นายประยูร
นายประยูร ประยูร รักษ์กำเนิด

ไอทีเพื่อชีวิต


ไอทีเพื่อชีวิต

หลังจากวันที่ 26 ก.ค. 2552 ที่ผ่านมาท่ามกลางกระแสฮือฮาในเรื่องของเหตุบ้านการเมือง ก็ยังมีประเด็นให้พูดถึงเรื่องที่หลายๆคนอาจได้ยินแล้วแต่ไม่เข้าใจ เกี่ยวกับบริการ Internet Social Network อาจแปลเป็นไทยตามความเข้าใจของผมได้ว่า "เครือข่ายสายสัมพันธ์" ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้บริการกันอยู่ในบ้านเราขณะนี้ เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2551 เราจะได้ยินคำว่า "ไฮไฟท์" (Hi5 - Hi-Five น่าจะมีที่มาจากการทักทายด้วยการร้องทักแล้วแปะมือกัน 5 นิ้วครับ) แล้วพอต้นๆปีเราก็จะได้ยินคำว่า "เฟซบุคส์" (FaceBook) มาจนถึงวันนี้ (เขียนวันที่ 28/7/2552) เราจะได้ยินวัยรุ่น คนทันสมัย คนใช้ไอที และหน้าหนังสือพิมพ์พูดถึง "ทวิตเตอร์" (Twitter) กันอย่างมากมาย หลายๆท่านคงรู้จักแล้ว แต่หลายๆท่านก็ยังสงสัยว่า Social Network มันคืออะไร? สำคัญอย่างไร? วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องนี้ครับ...

เรื่องของ Social Network น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับยุคนี้ เพราะมนุษย์ยุคเราๆท่านๆนี้ มีแนวโน้มที่จะมีสายสัมพันธ์ต่อกันตามธรรมชาติลดน้อยลง อันจะเห็นได้จาก พูดคุยกันต่อหน้าน้อยลง, ครอบครัวไม่ค่อยได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน, คนบ้านใกล้เรือนเคียงพูดจากันน้อยลงและอาจไม่รู้จักกัน, ญาติสนิทมิตรสหายไปมาหาสู่กันน้อยลง, เพื่อนฝูงที่มีก็เป็นเพื่อนที่ทำงาน หรือเพื่อนร่วมงานเสียส่วนใหญ่ และมักคบกันเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายทางกิจการงานธุรกิจเป็นสำคัญ, เพื่อนเก่าสมัยเรียนยังเหลือติดต่อกันอยู่ไม่กี่คนและมีแนวโน้มค่อยๆลดลง ทั้งนี้เนื่องมาจากสภาพทางสังคมที่ผลักดันให้ต้องดิ้นรนแข่งขันกัน เน้นไปทางวัตถุนิยม จนลืมนึกถึงเรื่องของความสุขทางใจ และสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดเทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆ ที่สามารถตอบสนองในการให้คนได้สื่อสารกันง่ายขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ จึงทำให้ โทรศัพท์มือถือ อาจกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบันไปแล้ว (ในประเทศไทยแืทบจะมีทุกคนทุกอาชีำพ) และอาจเสริมด้วยอีเมลล์ (E-mail) ในการติดต่อสื่อสารที่ต้องการลายลักษณ์อักษร บันทึกย่อ หรือส่งไฟล์เอกสาร ไฟล์ภาพ ให้กันแทนการส่งจดหมายทางไปรษณีย์ แนวโน้มที่การสื่อสารสมัยใหม่ได้เข้ามาทดแทนการสื่อสารแบบดั้งเดิมนี้ เป็นไปอย่างต่อเนื่องดังที่เราทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงข้อนี้...

ทำไม Social Network ถึงได้รับความนิยม?
ที่กล่าวมานั้นจะพบว่าสื่อทั่วไปนั้น จะเน้นการติดต่อกันระหว่างต้นทางกับปลายทางที่ระบุโดยเฉพาะ ผู้ที่ไม่ได้ระบุจะไม่สามารถรับข่าวสารได้ แต่จะมีสื่อบางประเภทที่สร้างขึ้นมาสำหรับการสื่อสารจากต้นทางไปยังปลายทางที่ไม่ระบุแบบเฉพาะเจาะจง ที่ยกตัวอย่างให้เห็นชัดได้ก็คือ ป้ายโฆษณาครับ ส่วนในโลกไอทีเรามีอะไรครับ? เรามี "เว็บบอร์ด" (Webboard) ใช่ไหมครับ มันช่วยได้ในเรื่องการประชาสัมพันธ์แต่มันก็ไม่ตอบสนองด้านอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้อุปนิสัยใจคอของกันและกันเท่าไหร่ บางท่านอาจมองไปที่ "บล็อค" (Blog - Web log) ซึ่งเป็นที่ระบายความรู้สึก เป็นไดอารี่ออนไลน์ เป็นที่เผยแพร่ความคิดความรู้สึกนึกคิด แต่มันยังห่างกับความต้องการครับ "สื่อประเภทที่มนุษย์ยุคนี้ยังขาดอยู่นั้น เปรียบเทียบไปแล้วคงจะเหมือนกับ การนั่งล้อมวงคุยกันในหมู่เพื่อนฝูง ในโต๊ะอาหารที่จะมีเรื่องคุยหลากหลาย มีเรื่องที่สนใจเหมือนกันบ้างต่างกันบ้าง ในขณะเดียวกันก็จะมีข้อมูลข่าวสารที่เราสนใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง ผ่านเข้ามา ให้ได้แลกเปลี่ยนแนวคิด ความรู้ซึ่งกันและกัน และอาจได้รู้จักเพื่อนใหม่จากเพื่อนของเพื่อน มาเป็นเพื่อนกันในเวลาต่อมา แน่นอนครับปัจจุบันเราก็มีแล้วนั่นคือ Social Network !!!" น่าสนใจใช่ไหมครับ

Social Network เป็นเครือข่ายความสัมพันธ์เสมือนที่ตอบสนองกับการสร้างสายสัมพันธ์ โยงใยให้เราได้เจอบุคคลที่คุยกันในเรื่องที่สนใจได้อย่างคอเดียวกัน สามารถเชื่อมโยงเพื่อนของเรา เข้ากับเพื่อนของเขา สามารถสร้างสรรค์สังคมใหม่ๆให้กับทุกคน สามารถเชื่อมโยงการสื่อสารภายในองค์กร และภายนอกองค์กรเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตของมนุษย์ยุคปัจจุบันนั่นเองครับ โดยภาพรวม Social Network เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับองค์กรจากปากคำของเราเองได้เป็นอย่างดี ผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่จะสามารถสื่อสารกับคนในองค์กรของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องประสบปัญหาการบิดเบือนข้อความ หรือการสื่อสารที่ตกหล่นอีกต่อไป ครูอาจารย์สามารถให้แง่คิดหรือสิ่งละอันพันละน้อยแก่ลูกศิษย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้พูดกันทีเดียวคราวละยาวๆ นักวิจัยอาจพบอะไรที่น่าสนใจแล้วสื่อสารให้รู้กันทุกคนในเครือข่ายเดียวกันได้ทันทีเพื่อให้ทีมรับรู้สิ่งน่าสนใจไปพร้อมๆกัน

แล้วใช้งานยังไง?
รูปแบบการใช้งานของ Social Network นั้นเกือบจะเหมือนๆกันก็คือ เริ่มจากคุณสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกของระบบ (ซึ่งเกือบ 100% เป็นบริการฟรี) เพื่อกำหนดชื่อสมาชิกและรหัสผ่าน และจะต้องใช้ในเวลาจะบันทึกหรือเช็คข้อความเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ "แอคเคาท์" (Account) และเมื่อสมัคร แล้วคุณอาจแนะนำให้เพื่อนของคุณสมัครเข้ามาในระบบด้วย และเชื่อมโยงกันไว้ด้วยการ "ฟอลโล่ว์" (Follow - ติดตามความเคลื่อนไหว) ของกันและกัน เมื่อเพื่อนของคุณบันทึกข้อความใหม่เข้ามา คุณก็จะได้รับข้อความนั้นทันที แต่ที่พิเศษก็คือ คุณสามารถหาเพื่อนใหม่ๆได้จากการค้นหาเหมือนๆกับการค้นหาเว็บที่คุณสนใจผ่านเว็บค้นหาเช่น "กูเกิ้ล" (Google) นั่นเลยครับ เช่นค้นหาจากคำว่า ธุรกิจเครือข่าย คุณก็จะพบกับคนที่สนใจธุรกิจเครือข่ายด้วยกัน หรืออาจค้นหาจากชื่อสถานที่ที่คุณสนใจ ก็อาจเจอคนที่มีข้อมูลหรือสนใจในเรื่องเดียวกันกับคุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะเจอเพื่อนใหม่แล้ว และยังสามารถ Follow เพื่อนใหม่นี้เพื่อรับรู้เรื่องใหม่ๆเวลาที่เขาบันทึกข้อความใหม่เข้ามา หรืออาจจะเริ่มสะสมเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อนก็ยังได้ครับ โดยดูว่าเพื่อนของเรา Follow ใครเอาไว้บ้างจาก "ฟอลโล่ว์ลิสต์" (Follow list) เราก็อาจเจอกับคนที่เราอยากเป็นเพื่อนกับเขาด้วยก็เป็นได้ เมื่อเจอแล้วก็ทำเหมือนเดิมครับ Follow เอาไว้เลย ง่ายๆแค่นี้ เครือข่ายสายสัมพันธ์ของเราก็จะค่อยๆเติบโตจนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ที่สำคัญก็คือ อย่าส่งข้อความรบกวนเพื่อนใหม่ของคุณนะครับ เพราะหากเขารับไม่ได้เขาอาจยกเลิกสัมพันธ์กับคุณได้ด้วยการ "บล๊อก" (Block) คุณออกจากเครือข่ายของเขาได้ตามสิทธิส่วนบุคคลของเขาครับ

ประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้อย่างไร?
มาปิดท้ายด้วยเรื่องใกล้ตัวกันหน่อยครับ คือการประยุกต์ใช้ Social Network ในงานธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับนักธุรกิจเครือข่ายอิสระ เช่น ผู้นำองค์กรธุรกิจเครือข่ายท่านจะสามารถ "สื่อสารกับองค์กร" ขนาดใหญ่ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพได้รับทุกคน คุยได้ทุกเวลา ไม่ตกหล่น ผ่านช่องทาง Social Network ครับ นอกจากนี้อาจจะใช้ใน "การหาเพื่อนใหม่ๆ" คนเครือข่ายอย่างเราๆยังต้องการรู้จักคนจำนวนมาก เผื่อว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะช่วยเติมส่วนที่ขาดของเขา และการเข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจของเขาเหล่านั้นจะสร้างความสำเร็จให้กับทั้งเขาและเราได้ เราจึงควรสนใจ Social Network เป็นพิเศษครับ ในส่วนของ ผู้ประกอบการ นั้นการใช้ Social Network ยังสามารถช่วยให้เกิดการ "สื่อสารเรื่องกิจกรรมการงานในองค์กร" ได้ด้วยและอาจให้ความรู้สึกดีกว่าการประชุมงานในห้องประชุมได้ในบางโอกาสและมีบันทึกข้อความไว้ให้โดยอัตโนมัติซะด้วยสิครับ เช่น ฝ่ายการตลาดอาจกำลังจะปิดต้นวารสารในสัปดาห์นี้ก็บันทึกลงมา พนักงานฝ่ายขายอาจมีเรื่องที่อยากจะฝากสื่อสารกับลูกค้าบ้างก็จะทราบและเปิดประเด็นใหม่ให้ได้รับรู้ ส่วนผู้บริหารนั้นทั้งหมดนี้จะอยู่ในสายตาของท่าน และสามารถให้คำแนะนำหรือตัดสินใจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ทันที รวมไปถึงการส่งโปรโมชั่นใหม่กับศูนย์กระจายสินค้าเพื่อให้สื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็ว และอาจได้รับคำแนะนำใหม่ๆได้อีกด้วย แต่มีข้อที่ควรจะต้องระวังอยู่บ้างเหมือนกันในเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อการแทรกแทรงงานภายในองค์กรด้วยครับ จะใช้มากใช้น้อยแค่ไหนนั้นคงต้องเป็นเรื่องของการกำหนดนโยบายครับ

ของไทยก็มีนะ
ท้ายที่สุดนี้ผมก็อยากจะทิ้งท้ายด้วยการแนะนำบริการ Social Network ของไทยที่ชื่อ "นกนก" (noknok) http://noknok.sanook.com/ ซึ่งมีแง่ดีกว่าของนอกตรงที่เป็นภาษาไทยครับ และเชื่อมโยงกับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย อันจะสร้างความง่ายในการเริ่มต้นหัดใช้ของคนที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาต่างประเทศ และระบบไอที และยังได้ประโยชน์จากการสื่อสารผ่านระบบ SMS ของค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ ที่จะมีค่าบริการที่ต่ำกว่าจากนอกประเทศ และพิเศษสุดครับ!! ปัจจุบัน "นกนก" ยังให้บริการรับ SMS ฟรีอยู่ 150 ข้อความต่อ 1 Account รีบๆลองใช้กันดูนะครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายกันทุกคนครับ
ปล. ขณะที่กำลังแก้ไขตกแต่งสีสรรและวรรคตอนของบทความนี้ มีเสียงนกร้อง ทวิตๆๆ มาเป็นระยะๆ

คำสำคัญ (Tags): #ไอที
หมายเลขบันทึก: 338977เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2010 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท