• มองในมุมหนึ่ง การทำ KM เป็นการหมุนเกลียวความรู้ (knowledge spiral) จำนวนมาก เพื่อยกระดับความรู้ขึ้นไป โดยที่เกลียวความรู้เหล่านี้หมุนรอบๆ การปฏิบัติ หรือการเอาความรู้ไปใช้ ใช้แล้วใช้อีก (re-use)
• ถ้าทำ KM เป็น เกลียวความรู้จะหมุนขึ้นโดยอัตโนมัติ หรือโดยออกแรง/ใช้ความพยายาม น้อยมาก
• เครื่องมือในการหมุนเกลียวความรู้อย่างเป็นอัตโนมัติ ได้แก่ Taskforce, Multifunction Team, AAR, BAR, Retrospect, Peer Assist, Weblog, Storytelling, Dialogue เป็นต้น
• เกลียวความรู้จะหมุนขึ้นได้ดีต้องมี “พื้นที่” ที่ผู้คนรู้สึกเป็นอิสระ รู้สึกไว้วางใจ เชื่อถือซึ่งกันและกัน เป็น “พื้นที่” ที่สะดวกต่อการพบปะแลกเปลี่ยน มีบรรยากาศที่กระตุ้นความรู้สึกดีๆ ที่จะช่วยให้ปลดปล่อยความรู้ฝังลึกออกมาได้ง่าย “พื้นที่” ดังกล่าว อาจเป็นพื้นที่จริง หรือพื้นที่เสมือนก็ได้
• เกลียวความรู้ หมุนโดยคนและความสัมพันธ์ระหว่างคน คนที่เป็นสมาชิก KM ต้องมีทักษะในการเปิดทวารทั้ง ๔ คือใจ หู ปาก และตา เปิดใจรับรู้เรื่องราว ความคิด ความเชื่อ ที่อาจไม่ตรงกับของเรา เปิดหูเพื่อฟังอย่างลุ่มลึก อย่างตั้งใจ เปิดปากเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เป็นเรื่องของความสำเร็จ วิธีการบรรลุความสำเร็จ เปิดตาเพื่อให้เห็นช้างทั้งตัว เห็นความเชื่อมโยง “ตา” ในที่นี้หมายถึง “ตาใน” คือ “ตาปัญญา” ไม่ใช่ “ตาเนื้อ”
• การหมุนเกลียวความรู้ขึ้น ต้องการทั้ง T&T และ P&P คือ Technology & Tools และ People & Process แต่ P&P สำคัญกว่า
วิจารณ์ พานิช
๑ มิย. ๔๙
ไม่มีความเห็น