การฝังเข็ม

ศาสตร์โบราณ ตำนานการรักษาโรคของจีน

เมื่อช่วงวันที่ 28 กพ- 2 มีค.มีอาการไข้หวัดมาเยี่ยม ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอให้ยามาหลายขนาน ยิ่งกินก็ยิ่งไข้ เลยตัดสินใจไม่กิน แล้วอาการไข้เริ่มหาย หลังจากนั้นก็มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง อันที่จริงการปวดหลังนี้เป็นมานาน ร่วม 20 ปี แต่ครั้งนี้เจ็บมาก วันที่ 4 ตัดสินใจไปหาหมอ กระดูกและข้อ แล้วแจ้งอาการ พร้อมทั้งบอกว่าต้องการฝังเข็ม จากนั้นก็ส่งไปที่แผนกกายภาพบำบัด ที่แรกผมงงมากว่าส่งผมมาทำอะไรที่แผนกนี้

จากนั้นพยาบาลก็ซักประวัติ แล้วก็รอคิวเพื่อพบหมอ เมื่อได้เข้าพบหมอ หมอถามประวัติการปวดต่างๆแล้วหมอถามว่า รู้จากไหนว่าที่นี้มีการฝังเข็ม (พี่เขาฝังมาแล้ว)ผมเพิ่งรู้ว่าการฝังเข็มอยู่ที่แผนกนี้เอง ที่นี้มีหมอสองคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม คือหมอชฎาพร และหมอพนารัตน์ วันนั้นหมอมี่ฝังเข็มเป็นหมอพนารัตน์ ผู้ช่วยหมอเป็นผู้ชายพาผมเข้าห้องเปลี่ยนกางเกง นุ่งผ้าถุง(โสร่ง) ให้นอนตะแคง แล้วหมอก็ทาแอลกอฮอลร์เริ่มการฝั้งเข็ม จากบั้นเอว ตะโพก น่องและส้นเท้า รวม 14 เข็ม ไม่เจ็บครับปวดนิดๆ เมือฝังเข็มเสร็จก็ซ็อตด้วยการแสไฟฟ้าประมาณ 15 นาที่ เพื่อกระตุ้นเป็นอันว่าเสร็จ จากนั้นก็ส่งไปX-Ray หมอนัดอีกครั้งวันที่ 23 ระหว่างนี้ก็ทำกายภาพด้วยการอบน้ำร้อนและดึงหลัง ประมาณ 10 วัน

ข้อมูลจากสมาคมแผนฝังเข็มและสมุนไพร

การฝังเข็มมีฤทธิ์ในการรักษาโรค 3 ประการ คือ

           1. แก้ไขการไหลเวียนของเลือดลมปราณที่ติดขัด
           2. ปรับการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่ในสมดุล
           3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อกำจัดเหตุปัจจัยที่เป็นอันตรายออกไปจากร่างกาย

จากการศึกษาพบว่า เมื่อปักเข็มลงบนร่างกาย มันสามารถกระตุ้นทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นขยายตัว ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้สะดวกขึ้น ภาวะเลือดคั่งของบริเวณนั้นึงลดลง ช่วยทำให้มีสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ทำให้สารของเสียที่คั่งค้างบริเวณนั้นลดน้อยลง ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีการบาดเจ็บ ได้รับการซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้

ในกรณีที่มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อปักเข็มลงไปลึกจนถึงชั้นกล้ามเนื้อแล้วกระตุ้นด้วยวิธีที่เหมาะสมกล้ามเนื้อที่หดเกร็งก็จะมีการคลายตัวออกมาได้ ฤทธิ์ของการฝังเข็มในข้อนี้มีประโยชน์มาก ในการรักษาอาการเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่เสมอ ดังเช่น ในกรณีของการปวดแขนขา ปวดต้นคอ ปวดหลัง ปวดบั้นเอว เป็นต้น

วิธีการรักษาทางกายภาพบำบัด (Physiotherapy) หลาย ๆ อย่าง เช่น การนวด การประคบด้วยความร้อน การใช้คลื่นความถี่สูงอุลตราซาวนด์ ก็มีฤทธิ์ช่วยให้มีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น หรือมีการคลายตัวของกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณนั้นคลายกับการฝังเข็มเหมือนกัน

แต่ว่าการฝังเข็มมีข้อที่เดินกว่าตรงที่ มันสามารถคลายกล้ามเนื้อมัดที่อยู่ลักได้ดีกว่า และสามารถปักเข็มเลือกคลายกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่งตามที่ต้องการก็ได้

การฝังเข็มไม่เพียงแต่ จะช่วยทำให้หลอดเลือดบริเวณที่ปักเข็มขยายตัวเท่านั้น แต่หลอดเลือดฝอยทั่วร่างกายก็จะมีการขยายตัวอย่างเหมาะสมอีกด้วย ทำให้เนื้อเยื่อทั่วร่างกายได้รับสารอาหารและขจัดของเสียที่คั่งค้างได้ดีกว่า

ตอนนี้อาการปวดหลังของผมก็หายไปเยอะแล้ว ไม่แน่ใจว่าจากการฝังเข็มหรือกินยาคลายเส้น แต่หมอบอกว่าอาการภูมิแพ้ หรือไซนัท ก็รักษาด้วยการฝังเข็มได้เช่นกัน ซึ่งผมคงต้องพึ่งหมออีกครั้งเป็นแน่

เขียนใน GotoKnow โดย เกษตรยะลา
ใน เกษตรยะลา

คำสำคัญ (Tags): #การฝังเข็มเป็นตำราการแพทย์ของจีน

หมายเลขบันทึก: 342625เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2010 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 07:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (10)

กานดาน้ำมันมะพร้าว

เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2010 21:19 น. ()

สวัสดีค่ะ

เกือบหายหรือยังค่ะ ดาขอแนะนำเพื่มอีกวิธี มีหลายคนหาย แต่ทำแล้วก็ไม่มีโทษอะไร ลองทำดูนะคะ ใช้พริกไทยเม็ด สีอะไรก็ได้ เท่าอายุ ตำให้ละเอียดแล้วดื่มกับน้ำมะพร้าวอ่อน 1ลูก ให้หมด โดยเทน้ำมะพร้าวจากลูกรวมไว้ที่เดียวก่อน เมื่อตำพริกไทยละเอียดแล้ว ตักใส่แก้วให้หมดแล้วค่อยๆเทน้ำมะพร้าว ใส่ช้อนคนๆ แล้วดื่มจนไม่มีพริกไทยเหลืออยู่ แก้ปวดหลังและขา ซึ่งไม่แน่ใจว่าปวดที่อื่นๆหายหรือไม่ แต่มีผู้ทำอย่างที่ดาบอก ดื่มครั้งเดียวหายเลย แม้แต่ผู้สูงอายุอายุ 80 ปี 2ท่าน ทั้งคนที่ปวดหลัง เตรียมผ่าตัดแล้ว และคนที่ปวดขามานานหลายปี ภาพนี้ดาลองทำดื่มค่ะ