พ.ต.อ. สมเพียร เอกสมญา‏


       การเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.บันนังสตา จ.ยะลา นอกจากเป็นการสูญเสียนายตำรวจระดับ ผกก.คนแรก สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้ว ยังเป็นภาพสะท้อนความเน่าเฟะของปัญหาการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติอีกด้วย
เพราะ พ.ต.อ.สมเพียร ในวัย 59 ปี เพิ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย เนื่องจากเจ้าตัวขอกับทางผู้บังคับบัญชาให้ย้ายออกจากบันนังสตาไปเป็น ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อพักผ่อนในช่วง 18 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2554 หลังจากตรากตรำทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายมานานหลายสิบปี

ทว่า เมื่อคำสั่งสุดท้ายออกมากลับไม่มีชื่อของเขา ทั้งๆ ที่ในช่วงจัดทำบัญชีแต่งตั้ง เขาได้รับคำมั่นจากผู้บังคับบัญชา ว่า จะดำเนินการให้เพื่อตอบแทนกับความเสียสละ ที่ พ.ต.อ.สมเพียร ทุ่มเทให้กับทางราชการแบบเกินร้อยตลอดมา

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจวาระ ประจำปีมีปัญหามาตั้งแต่ปลายปีที่ แล้ว ตั้งแต่โผนายพลต่อเนื่องมาถึงโผนายพัน ท่ามกลางกระแสข่าวการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาหลายชุด
การแต่งตั้งในล็อตของ พ.ต.อ.สมเพียร คือ ระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร (รอง ผบก.-สว.) ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมด ควรจะเสร็จสิ้นก่อนเริ่มปีงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ต.ค. 2552 แต่ก็ล่าช้าเกินกำหนดมาจนถึงต้นปี 2553 โดยคำสั่งแต่งตั้งในระดับรอง ผบก.-สว. เพิ่งมีผลเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง แต่ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะนายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายกองบัญชาการ (บช.) โดยมี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เป็นประธาน
ทว่าบัญชีแต่งตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับ พ.ต.อ.สมเพียร คือ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต. หรือ บช.ภ.10) ไม่อยู่ในคิวที่จะถูกตรวจสอบ
23 ก.พ. 2553 พ.ต.อ.สมเพียร จึงบากหน้าเข้ากรุงเทพฯ และเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนทั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและทำเนียบรัฐบาล แต่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต้นสังกัดที่ พ.ต.อ.สมเพียร ทำงานแบบถวายชีวิตมาตลอดอายุราชการ ส่งเพียงนายตำรวจยศ “พันตำรวจโท” มารับหนังสือ
ที่สำคัญ สาเหตุที่ พ.ต.อ.สมเพียร พลาดหวัง หาใช่เหตุผลเกี่ยวกับความรู้ความสามารถ อาวุโส หรือผลงาน แต่กลับเป็นขบวนการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ที่เป็นดั่งเชื้อโรคกัดกินสำนักงานตำรวจแห่งชาติจนล้มป่วย และวันนี้ได้ปรากฏอาการต่อสาธารณชนแล้ว

พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

 

ตำแหน่ง ผกก.สภ.กันตัง ที่ พ.ต.อ.สมเพียร ขอย้ายไปรับราชการใน 18 เดือนสุดท้ายนั้น เป็นตำแหน่งที่ว่างลง เนื่องจาก พ.ต.อ.เติม อินทรสระ ผกก.คนเดิมเกษียณอายุราชการ (ซึ่ง พ.ต.อ.เติม ก็ย้ายมาจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้)
ช่วงแรกของการจัดทำบัญชี พ.ต.อ.สมเพียร ได้รับการวางตัวให้ไปดำรงตำแหน่งนี้ แม้จะเป็นการโยกย้ายข้ามกองบัญชาการ ซึ่งผู้บัญชาการของทั้ง 2 บช.ต้องเห็นชอบร่วมกัน แต่นั่นก็ดูจะไม่มีปัญหา เพราะทั้งชื่อ-ชั้นและผลงานของ พ.ต.อ.สมเพียร ไม่มีใครปฏิเสธได้
ทว่าทุกอย่างก็พลิกผัน เนื่องจากพื้นที่ อ.กันตัง เป็นทำเลทองของบรรดา “นักวิ่งสีกากี” เพราะเป็นเมืองเศรษฐกิจ และเป็นท่าเรือสำคัญของจังหวัด ผู้บังคับบัญชาใน บช.ภ.9 จึงส่งนายตำรวจที่ใกล้ชิด คือ พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผกก.สภ.หาดเจ้าสำราญ จ.ตรัง มาลงในตำแหน่งนี้แทน และโยก พ.ต.อ.สมเพียร ไปเป็น ผกก.สภ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นตำแหน่งว่างเช่นกัน เพราะ พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.เมืองตรัง คนสนิทของ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง (รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง)
เรื่อง ทำท่าว่าจะจบลงด้วยดี เพราะอย่างน้อย พ.ต.อ.สมเพียร คงจะได้เป็น ผกก.สภ.เมืองตรัง แต่โผก็พลิกอีกรอบ เมื่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงใน บช.ภ.9 ต้องการย้าย พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่ใช่คนของตัวเอง แล้วให้ พ.ต.อ.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก.สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส มาเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ และส่ง พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ไปที่บันนังสตาแทน พ.ต.อ.สมเพียร แต่ พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ไปวิ่งเต้นกับนักการเมืองใหญ่ใน จ.สงขลา และ จ.ตรัง ขออยู่ใน บช.ภ.9 ต่อไป ไม่ขอเข้าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ปรากฏว่าผู้บังคับบัญชา ระดับสูงใน บช.ภ.9 ทนแรงเสียดทานจากฝ่ายการเมืองไม่ไหว จึงส่ง พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ไปนั่ง ผกก.สภ.เมืองตรัง แทน พ.ต.อ.สมเพียร ส่งผลให้ พ.ต.อ.สมเพียร ต้องอยู่ที่เดิม และถูกระเบิดเสียชีวิตหลังจากเข้าร้องขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์กลางอำนาจเพียง 17 วัน
นี่ คือ ผลร้ายจากขบวนการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมไทยไม่ควรปล่อยผ่านอีกต่อไป!
“ตอน นี้โจรใต้ตั้งค่าหัวผมไว้แล้ว คือ ใครฆ่าผมได้จะได้แพะเป็นรางวัล 50 ตัว แพะตัวหนึ่งราคาประมาณ 5 พันบาท รวมแล้วก็ประมาณ 2 แสนบาท” เป็นคำพูดของ พ.ต.อ.สมเพียร ที่พูดกับผู้สื่อข่าวในลักษณะปลงชีวิต ในวันที่หอบเอกสารผลงานและหนังสืออัตชีวประวัติชีวิตของตนเองมาเรียกหาความ ยุติธรรม
“ลิฟต์ จะหนีบเท้าหรือเปล่าเนี่ย เพราะปกติไม่ค่อยเคยขึ้นลิฟต์ แถมขาซ้ายก็ใช้งานได้ไม่ค่อยดี เพราะเคยถูกยิงมา” เป็นมุกตลกที่ พ.ต.อ.สมเพียร ทิ้งเอาไว้เป็นความทรงจำในหมู่ผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงที่ พ.ต.อ.สมเพียร ต้องขึ้นลิฟต์ไปหาผู้บังคับบัญชา แต่ไม่มีใครยอมพบกับเขาเลย ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) หรือ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ตาม
วันนี้ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.สมเพียร เรียงหน้าออกมาพูด ว่า กำลังจะเยียวยาให้ พ.ต.อ.สมเพียร ขึ้นเป็น รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง อยู่แล้ว แต่ไม่ทัน…

 

ขอบคุณ Fw mail จากกัลยาณมิตร

หมายเลขบันทึก: 344577เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2010 20:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

นมัสการพระคุณเจ้า

  • เกียรติคุณของท่านจารึกไว้เป็นเกียรติและศรีของแผ่นดินเจ้าค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/krukim/344561

นมัสการครับท่าน

เป็นอีกครั้งที่เกิดความรู้สึกดีๆกับตำรวจ น่ายกย่อง น่านับถือ แม้ว่าปรกติแล้วจะออกมีอคตินิดๆกับคนอาชีพนี้ (เชื่อว่าก็คงเหมือนกับใครอีกหลายๆคน) ... ตั้งแต่เรื่องของหมวดตี้ ผู้กองแคน จนมาถึง ผู้กำกับสมเพียร ทำให้สถาบันตำรวจดูน่าเคารพ นับถือ มากขึ้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณ

แต่อย่างนึงที่ไม่อยากให้เกิดในความคิดเลย คือ... "ตำรวจที่ดี คือตำรวจที่ตายแล้ว" ... คนดี ต้องยกย่องตอนที่ยังมีชีวิต เพื่อให้เป็นแบบอย่าง เป็น idol ให้กับสังคม ครับ

ธรรมสวัสดีโยมฝนแสนห่า

ขอให้ช่วยกันรักษาคนดี

อย่าให้คนดีคือคนที่ตายไปแล้ว

ขอเป็นกำลังให้คนดีทุกท่าน

ขอบคุณโยมมากที่มาเยี่ยมเยือน

พร้อมความเห็นที่มีประโยชน์มากมาย

ธรรมรักษา

นมัสการค่ะท่านเตวิชโช

การโยกย้าย ดู ๆ มันซับซ้อนนะคะ

ดิฉันในฐานะคนเกิดเมืองตรัง รู้สึกเสียดายที่ท่านสมเพียรไม่ได้มาอยู่กันตังตามที่ท่านขอย้าย

เรื่องเส้นเรื่องสาย เรื่องเสียเงิน ก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก

ที่สัมผ้สได้ คือ ความไม่ยุติธรรม

หลายสิ่งหลายอย่างพอสูญเสียไป ก็จะเห็นคุณค่า เป็นแบบนี้มาตลอดค่ะท่าน

นมัสการครับท่าน รู้สึกเสียใจกับการจากไปโดยไม่มีวันกลับมา ของผู้กำกับสมเพียรที่ได้เสียชีวิตในคราบของนักรบ แต่รู้สึกน้อยใจ

แทน ที่ คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ในขณะที่ท่านผู้กำกับสมเพียรตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติมาโดยตลอด กับไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะท่านมีผลงานมากมายแต่ไม่มีเส้นสายและเงิน จึงไม่เข้าตานายทั้งหลาย นี่หรือคือความยุติธรรมของประเทศไทย

สุดท้ายขออาลัยยิ่งแด่ผู้กำกับคนกล้า พ.ต.อ สมเพียร เอกสมยา ขอให้วิญญานท่านจงสู่สรวงสวรรค์เทอญ

ธรรมสวัสดีโยม nana งาน พสว.ศอ.8

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน

ใช่แล้วละความไม่ยุติธรรมทำลาย

คนดีมามากต่อมากแล้ว

ธรรมรักษา

ธรรมสวัสดีโยมโกโน่

ความอยุติธรรมคือ

หลุมดำในสังคมไทย

เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องตระหนัก

แล้วช่วยกันสร้างความเป็นธรรม

ให้เกิดขึ้นให้มากพอในทุกสังคม

ธรรมรักษา

ธรรมสวัสดีโยมคุณครูคิม

ขอบคุณมากที่คุณครูมาเยี่ยม

ขอให้มีความสุข ความเจริญ

ธรรมรักษา

 

นมัสการครับท่านเตวิชโช

พลตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา ท่านจากไปแต่กาย ชื่อท่านไม่จากหายไปไหน คนไทยย่อมระลึกถึงเสมอ ขอให้ท่านไปสู่สุคติ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท