ตัวเลือกมาก ความสับสน และจิตวิทยาการขอ
สวัสดีครับ... ชาว G2K ทุกท่าน ^^
วันนี้ขอนแก่นยังร้อนอย่างต่อเนื่องครับ อยู่ดีๆผมก็ปวดหัวซะงั้น
แต่ไม่เป็นไรครับ ตั้งใจจะนำเรื่องนี้มาฝากพี่น้องชาว G2K
จะปล่อยให้เรื่องปวดหัวแค่นี้ มาเป็นอุปสรรคได้อย่างไร ว่าแล้วก็เข้าเรื่องกันเลยครับ
ผมว่าหลายท่านคงประสบปัญหาการ "เลือกไม่ถูก" กันใช่ไหมครับ ???
แล้วเลือกไม่ถูกนี้ สาเหตุหลักๆเกิดมาจาก "ตัวเลือกที่เยอะจนเกินไป" นั้นเอง
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวผมเองวันนี้เลยครับ... เมื่อตอนกลางวัน ผมได้ไปเที่ยว Central Plaza
กับเพื่อนของผม ทีนี้จังหวะที่หาที่จอดรถ วันนี้ไม่เหมือนทุกวันครับ คนน้อยมาก... เพื่อนผมก็เลี้ยวรถไปหาที่จอด
วนอยู่นานครับ... ผมเลยถามมันว่า "ทำไมไม่จอดละนาย" เพื่อนผมตอบกลับมาว่า "ที่ว่างมันเยอะเกินหวะ
ไม่รู้จะจอดตรงไหนเลย เราว่าไปวนดูชั้นบนก่อนดีกว่า (ซะงั้น)" ครับ... นี้เป็นเคสแรกที่เกิดขึ้น
มาดูเคสที่ 2 ครับ... อันนี้ผมได้ยินจากเพื่อนสาวเล่าให้ฟังเมื่อไม่นานมานี้ เธอเล่าว่า "แกเชื่อไหมว่าวันนี้ฉันไปเจอ
ร้านรองเท้าถูกใจมาละ" ผมถามต่อ "แล้วได้รองเท้ากลับมากี่คู่ละ" เธอตอบ "ไม่ได้หวะ... แบบว่ารักพี่เสียดายน้อง
มีแต่คู่น่ารักๆ ชอบหลายคู่เลย เดินวนแล้ววนอีก ไปๆมาๆ เลยเดินออกมาเลย (ซะงั้น)"
ส่วนเคสที่ 3 อันนี้ผมได้ยินในคาบเรียนวิชา Marketing ครับ อาจารย์เล่าให้ฟังว่า "คุณเชื่อไหมว่า สินค้าตัวอย่าง
มากเกินไปก็ไม่ดี" เพื่อนคนหนึ่งถาม "ทำไมละครับ" อาจารย์เล่าต่อ "มีอยู่เคสหนึ่ง เขาเคยทดสอบพฤติกรรมของคน
ว่าจะเลือกแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่างสินค้าที่มีตัวอย่างให้ทดลอง 3 ชนิด กับอีกอย่างที่มีให้ลองกว่า 30 ชนิด
ผลปรากฎว่า ผู้บริโภคเลือกที่จะหยิบตัวอย่างในกลุ่มที่มี 3 ชนิด มาชิมมากกว่าสินค้าที่มีตัวอย่าง 30 ชนิด"
ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกันครับ ว่าทั้ง 3 เคสนี้ ให้อะไรกับเราบ้าง เกี่ยวกับ"จิตวิทยาการขอ"ยังไงน้อ ตามผมมาครับ ^^
จะเห็นได้ว่า... ทั้ง 3 เคส แสดงให้เห็นว่า "ตัวเลือกที่มากเกินไป" นั้นกลายเป็นดาบ 2 คมไปซะงั้น เพราะมันทำให้ผู้บริโภค
เกิดความสับสน จนไม่กล้าที่จะตัดสินใจเลือก/ซื้อ ทั้งๆที่มีสินค้าที่พวกเขาต้องการอยู่ และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ได้มันมา
อย่างเคสแรก-ทั่งๆที่ที่จอดรถว่างเยอะ แต่เพื่อนผมกลับเลือกที่จะวนไปดูชั้นต่อไป เคสที่ 2 -ทั้งๆที่รองเท้าในร้านนั้นโดนใจมากมาย
แต่เธอตัดสินใจไม่ถูกเพราะรักพี่เสียดายน้อง เลยตัดสินใจเดินออกมาไม่ซื้อซะงั้น เคสที่ 3 - สินค้าตัวอย่างที่มีให้เลือก 3 ชนิด
กลับได้รับความนิยมมากกว่าสินค้าที่มีให้ลองมากถึง 30 ชนิด... สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือผู้บริโภคไม่ได้ต้องการตัวเลือกที่มากมาย
จนเกินไปครับ... แต่พวกเขาต้องการ"ความพอดี"ต่างหาก ดังนั้น... "การขอด้วยความพอดี" จึงเป็นอะไรที่เราจะมองข้ามไม่ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... กับ "การขอด้วยความพอดี" ทั้ง 3 เคสบอกเราว่า แบบเยอะ ตัวเลือกที่หลากหลายไม่ไช่คำตอบของ
ผู้บริโภคเสมอไป สินค้าบางชนิด ความพอดีเป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริโภคยังคงต้องการให้มีอะไรมาเปรียบเทียบ เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อ
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต้องการมากมายซะจนทำให้เขาเลือกไม่ถูก วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุด ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวของ"พนักงานขาย"ครับ
ที่จะต้องคอยให้คำแนะนำ/ข้อมูลกับผู้บริโภค เพื่อที่จะเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ลดความสับสน
ลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของท่านดูนะครับ... ผมว่า "การขอด้วยความพอดี" นี้ มันจะช่วยให้ท่านปิดการขายได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
แล้วคุณละคิดยังไง ^^
ท่านที่สนใจจะอ่านเคส"จิตวิทยาการขอ"ที่ เกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มเติ่ม
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> AI-Positive Psychology For Business ( จิตวิทยาการขอสำหรับธุรกิจ )<<<
ใน AI-The Psychology of Persuasion For Business ( จิตวิทยาการสร้างแรงจูงใจสำหรับธุรกิจ )
ความเห็น (18)
เป็นเหมือนกันค่ะ เวลาเลือกซื้อของ ถ้ามีเยอะก็จะไม่เลือกอะไร
แต่ถ้าพนักงานมาช่วยตัดสินใจ หรือ ฟันธง ..มี % การซื้อของผู้หญิงสูงค่ะ (ถ้ายิ่งมาคนเดียวละก็..เสร็จเลย) ^^
เป็นบ่อยมากคะ ถ้ามีตัวเลือกมาก ก็มักจะใช้เวลาเลือกจนดูว่าเลือกมากจนดูเป็นการลังเลนะคะ
การเลือกผู้ชายก็เหมือนกันเปี๊ยบเลยคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ
@คุณเพลินเพลง >>> คงจะเหมือนกับเพื่อนสาวของผม ที่เลือกไปเลือกมากลายเป็นไม่เลือกไปซะอย่างงั้น ขอบคุณที่แวะมาครับ ^^
@คุณเจ >>> ไปๆมาๆ กลายเป็นลังเล จนขอกลับไปคิดดูอีกวัน และสุดท้ายก็ไม่ได้กลับมาซื้อใช่ไหมครับ ขอบคุณแที่เข้ามาแชร์กันครับ ^^
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
ถ้ามีคนช่วยฟันธง จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
อิอิ...เข้าล็อค สามารถอ่านเรื่องฟันธงได้ที่Blog แป้งจัง นะค๊ะ ^_^
ขอบคุณแป้งที่แวะมานะ ^^
อะฮะ... เอาไปใช้ต่อยอด หรือประกอบกันเรื่องของแป้งได้เต็มที่เลยนะ
ยินดีมากมานจ้า ที่มันเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน และเพื่อนๆ ^^
----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
มีให้เลือกเยอะ เหมาหมดก็ไม่ได้ งบไม่พอ รักพี่เสียดายน้อง เอาทั้งน้องและพี่ (นอกเรื่องละ)
อืม...อาจจะไม่ใช่ความผิดพนักงานก็ได้ ผู้จัดการอาจจะสั่งให้พนักงานขายแบบโหดนำเสนอทั้งหมดแบบนี้ก็ได้ ประมาณว่านำเสนอไปเลย ถ้าลูกค้าเลือกไม่ถูก เดี๋ยวเค้าก็ซื้อไปหมดเองแหละ ประมาณนี้รึเปล่าครับ
มาศึกษจิตวิทยาของการขอคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ
@พี่ปุ้ย >>> ใช่ครับพี่... มีให้เลือกเยอะเกินจะเหมาหมดก็ไร้ทรัพย์ เลยตัดสินใจไม่ซื้อเลยดีกว่า แต่ผมไม่ได้ว่าพนักงานขายนะครับ ผมบอกว่าคนที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ คือพวกเขาต่างหาก ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ ^^
@คุณธิดารัตน์ สกุลไทย >>> ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ ยินดีต้อนรับเลยครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สนใจงานของผม ^^
