...สายเกินสายไป
ขอให้ใจรักคงมั่น ร่วมกันสรรสร้างสิ่งใหม่
ช่วยเหลือเกื้อไป โลกได้อยู่ยืน....
...................
"สุนทรียะผ่านบทกลอน"
เพื่อให้นักเรียนรู้ทุกท่านได้ตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์พลังงานที่ลดน้อยลงอันเนื่องจากภาวะโลกร้อน (โลกร้อนส่งผลกระทบต่อคน) ด้วยการช่วยกันรักษาธรรมชาิติต้นน้ำลำธารไพร ให้ระบบนิเวศคงอยู่ ยังความชุ่มชื้นและความสวยงามแก่ธรรมชาติ เป็นการลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง เพราะวันนี้หากเราทำลาย วันหน้าเราก็ได้ผลกระทบจากที่เราทำลายนั่นเองครับ
ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553
ขอเป็นคนหนึ่งที่มาร่วมลดโลกร้อนค่ะ :-)
ขอบคุณครับ ท่าน Baby
สวัสดีค่ะ
ขอบพระคุณ พี่ ครูคิม
สวัสดีค่ะ...น้อง ณัฐวรรธน์
เป็นกลอนที่ไพเราะและทันสมัยมากๆ
ขอเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
(หลงใหล)...จะสมบูรณ์มากขึ้นนะคะ อ่านแล้วช่วยลบเม้นท้นี้ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณครับ ครูธรรมทิพย์
ขอบพระคุณครับครูอี๊ด
จากจุดหนึ่งที่ละแผ่นเป็นแก่นสาร
จุดตำนานปกปักช่วยรักษา
น้ำชะอุ่มชุ่มพฤกษ์สายธารา
ดินน้ำป่าฟ้าคงอุดมกาล
ขอบพระคุณ ครับ ครู กวิน
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่ครูคิมค่ะ น่าจะขออนุญาตนำไปสอนให้เด็กฝึกคิดวิเคราะห์กันนะคะ เอารูปนี้มาฝากค่ะ
ขอบพระคุณครับ คุณครูหมูจ๋า
อ่านบันทึกนี้แล้วแสดงว่าผู้แต่งมีสุนทรียในการมองธรรมชาติ คนที่มองเห็นความงามของธรรมชาติ คนเขียภาพธรรมชาติ คนถ่ายภาพธรรมชาติ หรือคนที่ต้องอยู่อาศัยกับธรรมชาติ ล้วนมีสายสัมพันธ์ทางคุณค่า กับธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง สุนทรียภาพกับธรรมชาติแมกไม้ป่าเขา ถ้ามีขึ้นในใจแล้วไม่จำเป็นต้องรณรงค์อะไรมากมาย
โลกทุกวันนี้พาเราโค่น ถาก ถาง ขุด เจาะ เพื่อหามูลค่าจากธรรมชาติ คนเริ่มห่างไกลธรรมชาติออกไปทุกวันๆ สายสัมพันธ์เลือนลาง ธรรมชาติคือมารดา เราเฉกเช่นบุตรที่ข่มขืนกระทำชำเรามารดาตนเอง มันเป็นเช่นนี้จริง...จนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง
ขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์ ฝนแสนห่า
ป่าไม้ให้ร่มรื่น แสนชุ่มชื่นเพราะอุดม
ความเย็นจากสายลม พร่างพรมพัดพาร้อนไป
สายน้ำในลำธาร แสนสราญสดชื่นใจ
ท้องฟ้านภาใส ดูกว้างไกลสุดสายตา
นับวันภาพเหล่านี้ สิ่งดีดีมีคุณค่า
หดหายไปทุกครา ย้ำเตือนว่าจะมีภัย
ท้องฟ้าจะเปลี่ยนสี แทนฟ้าที่เคยสดใส
ผืนป่าพนาไพร อีกน้ำใสจะกลับกลาย
หากยังรักผืนป่า โปรดรักษาอย่าทำลาย
รู้บาปรู้ละอาย ยังไม่สายจะร่วมมือ
ตั้งใจจะมาฝากในบันทึกนี้นะ...แต่ผิดพลาดไปนิดนึง...ช่วยไปลบในบันทึกก่อนนี้ด้วยนะคะ...^-^
ขอบพระคุณครับ ท่านอาจารย์ กิ่งไผ่ฯ