การกำหนด การพิจารณา หรือการภาวนาก็ดีต่อสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้น
ตัวนิวรณ์ที่เกิดขึ้นกับใจของเรา เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
หากเผลอสติ ขาดสติ โดยสติตามไม่ทัน
ตัวนิวรณ์ก็จะเข้ามาครอบงำตัวเราได้
เมื่อมันเข้ามาครอบงำใจของเรา มันก็ทำให้ไม่ประสบกับสิ่งที่เราตั้งใจไว้
อาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นตัวขีดกั้น ตัวขวางกั้นไม่ให้ประสบผลสำเร็จ
การที่จะผ่านตรงนี้ได้ต้องมีจิตใจกล้าแข็ง จิตใจกล้าแข็งคือ
ต้องมีสติที่เข้มแข็งขึ้นมา มีสติสัมปชัญญะที่ลึกอยู่ตลอดเวลา
ทำให้เกิดความหนักแน่นและระลึกได้
สัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมต่อสภาวะที่เกิดขึ้นว่า
มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เราอยากจะนั่งนิ่งๆ นั่งเฉยๆ
ไม่อยากจะกำหนดมันก็เป็นกามรูป
หลงในรูปเหมือนกับเทวดา
บางทีเราทำบุญแล้วอยากไปเป็นเทวดา นั่นคือหลงในกาม
ซึ่งเป็นกามเช่นเดียวกัน นั่นก็คือนิวรณ์ชนิดหนึ่งที่ลึกลงไปอีกขั้นหนึ่ง
ฉะนั้นในท้ายที่สุดที่กล่าวมาในนิวรณธรรม องค์ธรรมทั้ง ๕
ที่เป็นตัวขวางกั้นทำให้เราไม่ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติธรรม
การกระทำหน้าที่อะไรก็ตาม
ถ้าเกิดองค์ธรรมทั้ง ๕ ประการ เข้าไปครอบงำทางจิตแล้ว
เราก็จะทำงานนั้นไม่สำเร็จ
ท้ายที่สุดนี้ขออวยพรให้พวกเราท่านทั้งหลายผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม
จงแหวกม่านนิวรณธรรมทั้ง๕ ประการให้ผ่านพ้นไปได้ทะลุเป้าหมาย
ให้รู้สภาวธรรมชัดเจน
จงทุกท่านจงทุกประการเทอญ
ไม่มีความเห็น