ร้านอาหาร ความสับสน และจิตวิทยาการขอ


Appreciative Inquiry : การขออะไรก็ได้ (Pissardan)

เมื่อหลายวันก่อน ผมได้พูดถึงความสับสนที่เกิดขึ้น

จากการที่เรา "มีตัวเลือกมากเกินไป" กันไปแล้วนะครับ

ใครพลาด และสนใจสามารถ...คลิก...อ่านได้ที่ Link ด้านล่างนี้เลย

>>> ตัวเลือกมาก ความสับสน และจิตวิทยาการขอ <<<

ภาษาวิชาการเขาเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า Paradox of Choice ครับ

สำหรับเรื่องราวในวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ผมได้ยินมาจากอาจารย์ และเพื่อนของผมอีกที

ผมว่ามันเป็นเคสปัญหา และวิธีที่แก้ไขปัญหาได้อย่างชาญฉลาดทีเดียวครับ... เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ตามผมมาครับ ^^



เรื่องราวในวันนี้ เกิดขึ้นกับอาจารย์ของผมครับ อาจารย์เล่าให้ผมฟังว่า "มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปกินข้าวนอกบ้านกับครอบครัว

ทีนี้เด็กเสิร์ฟก็เอาเมนูมาให้ดู... หนามาก ผมก็เปิดพลิกไปพลิกมา สักพักผมก็หันไปมองหน้าเด็กเสิร์ฟ แล้วถามเขาว่า

"มีอาหารอะไรแนะนำไหม" ^^ " เห็นไหมครับ... ตัวเลือกที่เยอะเกินไป (เมนูหนามาก) สร้างปัญหาอีกแล้ว... มันทำให้อาจารย์ของผม

ตัดสินใจเลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานอะไรดี นี่ละครับที่เขาเรียกกันว่า Paradox of Choice คนเราจะมีความสุข

กับระดับตัวเลือกที่เหมาะสม
ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป ดังแสดงให้เห็นดั่งกราฟด้านล่างนี้ครับ ^^



ทีนี้เรามาดูวิธีแก้ไขสำหรับเคสนี้กัน เป็นเรื่องเล่าที่ผมได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งในชั้นเรียน Creativity ครับ

วันนั้นอาจารย์ให้ทำ World Cafe ผมได้เป็นโฮสประจำอยู่ที่ฐาน "ความรู้สึกแปลกใหม่" ในเรื่องของ Emotional Design

ซึ่งมีเคสแปลกๆที่น่าสนใจมากมาย มีอยู่เคสหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะนำมาประยุกค์ใช้เป็นวิธีแก้ปัญหาในเรื่องของ "ความสับสน"

ในการเลือกสั่งอาหารได้ดีทีเดียว เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า "สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่ก็คือ เมนูของร้านอาหาร"สรวลสนาม"

ที่จังหวัดอุดรธานี มันจะมีเมนูหนึ่งที่ชื่อว่า "อะไรก็ได้" ราคาประมาณ 120 บาท ซึ่งถ้าเราคิดไม่ออก ก็จะสั่งเมนูนี้ เขาก็จะทำ

อาหารแบบ Random ออกมาให้ 1 อย่าง เราสามารถบอกได้นะว่าเราแพ้อะไร ไม่ทานอะไร เขาก็จะไม่ใส่มาให้ในจานนั้น"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกันซิครับว่า เคสนี้ให้อะไรกับเราบ้าง เกี่ยวกับ "จิตวิทยาการขอ" ยังไง... ตามผมมาครับ ^^

จะเห็นได้ว่า... อาจารย์ของผม เกิด"ความสับสน"กับเมนูของร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งมันมีอาหารให้เลือกมากจนเกินไป

มากซะจนไม่รู้จะทานอะไรดี จึงต้องหันไปปรึกษาพนักงานเสิร์ฟว่า "มีอาหารแนะนำไหม" ตรงจุดนี้คือปัญหาครับ

ทีนี้เรามาดูทางแก้ไขที่ชาญฉลาดกัน ซึ่งร้านสรวลสนาม ได้ทำเมนูที่ชื่อว่า "อะไรก็ได้" ออกมา ซึ่งสามารถแก้ปัญหา

ตรงจุดนี้ได้ดีเลยทีเดียวครับ... เพราะถ้าคิดอะไรไม่ออก ผมเชื่อว่าเมนูนี้จะเป็นเมนูแรกๆที่จะถูกสั่ง เนื่องจากคำที่เรา

ติดปากกันในสังคมไทย เวลาคิดไม่ออกก็คือคำว่า "อะไรก็ได้" นี่เอง จุดนี้ละครับสามารถแก้ปัญหา Paradox of Choice

ในร้านอาหารได้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นวิธีที่ชาญฉลาดเอามากๆ ที่สำคัญเวลาสั่งไป มันได้ลุ้นด้วยครับว่าเราจะได้ทานอะไร



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... กับ "การขออะไรก็ได้" ถ้าจะให้คิดในหลักของ 9P อันนี้ผมยกให้เป็น Pissardan ครับ

ถ้ามีโอกาสผมต้องไปลองใช้บริการร้านนี้ดูสักครั้ง ที่สำคัญไม่พลาดแน่นอนครับที่จะสั่งเจ้า "อะไรก็ได้" มารับประทาน

ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ... ปัญหาเรื่องตัวเลือกที่มากเกินไปนี้ มันสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภคมากมายจริงๆ

ที่ร้ายไปกว่านั้นในกรณีของร้านอาหาร ถ้าเมนูมีมากจนเกินไป แล้วไม่มีการจัดการที่ดี ไม่ยอมตัดเมนูที่ไม่ได้รับความนิยมทิ้ง

ปัญหาที่จะตามมาคือเรื่องของต้นทุนครับ... คิดง่ายๆ ถ้าเรามี 300 เมนู วัตถุดิบก็ต้องมากกว่า 300 อย่าง แต่ถ้าตัดให้เหลือแต่เฉพาะ

ที่ได้รับความนิยม
แถมเจ้า "อะไรก็ได้" ไปอีกสักอัน ก็จะช่วยลดต้นทุน แถมยังลดความสับสนให้กับผู้บริโภคอีกด้วย... จริงไหมครับ



แล้วคุณละคิดยังไง ^^

 

ท่านที่สนใจจะอ่านเคส"จิตวิทยาการขอ"ที่เกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มเติ่ม

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> AI-Positive Psychology For Business ( จิตวิทยาการขอสำหรับธุรกิจ ) <<<

หมายเลขบันทึก: 342472เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2010 00:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

นอกจากเมนูอะไรก็ได้แล้ว พี่ขอเสนอเมนู "ตามใจฉัน" อีกหน่อยนะจ๊ะ  :-)

จริงคะ...เป็นอยู่บ่อยๆเลยเวลาจะซื้อของ หรือ ทาานอาหาร เลือกไม่ถูกคะ เยอะเกิน

ตัวเลือกที่มากเกินไป นอกจากจะทำให้ขายได้ยากแล้ว

ยังทำให้ต้นทุนสูงขึ้นอีกด้วย ไม่ดีเลยๆๆ

สวัสดีครับพี่บี๋

อะฮะ... ใช่อยู่เนอะพี่ ร้านอาหารตามสั่ง ถ้าได้บรรยากาศแบบร้านอาหารหรูๆก็คงจะดีไม่ใช่น้อย เมนูตามใจฉัน น่าสนใจครับ ^^

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีหนิง

เยอะเกินไปมันไม่ดีจริงๆละ อย่างเอิร์ทหลายๆครั้งที่เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะกินอะไร บางทีไปร้านอาหารตามสั่งแท้ๆยังคิดยากอีก และที่สำคัญเรื่องต้นทุนนี้ ผู้ประกอบการหลายรายมองข้าม เพราะคิดว่าความหลากหลายนั้นดีที่สุด แต่มันไม่ใช่อะ ความพอดีต่างหากที่โดนใจลูกค้า ^^

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

สวัสดีค่ะ เอิร์ท

ถ้าเราสั่ง "อะไรก็ได้" แต่อาหารที่ออกมา

เราไม่ช๊อบ ไม่ชอบ คืนเงินได้เป่าคะ อิอิ

บุญรักษาค่ะ ^^

สวัสดีเอิง

เอิร์ทก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเค้าจะคืนเงินไหม เหอๆ แต่ทางที่ดีถ้าจะสั่งอันนี้

ระบุบไปเลยว่ากินอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่เอาอาหารที่ไม่ชอบด้วย แบบนี้น่าจะเวิร์คกว่านะ ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

*   เรื่องรายการอาหาร  เวลาไปทานอาหารตามร้านที่มีเมนู  ผมมักจะรับบทเป็นคนสั่งครับ  กี่ครั้งๆ

*  แสดงว่าหลายคนไม่ชอบสั่งอาหารครับ  เพราะเมนูมันมีรายการมากมาย  เลยทำให้ไม่ทราบว่าจะทานอะไรดี  สั่งตามใจตัวเอง ก็กลัวไม่ถูกใจคนอื่น

*  บางครั้ง ก็เลยต้องถามว่า "อาหารแนะนำ" ที่คนชอบสั่งกัน ก็น่าจะเป็นกลางๆ

*  เรื่องเมนูที่มีรายการมากๆ ผมว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับนักออกรอบอย่างผม หรือ อีกหลายๆคน ที่ชอบเข้าร้านอาหาร  เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีอะไร และ ควรจะสั่งอะไร

*  กรณีมือสมัครเล่นเข้าร้านอาหาร  ก็จะตัดสินใจลำบากและเป็นความยุ่งยากในการเลือก   กรณีนี้   เจ้าของร้านหนึ่ง  เขาใช้วิธีกับมือสมัครเล่นที่ตัดสินใจไม่ถูก   "ออกแบบรายการอาหารให้เลยครับ"  ดูว่ามากี่คน เป็นใครนัก  มีเด็ก ผู้หญิง  คอสุรา  ก็จะออกแบบรายการอาหารให้ตามลูกค้าที่มาครับ    และส่วนใหญ่ลูกค้าไม่ปฏิเสธ 

ขอบใจสำหรับอาหารสมองเช้านี้นะ เราน่าเอาไปขยายผลทำ World Cafe ในประเด็นนี้นะ

สวัสดีครับอาจารย์ small_man

เป็นอีกทางออกที่ดีครับ "การออกแบบรายการอาหาร" จัดชุดอาหารให้เหมาะสำหรับจำนวนคนมา และประเภทของผู้ที่มาทาน Concept คงจะคล้ายๆพวก KFC หรือ McDonal's ที่มีการจัดเป็นชุดเพื่อให้ง่ายต่อการเลือก และประหยัดเงินได้อีกนิดหน่อย ขอบคุณประสบการณ์ที่แชร์มาครับ เป็นประโยชน์อย่างมากเลย ขอนำไปต่อยอดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่อง Paradox of Choice หน่อยนะครับอาจารย์ ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สวัสดีครับอาจารย์โย ^^

ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมานะครับ... น่าจะดีครับอาจารย์ ผลที่ได้มันน่าจะทำให้เราได้ระบบการจัดการที่ทำให้ "ง่าย" ต่อผู้ใช้บริการมากขึ้นนะครับ (ผมคิดว่างั้นนะครับ ) ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

ร้านอาหารที่มีเมนูไม่กี่อย่างบางทีมันก็ขัดใจลูกค้านิดนึงนะคะโดยเฉพาะถ้าไปกันหลายคนแล้วรสนิยมการทานต่างกัน เกิดคำถามประมาณว่า "เปิดร้านทั้งทีมีอาหารแค่นี้เหรอ?" ก็เห็นด้วยค่ะว่าเมนูเด่นๆ จานเด็ดของร้านควรต้องมี ใส่ไว้ในหน้าแรกเลยเป็นอาหารแนะนำ แต่เมนูที่หลากหลายก็ช่วยเรียกลูกค้าได้เหมือนกัน อาหารบางหมู่ดูมีหลายรายการก็จริงแต่ใช้ส่วนผสมจำพวกเดียวกันหมดเลย เพียงแต่วิธีปรุงแตกต่างกัน เช่น ลาบ น้ำตก หมู/เนื้อ ใช้เครื่องปรุงเหมือนกันเด๊ะ ต่างกันที่หั่นหรือสับเท่านั้นเอง กรณีนี้คิดว่าไม่น่าทำให้ต้นทุนเพิ่มนะคะ บางร้านใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตั้งชื่ออาหารให้คนสงสัยว่าหน้าตามันจะเป็นไงน๊า..อ๊ะ..สั่งมาดูดีกว่า นี่ก็ช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกวิธีหนึ่ง (เมนู "อะไรก็ได้" ก็จัดอยู่ในแนวๆ นี้)

หลายๆ ร้านในกรุงเทพฯ ยิ่งไม่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเดี๋ยวนี้มีอาหารแช่แข็งจากผู้ผลิตคุณภาพดี ลูกค้าจะสั่งอะไร ใส่ไมโครเวฟแป๊บเดียว ได้กินเลยค่ะ (แม้ว่าไม่สดอร่อยเหมือนร้านปรุงเอง แต่ก็ทำให้ลุกค้ามีทางเลือก) คิดว่าเหล่านั้นเป็นตัวช่วยของร้านในการเอาใจลูกค้าค่ะ ยังไงการมีให้เลือกก็ยังดีกว่าไม่มีทางเลือกนะคะ (จริงป่าวไม่ทราบค่ะ แค่ขอแสดงความเห็นด้วยคน)

สวัสดีครับคุณนก

เป็นความคิดเห็นที่ดีครับ... แสดงว่าคุณนกชอบความหลากหลาย อย่างที่ยกตัวอย่างมาคือเวลาออกไปทานอะไรบางทีก็จะสั่งของที่ไม่เคยทางมาก่อนมาลองชิมดู ซึ่งก็จัดเป็นลูกค้าอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งครับ... บทความนี้เป็นการแนะนำว่าการมีตัวเลือกที่มากจนเกินไปบางทีมันทำให้เราเกิดความสับสนครับ ตัวเลือกที่พอดีมันเลยเป็นคำตอบที่น่าจะดีกว่าทั้งกับลูกค้า และผู้ประกอบการเอง แต่ก็นั้นละครับ ลูกค้ามีหลากหลายกลุ่ม ก็ต้องเลือกดูกลุ่มที่เราต้องการจะทำตลาดเป็นหลักละครับ จะเอาซะทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน...เป็นประโยชน์มากครับความคิดเห็นนี้ ทำให้ผมทราบว่ายังมีผู้บริโภคที่รู้สึกว่าเมนูเยอะๆบางทีก็สร้างแรงดึงดูดได้เหมือนกัน ขอบคุณมากครับ ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

สวัสดีค่ะน้องเอิร์ท

ร้านอาหาร ถ้าเมนูหนามากๆเนี่ยก็ไม่ไหวล่ะค่ะ ยิ่งถ้ามีแต่ตัวหนังสือด้วยแล้ว

รู้สึกเหมือนกับอ่านหนังสือสอบยังไงไม่รู้นะคะ แหะๆ

สำหรับพวกพี่นะ เวลาไปทานอาหารที่ไม่ใช่ร้านประจำ

(เพราะถ้าเป็นร้านประจำเราจะมีเมนูประจำและเมนูใหม่วันนี้ค่ะ)

จะขอดูเมนูแนะนำก่อนค่ะ ส่วนใหญ่เค้าจะมีรูปประกอบด้วย

ส่วนมากเค้าจะตั้งชื่อแปลกๆ หรือไม่ก็จะเอาชื่อร้านมาเป็นส่วนนึงของชื่อเมนูค่ะ

ร้านสรวลสนามเคยไปแต่สั่งแค่เมนูแนะนำก็เต็มโต๊ะแล้ว เลยยังไม่ได้ลุ้นกะเมนู "อะไรก็ได้" ค่ะ

แหม..เสียดายจัง อิอิ

สวัสดีครับพี่หนึ่ง

ขอบคุณที่แวะมานะครับพี่ น่าเสียใจจริงๆครับ ถ้ามีโอกาสได้ไปทานอีก ลองสั่งดุนะครับ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้น้องคนนี้ฟังด้วยนะครับ ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

เคยไปกินอยู่ 3-4 ทีค่ะ แต่ไม่ยักรู้ว่ามีเมนู "อะไรก็ได้" แก้ปัญหาโลกแตกได้ดีจริงๆ

สวัสดีชาม ^^

ถ้ามีโอกาสไปอีก ต้องลองดูนะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้พี่ฟังด้วยละ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท