กับลูกค้า..เต็มที่...แค่ไหน..ถึงจะได้ใจ ^^
สวัสดีครับชาว G2K ผู้น่า....รัก! ของผมทุก ๆ ท่าน 
เมื่อวานผมพูดถึงการบริการของเจ้าของร้านที่ได้ใจแฟนผมไป (ผมด้วย ^^)
ใครพลาด คลิ้ก เอาใจยากนัก...แบบนี้ล่ะ...ชอบมั้ย ^^ ได้เลยครับ
การเอาใจใส่ลูกค้านั้น สำหรับคนขายเป็นอะไรที่สำคัญ และจำเป็นต้องทำ
แต่ก็ทำ (ให้ถูกใจ) ได้ไม่ง่ายนัก เพราะความต้องการของลูกค้านั้น
มีมากน้อยแตกต่างกันไป แล้วแต่คน (โดยเฉพาะคุณสาว ๆ)
แต่ที่จะให้ได้ผลแน่ ๆ ก็ยังพอจะพูดเป็นหลักสั้น ๆ ได้อยู่ว่า
"ทำให้พวกเธอรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนสำคัญ"
และ "เต็มที่กับพวกเธอ"
แล้วจะต้องทำอย่างไรล่ะ เต็มที่แค่ไหน ตามผมมาเลยครับ
วันนึงผมกับแฟนไปเดิน 
ขอนแก่นกัน
และเธอก็ไปสะดุดเข้ากับลิปกลอส ของยี่ห้อ Shu uemura เพราะว่าสีสันสวยดี
(หลัง ๆ สะดุดบ่อยจัง ^^)
เธอเป็นคนชอบซื้อ Lip gloss ครับ อีกอย่างคือ
Base ที่ผสมกันแดดครับ Package สวยน่าใช้
บางคนแค่นี้ก็ซื้อแล้ว แต่เธอไม่ครับ (ขอถามรายละเอียดสักนิดน่า..)
และพนักงานขายเค้าก็แนะนำดี พูดเพราะ และยิ้มแย้มขณะสนทนา
แค่นี้พอรึยังครับ ที่จะควักกระเป๋าเพื่อซื้อสินค้า
(ภาพ Lip gloss และ Base ครับ)
คำตอบก็คือ ยังครับ
ก่อนที่จะซื้อ ขออะไรสักอย่างน่า..ขออะไรน่ะรึครับ
ก็ "ขอลอง" ไงล่ะครับ เธอขอลอง Base ครับ (ขอนิดส์นึง ^^ )
แต่พี่เค้าให้ไม่นิดครับ เขย่าขวด Base ก๊องแก๊ง ๆ แล้วก็ฉีด ปื้ด..
ลงที่ท้องแขน แล้วก็เกลี่ยให้ดู
มีสองสี ก็ฉีด ปืด ๆ สีละข้าง (เพื่อให้เธอได้เปรียบเทียบ)
แค่นั้นไม่พอ ตอนที่แฟนผมกำลังลอง Base อยู่
ผมก็เข้าไปถามว่า "นี่อะไรครับ ?"
"เป็น Base ผสมกันแดดค่ะ ลองดูมั้ยคะ"
ผมไม่ได้ลองหรอกครับ แต่ประเด็นก็คือ แม้แต่ผม "พี่เค้าก็จะให้ลองครับ"
การที่พี่เค้าให้เธอ "ลองได้เต็มที่" ไม่มีหวง ไม่มีกั้ก
ตรงนี้เองที่ทำให้พี่เค้าได้ใจแฟนผมไปเต็ม ๆ ครับ
แล้ววันนั้นพี่เค้าก็ได้ตังค์แฟนผมไปเป็นพัน
เพราะซื้อหมด ทั้ง Lip gloss และ Base
"พี่เค้าให้ลองแบบ..ไม่กลัวว่ามันจะหมดเลยอ่ะ"
นี่คือสิ่งที่แฟนผมพูดให้ฟัง หลังจากจ่ายตังค์ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับคนขาย วิธีนี้ก็ทำได้ไม่ยากใช่มั้ยล่ะครับ
แค่ "ให้เธอลอง" ตามที่เธอต้องการ เธอก็รู้สึกดีแล้วครับ
และถ้าคุณสามารถให้เธอได้มากกว่า สิ่งที่เธอต้องการ (แบบพี่คนนี้ ^^)
ผมเชื่อเหลือเกินว่า เธอจะกลายเป็นลูกค้าของคุณแน่นอน ครับ 
ดูแลอารมณ์ของพวกเธอให้ดี...แล้วคุณจะขายของได้
แล้วคุณล่ะครับ เคยเจอแบบนี้รึเปล่า ^^
ความเห็น (9)
เสาวลักษณ์
อ่านแล้วดูจะรักกันกะแฟนดีนะค่ะ
น่าสนใจนะน่าแหละ Experiential Marketing คุณเขียนโดนมาก
สวัสดีค่ะ นุ๊กเกอร์
จริง ๆ ค่ะ บางยี่ห้อนะ มองเราตั้งแต่หัวจดเท้า ประมาณว่า มีปัญญาซื้อป่าว
ถ้ามีปัญญา คเก็จะเอาใจสุด ๆ แต่ถ้าดูแล้วไม่ซื้อแน่ ก็ไม่ค่อยสนใจ อิอิ
ผลิตภัณฑ์ทดลอง ฉีดนิดเดียว แบบกลัวเปลือง.....
เราเลยไม่รู้ว่า มันดีจริง หรือป่าว สรุปเลยเซงไม่ซื้อ อิอิ
บุญรักษาค่ะ ^^
เป็นกลยุทธ์ที่ดีครับ ร้านขายผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้กับผิวน่าจะเอามาใช้กัน
ว่าง่ายๆคือ มีผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับลองโดยเฉพาะ ตรงจุดนี้ก็จะเข้ากรณีอย่างเคสนี้ได้ไม่ยากครับ
การได้ลองก่อนเป็นอะไรที่ช่วยให้ติดสินใจง่ายขึ้นครับ... ดูหนังสือสมัยใหม่ หลายๆเล่นให้อ่านกันคาแพงเลยก็มี
ถ้างานของเราดีจริง เขาชอบ ยังไงก็ซื้อกลับครับ คงจะเป็นแนวๆเดียวกัน ขอบคุณสาระดีๆครับ ^^
แบบนี้อ่ะดีคะ เจอร้านไหนห่วง Tester นะ ไม่อยากเข้าไปอีกเลย
ล่ะก็อย่าหวังจะได้ตังค์ช้าน
แต่ยี่ห้อนี้ดีคะ...หนิงชอบ eyeliner ที่เป็นดินสอเค้ามากเลย ติดทนสุดเท่าที่เคยใช้มาล่ะ เอาไปบอกแฟนนะ อิอิ
หวัดดีจ้า
ใช่แล้ว เราก็เหมือนกันนะถ้าจะไปซื้อเครื่องสำอางค์ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ถ้าไม่ให้ลองเราก็ไม่ซื้อ
ก็เหมือนเพื่อนเรา ถ้าเราแต่งหน้าให้เพื่อนเล้วเพื่อนรู้สึกว่าใช้แล้วดี
ก็จะถามเราว่าไปซื้อที่ไหน พาไปหน่อย
ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ
เหมือนคุณไอลดาค่ะ
บางทีเราเดินเข้าไปไม่สนใจ ทั้งๆที่มีเงินที่จะซื้อ
พอเห็นแบบนั้นแป้งก็เดินออกเลยค่ะ
เพราะมีอีกหลายยี่ห้อที่มีของแบบเดียวกัน
เพราะฉะนั้น พนักงานขาย "สำคัญ" มากค่ะ
สำหรับเครื่องสำอางค์
วันหลังพาผมไปลองด้วยนะครับ อย่าลืมครับ
(ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย อิอิ)
เยี่ยม แหล่ม แจ่ม
มากครับ