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
ใช่เลยคุณเอิร์ท ตัวเลือกเยอะไปไม่ใช่จะดีเสมอไป ....เป็น"อุปสรรคต่อการซื้อ"
ีแล้วที่สำคัญสินค้าเยอะ พนักงานก็เหนื่อย ลูกค้าก็เมื่อยด้วย
ใช่เลยคุณเอิร์ท ตัวเลือกเยอะไปไม่ใช่จะดีเสมอไป ....เป็น"อุปสรรคต่อการซื้อ"
ีแล้วที่สำคัญสินค้าเยอะ พนักงานก็เหนื่อย ลูกค้าก็เมื่อยด้วย
ขอบคุณที่แวะมานะหนิง เม้นซธ 2 อันเลย เหอๆ
อืม... มันได้กลายเป็นอุปสรรคในการซื้อไปซะงั้น ทั้งเหนื่อยเรา เหนื่อยลูกค้าเนอะ ^^
-------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
สวัสดีครับท่านเอิร์ท
ไม่ได้แวะทักทายเสียนานได้แต่เข้ามาอ่าน พอดีเรื่องนี้เจอมากับตัวเช่นกัน
ก็เคสที่จอดรถนะ ตอนช่วงปีใหม่ ปีก่อนๆเคยไปห้างฯแล้วพื้นที่จอดรถวางมากทุกชั้นเลยขับวนหาที่ดีที่สุดตัดสินใจไม่ได้ เสียเวลาไป 20 นาที น้ำมันไม่มีวิธีคำนวณแต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 50-60 บาท ตัวเลือกมันเยอะหาที่จอดยากซะงั้น
สบาบดีนะครับไม่ได้คุยด้วยเสียนาน (ท่านยะก็ไม่เห็นนะพักนี้)
ขอบคุณที่แวะมาครับ
@คุณสุเทพ ไชยขันธุ์ >>> ยินดีมากครับที่ท่านแวะมาคอมเม้นให้ ครับ... สำหรับผมก็ใช้ AI ในมิติอื่นๆดู ส่วนใหญ่จะประยุคต์ใช้กับสิ่งที่จะทำให้การขอนั้นเป็นไปได้สะดวกและง่ายขึ้นครับ ขอบคุณมากครับ ^^
@คุณทนาย >>> เป็นไงบ้างครับท่าน... ไม่ได้เจอซะนานเลย นึกว่าลืมกันซะแล้ว... ครับ ท่านก็ไม่แลปกที่จะเป็นเหมือนเพื่อนผมครับ เดี๋ยวผมจะหาเคสแบบนี้มานำเสนอต่อไป ซึ่งมาอยู่เยอะจริงๆครับ ^^
----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
เป็นเรื่องจริงเลยตามที่น้องเขียน ตัวเลือกมากทำให้เรายากที่จะตัดสินใจ แต่พอตัวเลือกน้อยทำให้ตัดสินใจง่ายกว่า คือ เลือกๆ ไปเท่าที่มี แต่ถ้ามีให้เลือกมาก็จะมากเรื่อง ลังเล ตัดสินใจไม่ได้ อะไรประมาณนั้น ว่าไป ^^""
ขอบคุณพี่บี๋ที่แวะมาครับ
ความลังเลนี้ละครับ.. ทำให้หลายๆครั้งเราเสียโอกาสในการขาย เพราะพวกเธอจะตัดสินใจไม่เลือกเลยซะอย่างงั้น
----------------------------------------------------------------------------------
ขอบ คุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^
สวัสดีค่ะ
- แวะมาอ่านทีไรได้ข้อคิดดีดีมากมายเลยค่ะ
- เห็นด้วยนะค่ะ สินค้ามากมายแต่เยอะเกินไปผู้บริโภคก็ไม่เลือกซื้อซะอย่างงั้นแหละค่ะ
- แสดงว่าสิ้นค้าที่จะเลือกซื้อนั้น ไม่จำเป็นกับตัวเราจริงๆ ถึงแม้จะเห็นมีเยอะมากมายก็จริง หุหุ..เพราะเราไม่มีอุปสงค์ ไม่มีความต้องการที่จะซื้อ ทำให้อุปทานไม่มีผลกับตัวเราเจ้าค่ะ
- กรณีของตัวเอง.. แต่บางครั้งเมื่ออุปสงค์เกิด อิอิ.. สิ้นค้ามากมายเยอะแยะ นี่แหละดีมากเลยมีให้เลือกเยอะดี..ทำให้ต้องซื้อทุกชิ้นจริงๆ
- ขอบคุณสำหรับบทความดีดีนะค่ะ
สวัสดีครับคุณRattanaporn Chaichon
- ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ^^
- ใช่ครับ... ทั้งๆที่อยากได้ด้วยนะ แต่ตัดสินใจเดินออกมาดีกว่า เพราะเลือกไม่ถูก
- เหอๆ เหมาหมดเลยเหรอครับ ใจถึงจริงๆ
- ขอบคุณที่แวะมานะครับ และก็ขอบคุณที่ติดตามผลงาน ^^
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ทุกความเห็นเป็นประโยชน์เสมอ ^^