พระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 กำหนดแนวทางการจัดการศึกษาโดยยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ การจัดการศึกษาดังกล่าว มุ่งเน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่มีการจัดเนื้อหาสาระและ กิจกรรมสอดคล้องกับความสนใจ ความถนัดของผู้เรียน ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับบุคคลทุกฝ่ายในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ ด้วยเหตุนี้การจัดการศึกษาในปัจจุบันจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในห้องเรียนเท่านั้น
โลกเรากว้างใหญ่เกินไปที่จะกักขังเหนี่ยวรั้งเด็กติดไว้กับห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่มีรั้วของโรงเรียนล้อมไว้อีกชั้นหนึ่ง การพานักเรียนก้าวพ้นไปจากกำแพงของห้องเรียน จึงเป็นวลีและคำพูดของนักการศึกษาปัจจุบัน ที่ฝันอยากเห็นบรรยากาศการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยสีสัน ท้าทายให้เด็กได้แสวงหา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านโลกกว้างด้วยระบบอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการเรียนรู้จากแหล่งวิทยาการภายในชุมชนรอบตัวผู้เรียน
แหล่งวิทยาการภายในชุมชน ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Community Resource ในภาษาไทยมีผู้ใช้คำอื่นที่แตกต่างกันออกไปหลายคำ เช่น แหล่งความรู้ แหล่งความรู้ชุมชน แหล่งวิชาในชุมชนแหล่งทรัพยากรในชุมชน แหล่งการศึกษานอกโรงเรียน เป็นต้น
การจัดการเรียนการสอนด้วยการพานักเรียนศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน จึงได้รับความนิยมจากเพื่อนครูและมีการนำไปใช้อย่างหลากหลายในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของเรียนรู้บนฐานแนวความคิดของการปฏิรูปการศึกษา และแนวความคิดที่เชื่อว่าแหล่งวิทยาการภายในชุมชนคือขุมพลังสำคัญทางด้านทรัพยากรการเรียนรู้เป็นตัวอย่างของมวลประสบการณ์ที่อยู่ใกล้ตัวผู้เรียนมากที่สุด
สังคมไทยในปัจจุบันได้ก้าวมาสู่ยุคข้อมูลข่าวสารและสังคมแห่งการเรียนรู้ (knowledge -based society) มีการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศได้ก้าวหน้าและรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้นตามไปด้วย แหล่งวิทยาการภายในชุมชนจึงมีเครือข่ายที่กว้างขวางรวมไปถึงเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ที่ทันสมัย โลกออนไลน์จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน
จึงไม่แปลกอะไรที่ในประเทศที่มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยี จะนับรวมเอาสารสนเทศชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญและกำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เช่น ช่องทางผ่าน e-mail หรือ เว็บไซต์ของบุคคลหรือหน่วยงานภายในชุมชน รวมทั้งการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ภายในชุมชนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
แหล่งวิทยาการภายในชุมชนวันนี้..นิยามเปลี่ยนไปแล้วครับ..แหล่งวิทยาการสารสนเทศสมัยใหม่บนโลกของการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์กำลังมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และกำลังเป็นแหล่งวิทยาการหรือแหล่งเรียนรู้ที่ทรงพลังสำหรับผู้เรียน...
ขอเจิมเสียหน่อย ห่างหายไปจาก สังคม go to know เสียนาน