“โลกที่เราล้างไฟด้วยไฟ ล้างไฟด้วยไฟ...มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป”…เสียงเพลงที่ดังมาจากจอโทรทัศน์ ทำให้ฉันวางมือจากงานกองใหญ่ เงยหน้าขึ้นมอง “บันนังสตาบ้านเกิดของฉัน ในวัยเยาว์นั้นพ่อซื้อแพะให้ฉันหนึ่งตัว แพะโง่ๆ หนึ่งตัว...” ภาพลูกผู้ชายน้ำตาคลอเบ้าในเครื่องแบบตำรวจที่กำลังให้สัมภาษณ์ถึงความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย...สร้างความรู้สึกหดหู่และสะท้อนหัวใจ...ขอคารวะแด่ดวงวิญญาณ พลตำรวจเอก สมเพียร เอกสมญา ผู้กล้าแห่งเทือกเขาบูโด
ภาพถ่ายของคุณจรูญ ทองนวล ( Charoon Thongnual)
“ผมเสียใจ ร้องไห้จนน้ำตาหมดแล้ว...ไม่ขึ้นเวทีเด็ดขาด เพราะไม่อยากให้เรื่องของพ่อสร้างความรุนแรงให้ประเทศ และพ่อคงไม่ต้องการให้ตนทำเช่นนั้น พ่อตนไม่มีสี ไม่มีข้าง เจตนารมณ์ของพ่อในการร้องเรียน ส่วนหนึ่งเพื่อลูกน้องเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่ก็เห็นว่าไม่ได้ และแม่ก็เป็นตัวแปรด้วย ปีสุดท้ายครอบครัวก็ไม่ขออะไรมากมาย แค่อ.กันตัง อ.เล็ก ๆ ที่ไม่มีผกก. มา 5 เดือนแล้ว เพราะพ่อตนยึดคติมาตลอดว่าเวลาทำอะไรต้องไม่ให้ใครเดือดร้อน…ตอนแรกที่ผมทราบข่าวพ่อตาย ผมโกรธนะ อยากจะเป็นตำรวจสานต่อจากพ่อทันที มาคิดดูแล้ว น้องเราอีกคนมีความสามารถมากกว่า เขาเคยเป็นทหารพราน ส่วนผมก็มีกีตาร์เป็นอาวุธ และยังมีสวนยางไว้รอพ่อให้พ่อมาพักหลังจากเกษียณอายุราชการ สิ่งที่ผมจะบอกอย่างหนึ่งว่า ตำรวจไทยในภาคใต้ หลังจากเกษียณอายุราชการรัฐบาลไม่เคยหาอะไรรองรับพวกเขาเลย บางคนสายตาฝ้าฟางก็โดนโจรยิงทิ้ง เป็นที่รู้กันดีในภาคใต้ ผมก็หวังไว้ว่าจะให้พ่อมาพักผ่อนหลบโจร แต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลสนใจเรื่องนี้ด้วย…”
...คำพูดของชุมพล เอกสมญา บุตรชายคนโต เจ้าของเพลงบันนังสตา ดังก้องสะท้อนความรู้สึกของผู้สูญเสียในยามนี้...
...กว่า 20 ปีของการทำงานตอกย้ำทำให้ฉันหมดศรัทธาในระบบราชการ... ความยุติธรรมไม่ได้มีอยู่จริง เป็นแค่คำโกหกพกลมหลอกให้ความหวังลูกน้องไปวันๆ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายเท่านั้น ระบบเส้นสายที่แพร่ระบาดยิ่งกว่าเชื้อไวรัส แทรกซึมยั่งรากลงไปในทุกหน่วยงาน สมรรถนะในการทำงานยิ่งไม่ต้องพูดถึง นั่นเป็นแค่ตัวชี้วัดที่ปั้นแต่งให้สวยหรูและดูน่าเชื่อถือเท่านั้น คนที่เติบโตเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่มักมีพฤติกรรมแบบ... “ใช่ครับพี่...ดีครับนาย...สบายครับผม ...เหมาะสมครับท่าน และ ...ฆ่าน้อง... ฟ้องนาย... ขายเพื่อน” ต่างหาก...แต่ที่เจ็บปวดสุดๆก็คือการกระทำต่อลูกน้องแบบสุภาษิตจีนที่ว่า "Butcher the donkey after it finished his job on the mill." ฆ่าลาเมื่อเสร็จงาน (โม่แป้ง) ซึ่งตรงกับคำพังเพยที่ว่า "เสร็จนา ฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" ดังประเด็นที่กังขาของสังคมว่า ... “คำร้องขอ...แค่ปีเดียว เพื่อไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างสงบสุขของคนที่เสียสละมาตลอด 40 ปี นั้นรัฐให้เป็นรางวัลตอบแทนความดีงามที่ทำมาทั้งชีวิตไม่ได้หรือ” ...ความล้มเหลวในระบบราชการยังมีอีกมากมาย จาระไนเป็นวันก็คงไม่หมด...ไม่ต้องพูดถึงการทำงานแบบไฟไหม้ฟาง รวมถึงการรุมทิ้งงบประมาณของชาติอย่างที่เห็นทุกเมื่อเชื่อวันเป็นสิ่งที่เกินจะรับได้ และที่น่าอดสูใจยิ่งนักคือพฤติกรรมแบบเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ของคนที่เคยเป็นใหญ่เป็นโตและกำลังร้องเรียกความเห็นใจจากชาวโลกว่า ใครเอาเนยแข็งฉันไป คำพูดที่ว่าคนไทยลืมง่าย เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ...ความบอบช้ำของประเทศชาติเมื่อปีที่แล้วยังไม่ทันจางหาย ทำไมถึงต้องมาซ้ำรอยเดิมกันอีกในปีนี้...เลือดต้องล้างด้วยเลือดกันเชียวหรือ ...อยากให้ทุกคนและทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและไตร่ตรองดูสักนิดว่า คุณกำลังทำเพื่อใคร และเพื่ออะไร....
เพลง บันนังสตา(นามะปราง)ขับร้อง : Wild
seed /ชุมพล เอกสมญา
เนื้อร้อง : ยงค์-แก้ว บางนา และ ชุมพล เอกสมญาทำนอง : ชุมพล
เอกสมญา
-----------------------------
ฉัน รู้ว่าวันเวลาเป็นส่วนหนึ่ง ฉันรู้ว่าวันเวลา..
ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็น ส่วนหนึ่ง ที่รีไซเคิลไม่ได้
มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป
มองไปทางซ้าย มองไปทางขวา..
โลกที่เราล้างไฟ ด้วยไฟ ล้างไฟด้วยไฟ
มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป
บันนังสตาบ้านเกิดของฉัน ในวัยเยาว์นั้น
พ่อซื้อแพะให้ฉันหนึ่งตัว แพะโง่ๆ หนึ่งตัว
โลกที่เราล้างไฟด้วยไฟ ล้างไฟด้วยไฟ
บันนังสตาบ้านเกิด ของฉัน
ในวัยเยาว์นั้น หอนาฬิกาโบราณ
หอนาฬิกาโบราณ นาฬิกาตาย นาฬิกาตาย
โลก ที่เราล้างไฟด้วยไฟ ล้างไฟด้วยไฟ
มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป
มองไปทางซ้ายก็เพื่อนเรา มองไปทางขวา เราเป็นเพื่อนกัน
แม้โลกนี้เราล้างไฟด้วยไฟ ล้างไฟด้วยไฟ
มองโลก ตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป
ฉันก็ยังหวังนะ ฉันก็ยังหวังดี ว่า เราจะเป็นน้ำดับไฟ
เป็นน้ำดับไฟ ..เป็นน้ำดับไฟ
ที่มา:
ตำรวจผู้กล้าชื่อ "จ่าเพียร"โดย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช
แด่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา โดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร
นำเสนอ " ตำรวจยอดเยี่ยม " ของแท้ จากยะลา..
...ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ !! คำสุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา...
บทสัมภาษณ์สุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา...อยากให้ผู้บังคับบัญชารับ ...
...ถึงเวลาสร้าง อนุสาวรีย์จ่าเพียร ...
ชมรายการเจาะใจตอน ร่วมสดุดีผู้กล้าจ่าเพียรแห่งเทือกเขาบูโด
'นังตา...ที่รัก แด่พ่อ...จ่าเพียรยอดนักสู้
เพลงบันนังสตา เพลงไว้อาลัยจากลูกถึงพ่อสมเพียร
ไว้อาลัย"พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" ด้วยเพลง"บันนังสตา" ของลูกชายผู้มีนามว่า "ชุมพล เอกสมญา"
YouTube - wild seed - บันนังสตา
แด่วีรบุรุษบันนังสตา/เพลง: บันนังสตา(นามะปราง)โดย wild seed ...
สวัสดี ครับ
ชอบtopic ของบันทึกนี้ มาก นะครับ
และสะเทือนใจ กับ ประโยคนี้มาก เช่นกัน
โลก ที่เราล้างไฟด้วยไฟ
เสียดาย คนดี ที่ถูกมองข้าม เสียดาย และเสียใจ จริง ๆ ครับ
ขอร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ คนดี ที่ดีจริง
พี่อยากเขียนบันทึกนี้เพื่อเตือนความทรงจำของตนเอง
ก่อนกระแสข่าวนี้จะถูกเบียดออกไป
การเสียสละเพื่อประเทศชาติด้วยชีวิตของคนตัวเล็กๆ
ยิ่งใหญ่กว่าคนที่ประกาศว่าจะเอาเลือดทาท้องถนนเป็นไหนๆ
มาร่วมไว้อาลัยด้วยค่ะ
ความดีและผลงานของท่านก็ยังอยู่คู่แผ่นดินไทยค่ะ
ฟัง คุณพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ หลังบ้านจ่าเพียร พูดว่าอยากเห็นภาพครอบครัวพร้อมหน้าในช่วงหนึ่งปีก่อนเกษียณอายุราชการ แล้วสะเทือนใจ
ฉัน รู้ว่าวันเวลาเป็นส่วนหนึ่ง ฉันรู้ว่าวันเวลา..
ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็น ส่วนหนึ่ง ที่รีไซเคิลไม่ได้
-------------
อยากบอกว่าทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้แล้วน้ำตาซึม
--------------
ไม่มีสิ่งใดทดแทนความสูญเสียคนดีๆอีกคนหนึ่งของแผ่นดินค่ะ
ยอมรับว่าร้องไห้หลายครั้งขณะเข้าไปค้นเรื่องราวเพื่อจะเขียนบันทึกนี้
คุณพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ และลูก
ขอให้จ่าเพียรเปลี่ยนนามสกุลเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
แต่จ่าเพียรไม่ยอมเปลี่ยน แสดงว่าหมดที่พึ่งจริงๆแล้วจึงพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
--------------------
อย่างน้อยไม้ขีดไฟก้านเล็กๆที่มอดไปในวันนี้
ก็จะจุดประกายให้สังคมนี้ไม่สิ้นหวังเกินไป
คนที่คิดดี ทำดี ยังมีอยู่มากมายในแผ่นดินไทย
---------------------
ขอให้หยุดทำร้ายประเทศไทยกันเสียที
เรายกย่องคนดีตอนตายไม่กี่วัน อีกไม่นานก็ลืมเลือนเสมือนฝัน
แต่คนชั่วได้ดีมีทุกวัน สรรเสริญกันยกท่านนั้นเลิศลอย
ท่านสมเพียรตายไปในคราวนี้ มาปกป้องคนดีมิเหงาหงอย
เปลี่ยนระบบราชการวันรอคอย ให้ผู้น้อยได้ดีที่ผลงาน
พวกวิ่งเต้นทั้งหลายไปไกลห่าง น่าชิงชังพวกเด็กนายให้ล้างผลาญ
สานเครือข่ายคนดีที่ก่อการ เชิญวิญญาณนักต่อสู้กู้บ้านเมือง
น้ำตาคลอทุกครั้งที่อ่านเรื่องราวของท่านผู้กำกับสมเพียร
ขอแสดงความเสียใจด้วยกับครอบครัวของท่านผู้กำกับ
ขอพระเจ้าโปรดเมตตาสถิตอยู่กับลูกและภรรยาของผู้กล้า
จาก คนยะลา ลูกอดีตตำรวจ
..หยุด! ยกมือขึ้น ความเศร้าได้ล้อมคุณไว้หมดแล้ว..
แกแสดงได้ดีมาก แกแสดงได้ดีเกินไป
นั่นยังไงความผิดของแก...
ถึงจะอ่านแล้วสะเทือนใจแต่ก็ขอเข้ามาอีกที
ลึกเข้าไปในราวป่า หลังจากสิ้นเสียงปืนเมื่อเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน 2533 คนทั้งประเทศต้องหันกลับมามองผู้ชายที่ชื่อ "สืบ นาคะเสถียร" และให้ความสนใจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ถ้าวันนี้บ้านเราไม่มีปัญหาทางการเมือง ข่าวคราวการเสียชีวิตของ "จ่าเพียร" คงไม่ใช่แค่ข่าวกรอบเล็กๆ
ขอเป็นกำลังใจให้คนดีที่เหลืออยู่ครับ
สะเทือนร้าว ก้าวกี่ก้าว ปวดร้าวลึก
จิตสำนึก ตรึกตรอง ต้องฉงน
ให้อดีต เป็นบทเรียน สอนใจตน
สิ่งดีๆ ขยายผล คนศึกษา
...
อยากให้เรื่องราว คุณความดีลักษณะนี้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ ให้เด็กรุ่นใหม่ได้ปลุกจิตสำนึกค่ะ ...
เช่นเดียวกับการเรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวด อย่างมีสติ เพื่อมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยค่ะ ไม่อยากให้คนไทยลืมง่ายเกินไป มิเช่นนั้นประวัติศาสตร์จึงซ้ำรอย ขอบคุณค่ะ
พ่อสมเพียรคือวีรบุรุษของลูกและชาวไทยทุกคน ความกกล้าหาญและเสียสละของพ่อจะเป็นสิ่งเตือนตนเสมอว่าเกิดมาชีวิตนี้ได้ทำคุณงามความดีใดบ้างหรือยัง
เช่นเพลงนี้ เพลง กับโจร“ ฉันมองเห็นทางของฉัน ฉันจะไปอีกทางหนึ่ง
ทางที่ฉันเลิกเอง อย่างที่ฉันเลือกเอง สิ่งที่ฉันเลือกเอง
กับโจร กับโจร ฉันไม่ไปกับโจร
โลกใบนี้ของโจร วัฒนธรรมโจร
เหตุกับผลของโจร
โจรอยู่ในโรงแรม โจรอยู่บนเครื่องบิน
โจรอยู่กลางถนน โจรอยู่ในเมืองใหญ่ โจรอยู่บนรถไฟ”
“เธออย่าถามถึงเสื้อผ้ากองนั้นเลย
เธออย่าถามถึงเสื้อผ้าของฉันเลย
เพราะมันได้ถูกเด็กเลวแย่งชิง
ไอ้เด็กเลว..เฮ้..ไอ้เด็กเลว..
เธออย่าถามถึงแม่น้ำสายนั้นเลย
เธออย่าถามถึงดวงดาวดวงนี้เลย
เธออย่าถามถึงท้องฟ้าของฉันเลย
เพราะมันได้ถูกเด็กเลวแย่งชิง”
"พระบรมฯ" โปรดเกล้าฯ ครอบครัว "พล.ต.อ.สมเพียร" เข้าเฝ้าฯใกล้ชิด พระราชทานกำลังใจ
คุณพิมพ์ชนาภรรยากล่าวว่า
“การที่หลายฝ่าย พยายามที่จะเคลื่อนไหว เพื่อหาคนผิด ในกรณีชื่อของ พล.ต.อ.สมเพียรตกหล่น ทั้งที่มีชื่ออยู่ในโผแล้วนั้น ก็มองว่าน่าจะมีคนรับผิดชอบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น สิ่งที่ร้องขอถือเป็นการพักผ่อนในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่ใกล้เกษียณอายุราชการ หลังจากที่ทุ่มเท ทำงานหนักมาตลอดชีวิตของ ผกก.สมเพียร”
สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.โสภณ อินทรบวร จะมีขึ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2553 เวลา 13.00 น. ที่ฌาปนสถาน เทศบาลนครยะลา สำหรับประชาชนสามารถบริจาคเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัว “อินทรบวร” สามารถช่วยเหลือได้โดยตรงที่บัญชีออมทรัพย์หมายเลข 9090205098 ธนาคารกรุงไทย สาขายะลา ชื่อบัญชี นางสมจิตต์ อินทรบวร (ภรรยา)
พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร ได้กล่าวไว้ในมติชนฉบับวันที่ 18 นี้ว่า
คุณสมเพียรไม่ใช่ตำรวจคนแรกที่เสียชีวิตในอำเภอบันนังสตา ก่อนคุณสมเพียร มีตำรวจภูธรและตำรวจตระเวนชายแดนเคยต้องกับระเบิดและถูกซุ่มยิงขณะปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิตไปแล้วหลายต่อหลายราย แต่คุณสมเพียรต่างกับคนอื่นตรงที่เขาใช้ชีวิตราชการ 40 ปีของเขาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด และเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสในการปฏิบัติหน้าที่มาแล้วหลายครั้ง
การทำงานในพื้นที่วิกฤตอย่างยิ่งอย่างจังหวัดชายแดนภาคใค้นั้น ตำรวจและทหารอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตราย เพราะตกเป็นเป้าของคนร้ายอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องเดินทางไปมาบนถนนหรือเส้นทางเส้นเดิมและเส้นเดียว มิหนำซ้ำในบางกรณีเช่นในการคุ้มครองครู ยังต้องไปกลับตามเวลาเดิมทุกวันด้วย จึงง่ายแก่การที่คนร้ายจะวางแผนซุ่ม หรือลอบทำร้ายได้
การทำงานอย่างจำเจและต่อเนื่องในพื้นที่ที่ไม่ต่างกับสนามรบ และต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น สภาพจิตของเจ้าหน้าที่ย่อมเครียดเป็นธรรมดา และผู้บังคับบัญชาควรจะต้องพิจารณาให้ย้ายออกไป เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูสภาพกายและจิต และให้ผู้อื่นที่สดชื่นแข็งแรงกว่า ไปสับเปลี่ยนทดแทน นี่เป็นหลักธรรมดาของการรบ ไม่ว่าในสนามใด ใหญ่เล็กแค่ไหน
--------------------------------
คุณสมเพียรเป็นวีรบุรุษแล้วครับ แต่เมืองไทยต้องการวีรบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตายแล้ว
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ตำรวจผู้กล้าชื่อ "จ่าเพียร"
"จ่าเพียร" ปรารภกับผู้เขียนว่าองค์กรตำรวจ สวัสดิการช่วยเหลือครอบครัวผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกจากจะช้าแล้วประโยชน์ตอบแทนในรูปของเงินสวัสดิการมีเพียงน้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น
เรือตรีวินัย นาวิกโยธินทหารเรือเสียชีวิตที่ตันหยง ได้รับเงินช่วยร่วม 3 ล้านบาท ของเรานอกจากแค่เงินฌาปนกิจ 2-3 แสน ก็มีเงินกองทุนเล็กกองทุนน้อยรวมแล้วไม่ถึงแสน มันเทียบกันไม่ได้เลยครับอาจารย์
------------
"ผมเอารั้วลวดหนามที่วางรอบบริเวณโรงพักออกให้หมด เพื่อเป็นการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ว่า ตำรวจพร้อมที่จะรับใช้ พร้อมจะเสียสละและไม่กลัว จึงไม่ต้องมีอะไรขวางกั้น เข้ามาติดต่อต้องเข้าง่ายออกง่าย เพราะตำรวจอย่างเรามีหัวใจบริการ แต่ถ้าอาจารย์จะกรุณาผมอยากได้เครื่องขยายเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ยินทั่วถึง"
------------
"นายบางคนต้องการเงินมากกว่าคนทำงาน อุตส่าห์ทุ่มเททำงานหนักมาตลอด เคยปะทะผู้ร้ายกว่า 100 ครั้ง บาดเจ็บ 8-9 ครั้ง วิสามัญผู้ร้าย 22 คน ... ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจกลับมองไม่เห็นหัว คงอยากจะทำเรื่องขอพระราชทานยศ พล.ต.อ.ให้ผมตอนตายแล้วมากกว่า..."
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ
กำลังดูรายการเจาะใจ สัมภาษณ์ "จ่าเพียร"
@ไม่อยากให้เหลือเพียงความทรงจำ@
"พ่อผมเรียกตัวเองว่า พลตำรวจลูกแถวน่ะ ไต่เต้าตั้งแต่เป็นพลตำรวจลูกแถวเลยนะ มีเรื่องสมัยพ่อบรรจุใหม่ๆ เหมือนหนังเกรดบีอเมริกันเลย ไปรายงานตัววันแรกที่บันนังสตาตอนปี 2513 ไปเจอตำรวจอายุ 50 ปีเป็นพลตำรวจ หัวใจแกตกลงตาตุ่มเลย มันต้องไม่ดีแน่ๆ เลย ทำงานจนหัวหงอกยังเป็นพลตำรวจอยู่ แล้วเขาก็เป็นคู่หูของพ่อนะ ออกยิงโจรด้วยกัน ตำรวจแก่ 50 ปีกับตำรวจเด็กรุ่นลูกคนนั้น เหมือนหนังเลย" คุณชุมพลเล่าถึงจ่าเพียร
------------
"15 วันผมเสียพ่อครั้งหนึ่งนะ ที่เขาเรียกเพียรขาเหล็กเพราะแกชอบลาดตระเวน ชอบเดินหาข่าวในป่าลึกที่รถเข้าไปไม่ถึง เดิน 15 คืนกลับบ้านครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเป็นปมด้อยนะ เพราะด้านหนึ่งเราก็ภูมิใจ สิ่งที่ติดตาเรามาตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับพ่อก็คือ ความแข็งแรง ร่างกายพ่อใหญ่กว่าผมครึ่งหนึ่งในส่วนของกระดูก ผมโตมาขนาดนี้ยังไม่เท่ากระดูกของพ่อเลย"
---------------
"สมัยนั้นเขาปะทะกันเป็นลูกผู้ชายมาก เขาแบ่งข้าง มีดินแดนเป็นของตัวเอง ไม่เอาชาวบ้านเป็นตัวประกัน ชัดเจน ไม่มีมาลอบยิง คนแก่ เด็ก ไม่มี ระเบิดใส่ผู้หญิง ยิงคนบริสุทธิ์ ไม่มี เจอเจ้าหน้าที่รัฐก็ใส่ เขาแฟร์มาก ทุกพื้นที่ที่พ่อไป เราเดินเล่นได้ เด็กๆ ผมกับเพื่อนก็เคยเดินป่าบันนังสตาจนทะลุยะหานะ เสาร์ อาทิตย์ เด็กพุทธ-มุสลิม เดินด้วยกัน อันตรายจากสัตว์ยังมากกว่าคนเลย แต่ทุกวันนี้ มันไม่เหมือนเก่า มันไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย แม่บอกว่าคนที่ก่อการเป็นเพื่อนผมทั้งนั้น มันน่าเศร้าที่เราเติบโตมาด้วยกัน"
-------------
"โลกใบนี้ถ้าเราล้างไฟด้วยไฟ ปัญหามันก็ไม่จบ จริงอยู่ ทหารตำรวจน่ะจำเป็นในกรณีที่มีการปะทะรุนแรง แต่การได้หัวใจประชาชนมันต้องเป็นน้ำดับไฟไม่ใช่เหรอ ต้องใช้น้ำใจช่วยยืดหยุ่นไม่ใช่เหรอ พอมองปัญหาในบันนังสตา ตอนนี้ที่กำลังทำอยู่มันเป็นการล้างไฟด้วยไฟ เขาก็ล้างไฟกลับมา แล้วเรามองสะท้อนไปอัฟกานิสถาน มองไปเลบานอน เหมือนกันทั้งโลกนี่นา ใครๆ ก็ล้างไฟด้วยไฟ มองจุดเล็กๆ ก็จะเห็นจุดใหญ่ พอมาเจอเหตุการณ์บันนังสตา เจอพ่อย้าย เราห่วงพ่อ ภาพวันเด็กมันสะท้อนกลับมา เลยทำเพลงนี้ขึ้นมา"
---------
"ทางอาร์เคเคประกาศแล้วว่าตำรวจถ้าเกษียณเขาจะตามเก็บ ก็เตรียมที่ทางไว้ให้ท่านตั้งแต่ 4 ปีก่อนแล้ว ก็คิดว่าท่านจะกลับมาอยู่ด้วยกัน สงบๆ อยู่อีสาน ทำสวนยางไป เป็นคนแก่ปลูกต้นไม้ไป"
-------------
"ผมเสียใจที่มันไม่มีความเป็นธรรม คนเราให้กันตอนเป็นๆ ไม่ได้เหรอ รางวัลที่ควรได้รับ ให้ตอนโน่น เป็นกระดูกเป็นเถ้า กี่รุ่นแล้วนักรบไทย โดนอย่างนี้หมด ก็หวังว่าจะเป็นกระแสบ้าง อย่างที่พ่อบอก ตำรวจรุ่นน้องควรจะได้รับการดูแลที่ดี จากการเรียกร้องของท่าน คนที่ได้ตำรวจที่ดีเป็นแบบอย่างว่า เฮ้ย ทำดีแล้วต้องได้ดี มีผลงานแล้ว เฮ้ย เราอยากสบาย อยากพัก เราก็ควรไป"
โดย : ชัยณรงค์ กิตินารถอินทราณี
เป็นเรื่องสะเทือนใจประชาชนทุกคนจริงๆค่ะ
ความไม่เป็นธรรมในสังคมมีอยู่ทุกระดับ ทุกวงการ ทำให้จิตใจของผู้คนบอบช้ำ หดหู่ ต้องการการเยียวยาอย่างที่น้องอ็อดบอกค่ะ
พี่นุชคะ เห็นภาพข่าววันนี้ที่ภรรยา เข้าไปเก็บข้าวของแล้วยิ่งเศร้า
ภายในห้องนอนของ พล.ต.อ.สมเพียร ที่มีเพียงฟูกบางๆ และหมอน เท่านั้น ไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกแต่อย่างใด
ที่สำคัญท่านอาจจะไม่ได้มีเวลานอนหลับผักผ่อนเต็มที่สักวัน
เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทุกวัน
ตำรวจน้ำดีที่ไม่ร่ำรวย จะมีเหลือที่ไหนอีกบ้างในบ้านเรานะคะ
สวัสดีค่ะ
ขอร่วมสดุดี ผู้กล้าหาญ "พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กล้าแห่งเทือกเขาบูโดบันนังสตา"
........เห็นข่าวทุกครั้งต้องหลั่งน้ำตา สะเทือนใจสุดๆเลยค่ะ
ขอร่วมคารวะดวงวิญญาณวีรบุรุษในหัวใจของชาวไทยทุกคนครับ ;)
สวัสดีอาจารย์นารี
ผมเคยอยู่ที่อำเภอนี้มาก่อนสมัยทำงานที่เขื่อนบางลาง เมื่อปี ๒๕๒๐ มีกองทหารปืนใหญ่สนับสนุนประจำการที่เขื่อนได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงสนับสนุนแทบทุกคืนที่มีการปะทะกันและเมื่อตอนที่จ่าเพียรบรรจุที่บันนังสตา๒๕๑๓ ลุงผมเป็นร้อยตำรวจตรีที่นั่น...ท่านเคยเล่าให้ฟังว่ายิงปืนปราบโจรจนหูดับ(หูตึง)
ส่วนเรื่องความไม่ยุติธรรมในกรมตำรวจผมร้องไห้เสียใจมาตั้งแต่ ๒๕๐๘ โน่น...เพราะผมเป็นลูกตำรวจที่ได้รับผลจากความไม่ยุติธรรมเช่นกัน...แต่เราทำอะไรเขาไม่ได้
คิดแล้วเศร้า
สวัสดีครับพี่อ๊อด
ผมก็ว่านะ บางที เราก็ไม่รู้ทำเพื่อใครเพื่ออะไร ปกป้องอะไร รักษาอะไร คนที่มองไม่เห็นอะไรนอกจาก ทำไปด้วยหน้าที่ อุดมการณ์ ความเชื่อสูงสุด เช่น จ่าเพียรและนักรบ นักสู้ ผู้เสียสละอีกหลายคน เขาเหล่านั้นล้วนมีจิตใจแน่วแน่ ทำงาน มุ่งจุดหมาย ไม่ใส่ใจความสกปรก สิ่งเลวร้ายที่ เกาะกุม ระบบ หรือ อะไรก็ตามที่มองไม่เห็น แม้แต่ รัฐ หรือประเทศ
สุดท้ายเราก็ขัดแย้ง รบรา เพราะสิ่งที่มองไม่เห็น ผมชอบและเห็นด้วยกับลูกชายของจ่า ที่บอกว่าโลกนี้เราล้างไฟด้วยไฟ ทุกที่ทุกแห่ง
ถ้ามองถึงปัญหาขัดแย้งกันด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นเช่นนี้ เหมือนเราจะสิ้นหวังจริง ๆ ครับ หรือสันติภาพจริง ๆ แล้ว แค่ช่วงเวลารอที่จะเกิดสงคราม
ขอให้จ่าเพียรสู่สุขติ
ต่างฝ่ายต่างเพรียกหาความชอบธรรมให้กับการกระทำของพวกพ้อง
จะมีประโยชน์อันใดหากชัยชนะนั้นได้มาบนซากศพ หยาดเลือด และรอยน้ำตา
เหตุการณ์คืนวันที่ 10 เมษายน 2553 สร้างความสูญเสีย และซ้ำเติมประเทศไทยอีกครั้ง ยุติเถิด กลับบ้านกันเถิด
#Nonviolence # We love King # We love Thai
สวัสดีปีใหม่! แบบไทยๆเราครับ
ขอบคุณ อ. ธนิตย์ค่ะ
ปีใหม่แบบไทยๆผ่านไปด้วยยอดผู้เสียชีวิตจากความคึกคะนอง
เศร้าค่ะ กรุงเทพกลับมาวิกฤติอีกแล้ว
อยากให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนนะคะ
เชิญร่วมสมทบทุนกองทุนจ่าเพียร เพื่อตำรวจกล้า 3 จังหวัดชายแดนใต้
ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่ง SMS มาที่หมายเลข 4567890
ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกเครือข่ายและการส่งข้อความแต่ละครั้ง
จะได้ร่วมบริจาคเงินครั้งละ 5 บาทตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ค่ะ
จะจดจำไว้ในดวงใจ ตลอดไป
บ้านเราไม่ค่อยส่งเสริมคนทำดี แต่กลับไปชื่นชมคนรวยๆแทนน่าเศร้าค่ะ