จำเนียรวดี
นาง จำเนียร ป้าต้อย สุขสมบูรณ์

ดอกหญ้า..สัญญากึ่งทาง


เสียงระฆังดังเป๊ง!เป๊ง!..เป๊งเป๊ง!..เป๊ง!เป๊ง!..พักเที่ยงแล้ว..หิวจัง..ผู้เขียนเดินมาหาแต๋วเพื่อมานั่งล้อมวงกินข้าวมื้อเที่ยงกับเพื่อนๆ ทุกคนต่างเอาปิ่นโตข้าวที่ห่อมากินที่โรงเรียนออกมา ดึงออกมาทีละชั้นๆ ๆ จนหมด โอ้โห!..น่ากินทั้งนั้นเลย ไข้ต้มใส่น้ำปลาพริกซอย ผักต้มม้วนเป็นคำๆ มีต้นข่าอ่อน ยอดตำลึง ยอดมะรุม กินกับน้ำพริกปลาทูย่างป่น ข้าวสวยอัดใส่ปิ่นโตแน่นๆ

ดอกหญ้า..สัญญากึ่งทาง  

      เช้าวันนี้.....เด็ก ๆ พากันรีบตื่นแต่เช้า..ต้องไปโรงเรียนอีกแล้ว..เสียงลมพัดใบไม้จากต้นมะม่วง น้อยโหน่ง มะเฟืองที่อยู่ข้างบ้าน ต้นมะรุม ชำมะเรียงที่อยู่หลังบ้านดัง วิ้ว..วิ้ว ๆ  อากาศหนาวเริ่มโชยมา..ผู้เขียนถูกย่าเร่งเร้าให้รีบอาบน้ำ ในสมัยนั้นต้องอาบน้ำที่นอกชานบ้าน น้ำที่อยู่ในตุ่มเคลือบดินเผาเย็นเหมือนน้ำแช่ในตู้เย็นในสมัยนี้ มันหนาวมาก จึงเป็นเหตุที่มาของเรื่องขี้เกียจอาบน้ำของผู้เขียนในสมัยนั้น จึงทำอิดออดอยู่ชั่วขณะ..อ้าว!..พอหันมาอีกที..แต๋ว(พี่สาว) หลานโปรดของย่าอาบเสร็จเรียบร้อยและกำลังแต่งตัวใส่ชุดนักเรียน ย่ากำลังถักผมจุกให้แต๋วไปพร้อมกับบ่นผู้เขียนไป..(นึกทีไร..ก็ขำทุกที)

         ขณะที่ผู้เขียนตัดสินใจอาบน้ำอยู่นั้น..ปู่ถือหม้อกาน้ำออกมาจากครัว "หนาวเหรอหลุก" พร้อมกับเทนำร้อนใส่กระถางดินเผาแล้วตักน้ำจากตุ่มผสมลงไป.."อุ่นมั๊ย" จำไม่ได้ว่าตอบปู่ว่าอะไร แต่รู้สึกดีใจแถมยังทำหน้าทำตาเยาะเย้ยแต๋วอีกด้วย(อยากอาบน้ำเย็นเก่งทำให้เราต้องโดนย่าดุ..ประจำ) "ง่ามมือ ง่ามเท้า ถูให้เรียบร้อยนะ..จะได้ผ่องใส" ปู่บอก เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ปู่ก็หวีผมให้ ดังกับเหมือนหวีให้ตัวเอง เพราะตัดผมทรงเดียวกับปู่  เด็ก ๆ ต้องรีบกินข้าวเพราะต้องพากันเดินไปโรงเรียน(โรงเรียนบ้านแปลงเกตุศรีนิคม ตำบลหนองเหียง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี) ระยะทางประมาณ 2 กม. ขณะนั้นแต๋วอยู่ ป.3 ผู้เขียนอยู่ ป.มูล(อนุบาล) และต้องเดินผ่านท้องนาลัดเลาะไปตามหัวคันนาจนถึงโรงเรียน เมื่อถึงโรงเรียนทีไร พบว่ามีดอกหญ้าชนิดนึงติดชายประโปรงเต็มไปหมด(หญ้ากระต่าย) เพราะผู้เขียนตัวเล็ก..

         ทำไมต้องไปโรงเรียนด้วยว้า..ได้แต่นึก ซึ่งผู้เขียนก็ไม่เข้าใจ..รู้แต่ว่าถ้าไม่ไปโรงเรียนแล้วเดี๋ยวปู่ไม่รัก..เพราะสิ่งที่ท้อคือระยะทางและต้องช่วยถือปิ่นโตอีกด้วยนะสิ เดินออกจากบ้านมาก็ดีอยู่หรอกค่ะ แต่พอใกล้ถึงต้นหญ้า(หญ้ากระต่าย) พี่สาวของผู้เขียนรวบมามัดไว้ เพื่อทำเป็นสัญลักษณ์ไว้กลางทางตามข้อตกลงของพี่น้อง พอมาถึงมัดดอกหญ้า..แต๋วก็จะรีบส่งปิ่นโตให้ผู้เขียนถือทันที ผู้เขียนไม่อยากรับเล้ย..แต่เดี๋ยวเสียคำพูดและเสียฟอร์มอีกต่างหาก แต่พอเดินไปได้ไม่ไกลนัก..รู้สึกว่าเมื่อย..และหนักเหลือเกิน..ผู้เขียนร้องขอให้แต๋วช่วยหน่อยได้มั๊ย ตอนแรกแต๋วไม่ยอมและบอกว่าเพิ่งถือมาได้หน่อยเดียวเอง..ผู้เขียนเริ่มขัดใจและเริ่มร้องไห้ขี้มูกเลอะเทอะใบหน้า แถมยังมีเด็กๆ กลุ่มอื่นที่เดินไปโรงเรียนเช่นกันล้อเลียนอีก จนพี่สาวรู้สึกเห็นใจจึงยื่นมือมาถือให้แบบไม่ค่อยสมยอมเท่าไหร่นักในขณะที่ผู้เขียนรับขวดน้ำมาถือแทน ไม่รู้ย่าเอาอะไรใส่ปิ่นโตมาให้นะวันนี้ถึงได้หนักขนาดนี้ อ้อ..ลืมบอกไปว่าเราจะมีน้ำดื่มที่ปู่ต้มใส่ขวดแก้วให้อีกหนึ่งขวดผูกคอขวดด้วยเชือกกระสอบสำหรับให้เด็กๆ ใช้ถือ

        เสียงระฆังดัง..เป๊ง!เป๊ง!..เป๊ง!เป๊ง!..เป๊ง!เป๊ง!..พักเที่ยงแล้ว..หิวจัง...ผู้เขียนเดินมาหาแต๋วเพื่อมานั่งล้อมวงกินข้าวมื้อเที่ยงกันกับเพื่อน ๆ ทุกคนต่างเอาปิ่นโตข้าวที่ห่อมากินที่โรงเรียนออกมา ดึงออกทีละชั้น ๆ ๆ จนหมด โอ้โห..น่ากินทั้งนั้นเลย ไข่ต้มผ่าซีก 2 ฟอง ใส่น้ำปลาพริกซอย ผักต้มม้วนเป็นคำๆ มีต้นข่าอ่อน ยอดตำลึง ยอดมะรุม กินกับน้ำพริกป่นปลาทูย่าง ข้าวสวยอัดใส่ปิ่นโตแน่นๆ "ต้อยนั่งลง กินข้าวซะ" แต๋วบอกพร้อมส่งข้าวให้..(อร่อยจัง)

        หลังเลิกเรียนในวันนั้น ผู้เขียนอาสาถือปิ่นโตเปล่ากับถึงบ้านเลยล่ะ เดินผ่านต้นหญ้าสัญลักษณ์กลางทางต้นนั้นก็รู้สึกว่า..ไม่ต้องส่งปิ่นโตให้แต๋วก็ได้..พอกลับถึงบ้าน เห็นย่ากำลังดายหญ้าอยู่ข้างบ้าน "แต๋วไม่ช่วยน้องถือปิ่นโตล่ะลูก" ย่าถาม..แต่ก็ไม่มีคำตอบหลุดออกจากปากเด็กทั้งสอง ผู้เขียนยิ้มหวานให้ย่าและยกมือไหว้ แต๋วก็เช่นกัน เราขึ้นบ้านช่วยกันล้างปิ่นโตคว่ำเก็บเพื่อใช้ต่อในวันพรุ่งนี้..

         ความผูกพันของเรา..พี่น้อง..ลึกซึ้ง..รักและเป็นห่วงเสมอ..

   ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามารับรู้..เรื่องราวความทรงจำของคนคนนึง      ที่อยากบอกเล่า..จากภาพความทรงจำที่มิเคยเลือนหรือจางหายไปเลย..

ขอบคุณมากค่ะ..

คำสำคัญ (Tags): #คำสัญญา
หมายเลขบันทึก: 344320เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2010 19:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
  • ขอขอบคุณที่ไปส่งกำลังใจให้ที่บันทึกของพี่คิม
  • สัญญากึ่งทาง...อ่านแล้วมีความหมายทางใจมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ...(ความทรงจำกับปู่..ที่ยังมีไออุ่นเสมอ)

- ยินดีมาก ๆ ๆ ๆ ค่ะ พี่นพวรรณ(ครูคิม)

- ต้อยเป็นสามชิกใหม่..ช่วยแนะด้วยนะคะ

- ยังมีเรื่องราวที่สวยงาม..อีกมากมายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท