นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ทำให้การบริโภคภาคเอกชนลดลง แต่หากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ และไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบเพียงระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะมีการนำปัจจัยทางการเมืองมาประกอบการพิจารณาเพื่อปรับประมาณการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อีกครั้ง ในเดือนเมษายนนี้
"แม้จะมีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้น แต่นักลงทุนต่างชาติยังมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย สะท้อนจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทย ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ก.พ. และ มี.ค."
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อน เห็นได้ชัดเจนจากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจหลายตัว เช่น การส่งออก การลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้น ความจำเป็นในการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำจึงมีน้อยลง และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 21 เมษายนนี้ จะนำข้อมูลเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศล่าสุดมาพิจารณาว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่
ไม่มีความเห็น