สิ่งที่ชาวไร่ชาวนาควรได้เรียนรู้จากม็อบเสื้อเหลืองและเสื้อแดง 1


 

 

สิ่งที่ชาวไร่ชาวนาควรได้เรียนรู้

 จากม็อบ

เสื้อเหลืองและเสื้อแดง 1

Image and video hosting by TinyPic


     ในบ้านเราช่วง 2-3 ปีมานี้ มีการใช้ม็อบเป็นเครื่องมือการต่อรองระดับชาติอยู่  2  กลุ่มสามารถจำแนกได้ด้วยสีเสื้อ คือเสื้อเหลือง กับ เสื้อแดง

     มีข้อน่าสังเกตคือ

        +ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเป้าหมายของการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับชาวบ้านระดับรากหญ้าหรือชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกรโดยตรง

        +ผู้ที่เป็นแกนนำ และผู้ที่ให้การสนับสนุนไม่ใช่คนระดับเดียวกับชาวบ้านระดับรากหญ้าหรือชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกร

        +ทั้ง  2 ม็อบมีชาวบ้านระดับรากหญ้าหรือชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกรเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนที่สำคัญ

        +ชาวบ้านระดับรากหญ้าหรือชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกรดูเหมือนเต็มอกเต็มใจ เอาจริงเอาจัง ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า ยอมตายถวายชีวิต

                  ******************

        ผู้เขียนคิดว่าอย่างน้อยน่าจะมีคำถามสัก 2 คำถามเพื่อประเมินการตัดสินใจเข้าร่วมม็อบของชาวบ้านระดับรากหญ้าหรือชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกรในทั้ง  2 กรณี คือ

        1.ชาวบ้านฯเข้าใจหรือเปล่าว่าจุดหมายปลายทางของทั้งสองม็อบนี้อยู่ที่ไหน??????

        2.ในปลายทางนั้นมีพื้นที่สำหรับชาวบ้านหรือไม่? เพียงใด? เพราะอะไร?

        ถ้าเราจะประเมินผู้เข้าร่วมม็อบหรือผู้เข้าร่วมม็อบจะประเมินตนเอง ก็อาจประเมินได้จากคำตอบของทั้ง  2  คำถามนี้

        ถ้าผู้เข้าร่วมม็อบตอบคำถามข้อที่ 1 ได้ถูกต้องชัดเจนและคำตอบในข้อที่ 2 เป็นคำตอบรับ...การตัดสินใจเข้าร่วมม็อบของเขาก็น่าจะเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

       ถ้าตอบคำถามข้อที่ 1 ได้ถูกต้องชัดเจน แต่คำตอบข้อที่ 2 เป็นคำตอบแบบปฏิเสธ...การตัดสินใจเข้าร่วมม็อบของเขาก็คงเป็นเรื่องเหตุผลส่วนตัว

       ถ้าเขาไม่เคยตั้งคำถามกับตนเองหรือตอบคำถามไม่ได้เลยสักข้อ และเขาโดดเข้าร่วมม็อบ  ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ผู้เขียนถือว่านี่คือ เหยื่อที่บริสุทธิ์ 

                   *******************

 

 

 

ที่มา:  1. http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/30899

         2. http://www.prachataiwebboard.com/webboard/id/30899

         3. http://www.matichon.co.th/news_article.php?grpid=02

 

หมายเลขบันทึก: 345981เขียนเมื่อ 21 มีนาคม 2010 11:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ  ครูอ้อยมาทักทาย ด้วยความคิดถึงเสมอค่ะ

ปัญหาเกิดจากการเลือกนักการเมือง(ผู้แทน)ไปปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องครับ ไม่ทำเพื่อประชาชน 100 % เลือกตั้งใหม่เราต้องคิดใหม่ ว่าเลือกจากหัวใจไม่ต้องเลือกว่าคนของเรา ,ไม่ต้องคิดตามใคร , เราก็มีสมองมีความคิด ให้คิดว่าคนดียังมีอยู่แล้วเลือกด้วยหัวใจเราเอง

เป็นไปได้ไหมครับอาจารย์P

  • ภายใต้สังคมอุปถัมภ์และทุนนิยมโลกาภิวัฒน์
  • เราจะพัฒนาพลัง ชาวนาชาวไร่จากไพร่เป็น พลเมืองที่มีภูมิปัญามีพลัง
  • ขอบคุณครับ

ชาวนาเดือดร้อน เกี่ยวกับผลิตทางการเกษตร ตอนนี้คงเหมือนกบเลือกนาย แต่นายคนเก่าเขาคงลืมไม่ได้ เพราะช่วงที่เป็นนายก ก็ได้ใจชาวเกษตรกร พี่น้องคนที่เป็นรากหญ้า นิสัยของคนไทยเรา ใครดี เราต้องสนับสนุน ดีนั้นคือ ช่วยเหลือดูแล ยามเดือดร้อน หาทางแก้ปัญหา ให้เสมอ และเข้าใจหัวอกชาวรากหญ้า ในความต้องการ ของเขา มันจึงทำให้ดูเหมือนว่า อดีจนายกเป็นคนเก่งสำหรับพวกเขา และเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว เมื่อพวกได้รับความยากลำบาก ก็ย่อมอยากช่วยเหลือ เพื่อทดแทนบุญคุณ เพราะรู้จักรักและกตัญญู ตามที่ชาวบ้านได้ถูกอบรมมาแต่อ้อนแต่ออก โดยไม่ต้องมีเหตุผลอย่างอื่น หรือไม่มีเหตุผลก็ว่าได้

-และชาวบ้าน ฟังว่าอดีตนายกโกงอย่างนั้นโกงอย่างนี้ ก็ถูกปลูกฝังมานานและเห็นอยู่แล้ว คนที่มาเล่นการเมือง จุดมุ่งหมายก็อันดียวกัน ถ้าได้โอกาสก็โกย เกือบทุกๆคน อยู่ที่ว่าจะกินมากกินน้อย ชาวบ้านไม่เดือดร้อน ยังมีอยู่มีกิน เขาจึงเฉยๆๆๆ

-แต่ถ้าหากว่าเขาเดือดร้อนเมื่อไหร่ แล้วมาจับกลุ่มชุมนุมตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ หรือความจริง เขาก็คล้อยตามทั้งนั้น เพราะเขารักอดีตนายกมาก นี่คือวิเคราะห์นิสัยคนอีสานนะคะ  ไม่ใช่เขาไม่รู้อะไรนะคะ แต่อยู่พวกเดียวกันแล้ว ก็ต้องเห็นใจกัน ช่วยเหลือกัน

-ขอวิเคราะห์แค่นี้ก่อน ไม่ได้เข้าข้างใครนะคะ ชอบฟังคนทั้งหลายพูด จับประเด็นแล้วนำมาวิเคราะห์คะ

หมอชาวนา มีผลงานวิจัยอิสระเรื่อง ปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มชาวนา พบวิธีแก้ไขปัญหาง่าย ๆ หลายแนวทาง สามารถทำให้เกษตรกรรวยกว่าพ่อค้า ดีกว่าข้าราชการ ได้มากกว่ากองทุนเงินล้าน มีเงินให้รัฐบาลกู้ยืม รวยจากการให้ ได้จากความสามัคคี ยิ่งนานยิ่งรวย รวยด้วยศักยภาพและการพึ่งพาตนเอง ทุกปัญหามีคำตอบ แม้จะเป็นปัญหายุทธศาสตร์ขนาดใหญ่แต่ก็เป็นได้แค่เส้นผมบังภูเขา โอกาสเราสร้างเองได้ และชัยชนะเราสามารถสร้างขึ้นได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ชนะแบบไม่ต้องออกแรงสู้ อยู่เฉย ๆ ก็ชนะ หรือชนะทางยุทธศาสตร์ ชนะโดยไม่ต้องรบ ปราบทุจริตให้สิ้นไปไม่มีใครกล้าทุจริตอีก ไม่เกิดความสิ้นเปลืองเสียหายร้ายแรง เน้นการเอาชนะปัญหา ไม่ใช่เอาชนะกันเอง เพราะความขาดสติไร้ปัญญาคนจึงฆ่ากันตาย ทำร้ายกันเอง ปัญญาเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด ต้องเป็นปัญญาของตนเองไม่ใช่เป็นเครื่องมือของใคร ไม่ว่าใครจะเรียนรู้อะไร จบจากไหน ระดับใด ถ้าขาดสติก็ไร้ปัญญา ชี้ทางสวรรค์ให้ก็ไปไม่ถูก เพราะใช้อารมณ์ ไม่ใช้ปัญญา ปัญญามาจากความจริง ทุกคนมีเป้าหมายอยากไปสวรรค์แต่พากันเดินลงนรกก็ไม่มีวันจะเห็นสวรรค์ ถ้าอยู่ร่วมกันด้วยการเบียดเบียนแก่งแย่งอย่างทุกวันนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีสันติสุขแท้จริง ยกเว้นแข่งกันทำความดี โดยใช้ความจริง ขอเชิญผู้มีเกียรติที่พร้อมด้วยสติปัญญาทุกท่านที่สนใจการแก้ไขปัญหาลองเข้าไปอ่านในอินเทอร์เน็ตหัวข้อ msgent of thai สงสัยติดต่อสอบถาม [email protected]

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท