เรื่องราวของแม่น้ำโขงช่วงนี้เป็นที่สนใจ เนื่องจากเนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมลุ่มน้ำนานาชาติและการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง(เอ็มอาร์ซี) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 2 – 5 เมษายน 2553 จัดขึ้นที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท รีเจนซี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงแรกจะเป็นการประชุมลุ่มน้ำนานาชาติซึ่งมีผู้แทนลุ่มน้ำนานาชาติในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา ยุโรป ละตินอเมริกาและทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาชน และผู้แทนลุ่มน้ำภายในประเทศกว่า 300 คนเข้าร่วมประชุม ช่วงที่สองระหว่างวันที่ 4 – 5 เมษายน 2553 จะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง(เอ็มอาร์ซี)ซึ่งจะเป็นการชุมนุมของผู้นำประเทศต่างๆในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่างโดยพร้อมหน้าครับ
ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีการจัดเวทีสาธารณะ “แบ่งปันแม่น้ำโขงอย่างเป็นธรรม”ประชุมคู่ขนานการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง(เอ็มอาร์ซี)ไปพร้อมๆกันด้วย โดยใช้ห้องประชุมของ บ.รักลูก แฟมิลี่กรุ๊ป(ย้ายมาจากจุฬาฯเนื่องจากจุฬาฯปิดมหาวิทยาลัยกะทันหัน สำหรับเวทีนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชนด้านลุ่มน้ำนานาชาติ เช่น จาก ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่าและประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ดำรงวิถีชีวิตโดยพึ่งพาอาศัยอยู่กับแม่น้ำโขง รวมแล้วก็ประมาณ 300 คนเหมือนกันและสำหรับเวทีนี้ทราบว่าได้มีการจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
“ เราต้องทำให้รัฐบาลจีนและคนจีนรู้ว่าเขากำลังทำอะไร ให้คนในลุ่มน้ำโขงอีกจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน เราต้องทำให้จีนเห็นพลังจากคนลุ่มน้ำ” ครูตี๋หรือ อ.นิวัติ ร้อยแก้ว จากกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าวในเวทีสาธารณะ“แบ่งปันแม่น้ำโขงอย่างเป็นธรรม”ดังกล่าว
“ไม่อยากให้มองเฉพาะเขื่อนในจีนเท่านั้นที่ทำให้เกิดความผิดปกติในแม่น้ำโขง เพราะทุกประเทศในลุ่มน้ำโขงรัฐบาลอยากสร้างทุกราย หากมีโอกาสแม้กระทั่งประเทศไทยก็ต้องดำเนินการ เช่นโครงการสร้างเขื่อนบ้านกุ่ม จ.อุบลราชธานี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากเขื่อนในจีนมากที่สุดคือ ไทยเพราะอยู่ใกล้ที่สุดและได้รับผลกระทบโดยตรง”คุณวิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ กล่าวในอีกเวทีหนึ่ง “การประชุมลุ่มน้ำนานาชาติ” ที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
ในวันหยุดผมติดตามข่าวการประชุมทั้งสองเวที ภาพที่เห็นให้ความรู้สึกว่าแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแห่งปัญหาและกำลังค้นหาว่าในเรื่องนี้ใครคือคนผิด...ทั้งๆที่แม่น้ำโขงใช่ว่าจะมีแต่ปัญหาให้เราค้นหาเท่านั้น แม่นำโขง...ยังมีเรื่องราวที่ดีๆให้ค้นหาโดยเฉพาะที่นี่ริมฝั่งโขง นครพนม นิเวศวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขงตอนกลางแอ่งสกลนคร_นครพนม
...........
ย้อนกลับไปเมื่อเช้าวันที่ 26 มีนาคม 2553 ยามเช้าริมฝั่งโขงอากาศในวันนั้นสดชื่นเย็นสบาย(ค่อนข้างไปทางหนาว) ผมเดินเลาะตามแนวชายหาดริมฝั่งโขงนครพนมแบบสบายๆกับท่านอาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
อ.ไพบูลย์ มองไปที่เวิ้งหาดทรายกว้างไกลลิบลิ่ว ดูแม่น้ำโขงดูแห้งขอดจนมีสภาพเป็นดั่งลำธาร อาจารย์ เปรยว่าแม่น้ำโขงหน้าแล้งปีนี้ดูนำน้อยกว่าทุกปีหรือเปล่า
ผมตอบว่าผมไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงๆแล้วเป็นอย่างไรทราบจากข่าวที่รายงาน เห็นบอกว่าปีนี้แม่น้ำโขงแล้งที่สุดในรอบ 50 ปี
คุณสนใจศึกษาAI(สุนทรียสนทนา)ที่นครพนมนี้จากค้นพบของคุณมีอะไรที่น่าชื่นชมยินดีบ้าง อ.ไพบูลย์ เอ่ยถามผม
ผมตอบอาจารย์ไปว่า ผมมาเยือนนครพนมเพียงไม่กี่ครั้ง แต่คำถามของอาจารย์เป็นเรื่องที่ผมสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ ถึงแม้ว่าผมพึ่งจะเริ่มศึกษาจากการถามไถ่ผู้คน ชาวบ้านแถวนี้จากการมาถึงครั้งนี้ผมค้นพบเรื่องที่น่าชื่นชมเกี่ยวกับนครพนมเกินกว่า 10 เรื่องแล้วครับ ผมจึงอยากจะสรุปรวมๆเป็น “AI การค้นพบด้วยความชื่นชมยินดีกับนิเวศวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขงแอ่งสกลนคร_นครพนม” ที่ผมได้เล่าให้อ.ไพบูลย์ในวันนั้น(เป็นความเห็นแบบAIในเบื้องต้นเท่านั้นยังไม่ใช่AIของคนนครพนมนะครับ)ดังนี้ครับ
2. เมืองศรีโคตรบูรณ์เมืองโบราณของคนที่นี่ตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาล ความเชื่อของคนที่นี่เขาเชื่อว่าบ้านเมืองของเขาก่อสร้างบ้านแปงเมืองเป็นเมืองมาตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาลแล้ว นี่เขาก็เชื่อตามตำนานอุรังคธาตุเช่นกัน ตามตำนานดังกล่าวได้บอกถึงการเสด็จมาที่เมืองเมืองศรีโคตรบูรณ์โบราณและบ้านเมืองแถวนี้(เดิมชื่อเมืองศรีโคตรบูรณ์อยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตรงข้ามอำเภอธาตุพนมในปัจจุบันแล้วย้ายมาอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงด้านเหนือองค์พระธาตุพนมเรียกชื่อใหม่ว่าเมือง มรุกขนคร ในสมัยพระบรมราชาได้ย้ายเมืองใหม่มาอยู่ที่เมือง นคร ซึ่งคือนครพนมในปัจจุบัน)
3. ย่านนี้มีความหลากหลายทางชาติพันธ์มากที่สุดแถบนี้ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธ์ที่หลากหลายเช่น ผู้ไท ญ้อ ลาว กะเลิง ข่า(บรู)ไทตาด(ผมไม่เคยพบ) กะโซ่ กุลา แสก เวียด จีนและไทยสยามชาติพันธ์เหล่านั้นอยู่ร่วมกันด้วยความกลมกลืน ความหลากหลายเป็นความงดงามอย่างยิ่งครับ
4. เรณูนครถิ่นผู้ไท เรณูนครได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีคนผู้ไทมากที่สุดและเป็นเมืองหลวงของคนผู้ไท(เมืองแถนเป็นเมืองหลวงของผู้ไทนานาชาติ)
(ตัวแทนเครือข่ายกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองเรณูนครมาต้อนรับอ.ไพบูลย์ที่วัดพระธาตุพนม)
5. นาหว้าย่านที่มีการทอผ้าพื้นเมืองสวยงามมากที่สุด ที่นาหว้าได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีการทอผ้าทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้ายที่สวยงามที่สุดได้รับรางวัลต่างๆมากมาย
6. ตำนานบ้านลุงโฮที่นาจอก นาจอกยังได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านมิตรภาพไทย_เวียดนาม ผมได้เคยบันทึกเรื่องนี้ในครั้งที่แล้วที่
7. ตำนานชาวนาปฏิวัติที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร(ในสมัยนั้นปัจจุบันอยู่ ต.โคกหินแฮ่) หรือตำนานวันเสียงปืนแตก 7 สิงหาชาวนาปฏิวัติ
8. นครพนมเป็นจังหวัดที่มีควายมากที่สุดและเป็นควายพันธ์ดีที่สุด เพื่อนผมทำงานที่สนง.ปศุสัตว์จังหวัดบอกผมไว้อย่างนั้นและยังบอกว่าที่เขากัปปันนคีรีมีบันทึกอักษรโบราณเขียนไว้ว่าถวายแด่เทพเจ้าแห่งควาย นครพนมจึงเป็นเมืองหลวงของควายด้วย
9. นครพนมเป็นจังหวัดที่มีปริมาณน้ำฝนตกต่อปีมากที่สุดในประเทศไทย อันนี้เป็นสถิติของราชการเกือบ 100 ปีมาแล้วตั้งแต่มีการวัดปริมาณน้ำฝนมายังไม่มีจังหวัดไหนทำลายสถิติได้เลย
10.อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำโขงมีความหลากหลายทางชีวภาพที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นสายน้ำแห่งตำนานความเชื่อ ความศรัทธาและวิถีชีวิตของผู้คนรวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แม่น้ำโขงมีความหลายหลายทางชีวภาพด้วยมีสายพันธุ์ปลาน้ำจืดที่มากที่สุดอันตับต้นๆของโลก
11.เมืองเชื่อมโยงวัฒนธรรมสองฝั่งโขง มีภูมิทัศน์วัฒนธรรมที่สวยงามมีคนที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติท่านเคยบอกว่าแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่สวยงามที่สุดในโลก(จำไม่ได้นานแล้วจะเป็นจิม ทอมสันหรือเปล่า) หาดทรายทองริมฝั่งโขงหน้าแล้งสวยงามด้วยเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งวัฒนธรรมประเพณีการไหลเรือไฟล่องแม่น้ำโขงอันเลื่องชื่อ
12. เป็นย่านแหล่งอารยธรรมสังคมอุดมทิพย์ สังคมอุดมธรรม ไม่มีย่านภูมินิเวศวัฒนธรรมไหนที่จะมีการเกิดขึ้นของการแสวงหาที่จะสร้างสังคมพระศรีอาริย์เท่าย่านย่านภูมินิเวศวัฒนธรรมนี้ การเกิดขึ้นของพระธุดงค์กรรมฐานสายอิสานภายใต้การนำของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ฝั้น อาจาโรและลูกศิษย์ลูกหาอีกมากมาย
13.มหาวิทยาลัยนครพนมเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งล่าสุด(คิดว่าเป็นอย่างนั้น)
14. นครพนมจะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 ใกล้สร้างเสร็จแล้วครับจะเป็นสะพานแห่งมิตรภาพเชื่อมโยงผู้คนในภูมิภาคให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ไทย ลาว เวียดนาม เลยไปถึงมณฑลกวางสีที่จีนครับ
แม่นำโขงในวันนี้ใช่ว่าจะมีแต่ปัญหาให้ผู้คนมาถกมาแก้ไขกันเท่านั้น แม่นำโขงโดยเฉพาะที่นี่...นครพนมนิเวศวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในลุ่มนำโขงตอนล่าง ยังมีเรื่องราวที่ดีๆต่างๆเป็นตำนานให้ชื่นชมยินดีครับ
ชุมชนวังยางเป็นส่วนหนึ่งของนิเวศวัฒนธรรมลุ่มนำโขงตอนล่าง(แอ่งสกลนคร_นครพนม) สำหรับการค้นหาความดีด้วยความชื่นชมเฉพาะชุมชนวังยางจะได้ดำเนินในโอกาสต่อไป
มีหลายสิ่งหลายอย่างน่าศึกษาเรียนรู้อย่างมาก
สนใจข้อ ๗ ข้อ ๘
ตำนานชาวนาปฏิวัติที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร(ในสมัยนั้นปัจจุบันอยู่ ต.โคกหินแฮ่) หรือตำนาน เสียงปืนแตก 7 สิงหา
กราบนมัสการพระมหาแล
" สวัสดีปีใหม่ไทย พุทธศักราช ๒๕๕๓ และสุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ "
ตำนานลุ่มน้ำโขงที่มีมาช้านาน มีอิทธิพลต่อคนลุ่มน้ำโขงมากมาย
ปีนี้น้ำโขงแห้งขอดลงแม้แต่ที่ในเมืองหนองคายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ปีนี้น้ำน้อยจริงๆ คนลุ่มน้ำโขงใจหายและกังวลใจมากค่ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
น่าประทับใจกับการเดินทางไกล....เดินทางด้วยความปลอดภัยและมีความสุขกับวันปีใหม่ไทย...วันสรงกรานต์ครับ เยี่ยมมากครับ
สวัสดีปีใหม่ไทยครับคุณครูสายธาร
สวัสดีค่ะ
ไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนคะท่าน
มาส่งความระลึกถึง…….
ในโอกาสปีใหม่ไทย...และวันครอบครัว
ขอให้ฮักกัน...แพงกัน..นะคะ.....
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะท่านเทพฯ
ปีนี้เป็นปีแรกที่น้ำของแห้งสุด หากแต่คงได้เห็นความงามไปอีกแบบ
ขอให้ฮักกัน แพงกัน ... ทำให้นึกถึงช่วงอยู่ลาวเด้อค่า สุขสันต์กลับมาทำงาน เป็นกำลังใจค่ะ