“ เราพูดอยู่เสมอถึงคำว่า สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สติปัญญานั้นแท้จริงแล้วเรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต และจำเป็นแก่ชีวิต มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณได้”
จริงอย่างท่านหลวงพ่อจรัญท่านว่าไว้จริงๆค่ะ เรามักพูดกันว่า สติ ๆๆ แต่เมื่อถึงสภาวะการณ์ที่จำเป็นแล้ว เราไม่สามารถนำสติออกมาใช้ได้เลย เป็นเพราะอะไร เพราะเราไม่เคยฝึกฝนให้มีสติในชีวิตประจำวัน นั่นเอง... ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งให้พอลล่า ลาไปปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ ที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี แต่ถ้าจะถามว่า ทำไมต้องที่นี่ !! พอลล่าบอกได้เลยค่ะ ว่าไม่ทราบมาก่อน น้องออย เมล์มาชวนจึงเข้ามาศึกษาในเวบไซต์ จึงตัดสินใจเข้าปฏิบัติธรรม ในหลักสูตรเบื้องต้นก่อน คือหลักสูตรสามวัน แล้วเรา 4 คน(แม่ต้อย ท่านรองนพ.กิตตินันท์ โอ๋ และพอลล่า) จึงตกลงออกเดินทางจากสรพ. เวลาบ่ายโมง มาถึงที่วัดอัมพวัน ประมาณ บ่ายสองโมงครึ่ง
เดินตรงเข้าไปที่จุดลงทะเบียน มีแม่ชีแนะนำขั้นตอนการบริการให้กับทีมเรา และทีมอื่นๆ ที่ทยอยกันเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น วัยทำงาน มากกว่าผู้สูงอายุ พอลล่าจึงคิดว่า trend การปฏิบัติธรรมในสมัยนี้ เขาเปลี่ยนไปแล้ว..สิ่งที่ไม่ควรลืมติดตัวมาด้วยคือบัตรประชาขนค่ะ ต้องใช้กรอกข้อมูลและเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบด้วยค่ะ ดูว่าคนเดียวกันรึป่าว นั่นเอง..การกรอกต้องกรอกทุกช่องค่ะ เน้นที่ช่องเคยมา หรือไม่เคยมา ต้องกรอกตามจริง ใครที่เคยมาแล้วห้ามบอกว่ามาครั้งแรกเด็ดขาด เพราะแม่ชีจะจำได้ค่ะ บริเวณจุดลงทะเบียนจะมีป้ายติดเอาไว้ว่า”เขตห้ามโกรธ” พอลล่ากับแม่ต้อยคิดว่า เขาบอกใครกันว่าห้ามโกรธ น่าจะบอกพวกเรา เพราะเขาหันป้ายออกมาทางพวกเรานั่นเอง อิอิ.. เอ..ถ้าหันเข้าไปทางเจ้าหน้าที่ด้วยก็จะดี นะคะ ...เริ่มคิดไม่ดี ซะแล้วววเรา
ลงทะเบียนเสร็จ เราจะได้ชุดขาว 1 ชุด ทางวัดจะบริการให้ยืม วันละ 1 ชุดมารับได้ทุกวัน เวลา 4 โมงเย็นค่ะ แล้วก็เหลือบไปเห็นกองชุดผ้าขาว แยกประเภทไว้ ว่าผ้าถุง เสื้อ กางเกง กองใญ่รอซักอยู่ใกล้ๆ นั่นเอง...ขอบอกว่า กองใหญ่มากๆค่ะ แสดงว่าคนคงไม่น้อย สังเกตจากขณะลงทะเบียนก็ไม่น่าจะน้อยค่ะ มาทราบข่าววันที่สอง ว่า 1100 คนค่ะ ...มิน่าล่ะ เจ้าหน้าที่แต่ละท่านบ่นไปตามๆกันว่า ใครที่มาแล้ว ไม่ต้องมาอีก ให้ไปปฏิบัติเอาเองที่บ้าน ไม่ต้องมาเรียนซ้ำๆ ค่ะ
ใครที่ไม่อยากยืมชุดสามารถซื้อชุดใหม่ได้ค่ะ มีร้านค้าบริการอยู่ 2 ร้าน ผ้าถุงธรรมดา 100 บาท ถุงสำเร็จรูปก็มี เสื้อแขนกระบอก แขนสั้น ชุดชั้นในสีขาว กางเกงก็มี แต่ขอบอกไว้ว่า ผู้หญิงให้ใส่ผ้าถุงเท่านั้น ห้ามใส่กางเกง เพราะถ้าแม่ชีเห็นแล้วจะต้องไปเปลี่ยนทันทีค่ะ ที่นี่กฎระเบียบเคร่งครัดดีมากๆ เพราะต้องบริหารจัดการคนจำนวนมากนั่นเอง
หลังจากลงทะเบียนรับชุดชาวและซื้อชุดขาวแล้ว เราก็ต้องเอาของไปเก็บและเปลี่ยนเป็นชุดขาว ซึ่งห้องพักจะระบุไว้ที่บัตรประจำตัว ที่เราต้องติดไว้ประจำตัวตลอดที่อยู่ที่นี่ค่ะ ในบัตระบุว่าพักที่ อาคารหน้าเมรุ แน่นอน ต้องอยู่หน้าเมรุ..ฟังชื่ออาคารแล้ว เริ่มขนลุกแล้วเรา แต่ไม่เป็นไร เรามีเพื่อนนี่นา..
บัตรประจำตัวของพอลล่าค่ะ อาคารหน้าเมรุ 17
แล้วเราก็หิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเรามาที่พัก พอเดินขึ้นบันได เปิดประตูเห็นที่นอนของเราเท่านั้นแหละ... ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้ได้เลยค่ะ ที่นอนของเราที่เห็น เป็นเสื่อที่ปูติดๆกัน หมอนวางต่อๆ กัน ยาว 16 ที่ ทีทั้งหมด 5 แถว ซึ่งก็หมายความว่าในห้องนี้มีคนพักทั้งหมด 80 คน ... พอลล่า แม่ต้อย เดินหา หมายเลขของเรา 17 18 แม่ต้อย ทำไมไม่มี หมายเลขเราคะ ... ดีใจลึกๆ คือไม่มีอาจจะอยู่อีกตึกนึงอาจจะดีกว่าที่นี่ หรือ ...ไม่มีก็กลับ พอลล่าคิดอย่างนั้ง จริงๆ ค่ะ และแล้ว ...แต่..เราก็หากันจนเจอ.. เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ อันนั้นเพลงนี่นา เราก็หาหมายเลขที่นอนของเราพบแล้ว พอลล่าหันไปมองหน้าแม่ต้อย ว่า เอาไงดี...แม่ต้อยบอกว่า เอาไงก็เอากัน เขาให้อยู่แบบไหน ก็อยู่ไป.. แล้วที่นอนเราแค่เอากระเป๋าเราวาง เราก็จะไม่มีที่นอนแล้ว...ได้บทเรียนเลยว่า คราวหน้าไปที่ไหน เอากระเป๋าใบเล็กๆ พอประมาณ พอใส่ของได้ไปเท่านั้น จะได้มีที่นอน
แม่ต้อยในชุดขาว สวยแบบธรรมชาติ จริงๆค่ะ
ที่นอนของพอลล่าอยู่ริมสุด ติดหน้าต่าง โชคดีที่มีมุ้งลวด ยุงคงไม่กัด แต่อากาศร้อนมากๆ อบอ้าวสุดๆ เพราะคนจำนวนมากและอากาศร้อนด้วย จึงทำให้ทวีคูร สองเท่าเลยค่ะ เราเตรียมข้าวของไปอาบน้ำ เป็นห้องน้ำรวม ประมาณ 20 ห้อง ต้องรอคิวกันพอสมควร เอ๊า..รอก็รอ แล้ว เราก็ได้อาบน้ำ รู่สึกว่า เป็นน้ำที่เย็นมากที่สุดเท่าที่เคยอาบมา ทำให้ผ่อนคลายจากความรู้สึกร้อนไปได้ มากเลยทีเดียว แม่ต้อยบอกว่า ทำให้เราได้เรียนรู้ คุณค่าของที่นอนที่บ้านเรามากขึ้นทีเดียวค่ะ
การปฏิบัติธรรมที่นี่ มีคติกรรมฐานว่า
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก
เราเปลี่ยนชุดขาวแล้ว ก็รีบไปตามนัดเวลา 4 โมงเย็นที่อาคารภาวนา เพื่อทำพิธีขอศีล 8 อาคารนี้เป็นที่ปฏิบัติ เป็นที่นั่งกรรมฐานวันละ 4 ครั้ง ทำวัตร สวดมนตร์ เช้าและเย็น เมื่อรับศีล 8 แล้ว ท่านพระครู ที่นี่ไม่ให้เรียกว่าหลวงพ่อให้เรียกว่า “ท่านพระครู” ท่านมาให้เรารักษาศีล 8 และเทศน์ สอนการปฏิบัติตนทั่วไป ของพุทธศานิกชน จนไปถึงการปฏิบัติตน เวรกรรม บุญ ซึ่งท่านประสบมาจากประสบการณ์ของตัวท่านเอง เป็นพระอาจารย์ที่เทศน์เก่งมากๆ สนุกและเข้าใจง่าย ท่านเป็นคนเชื้อสายจีน แต่เข้าใจภาษาบาลี และภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง
การถ่ายภาพก็เป็นการไม่สำรวมอย่างหนึ่งค่ะ แต่พอลล่าถ่ายมาเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ท่านคงไม่ว่าค่ะ ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพจึงไม่ค่อยชัดค่ะ
สิ่งที่พอลล่าได้เรียนรู้
“นัจจะ คีตะ วิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะ วิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะนะ(อ่านว่ามัน ดะ นะ) วิภูสะนัฏฐานา เวระมณี สิขาปทังสมาทิยามิ”
ยาวมากๆค่ะ จำยากด้วย ใครมีเทคนิคการจำบ้าง บอกกันหน่อย ค่ะ ข้อนี้ให้เว้นจากการฟ้อนรำ การขับเพลง การดนตรี การดูการเล่น การทัดทรงสวมใส่ การประดับตกแต่งกาย ด้วยเครื่องหอม และเครื่องผัดทา ..วันแรกพอลล่าทาครีมค่ะ เพราะคิดว่าไม่หอม แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เลย แป้งเด็กก็ไม่ได้ ยาระงับกลิ่นกายก็ไม่ได้ค่ะ หลังจากที่ฟังพระท่านเทศน์ และรับศีลแล้ว พอลล่าก็ไม่ทาอะไรเลยค่ะ ไม่ทาครีม ไม่ทาวาสลีน ฯลฯ ปล่อยตามธรรมชาติของเรา สำหรับใครที่ทาเล็บขอให้ล้างออกจากบ้านไปให้เรียบร้อยค่ะ จะได้ไม่รบกวนทางวัดด้วย ท่านแม่ชีบอกว่าเราต้องใช้อย่างประหยัด มีน้ำยาน้อย ผู้หญิงผมยาวให้มัดผมให้เรียบร้อยไม่ให้ปล่อยรุงรัง หากใครมีสร้อยคอ นาฬิกา แหวน กำไล ไม่ต้องนำไปด้วยจะเป็นการดีค่ะ เราจะได้ไม่ต้องระวังต่อการหายและการถูกลักขโมยด้วยค่ะ
ตามทฤษฎี สติปัฏฐาน สี่ประกอบด้วย มองว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ได้แก่
ขอเล่าประสบการณ์ช่วงแรก ช่วงรับน้องใหม่ก่อนนะคะ หลังจากนี้จะเป็นคืนแรกของการไม่ทานข้าวเย็น อาบน้ำ นอนห้องรวม นอนเสื่อผืน หมอนใบ ไม่มีแอร์ของพอลล่าจะเป็นอย่างไร และยังมีอีกมากมาย สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ค่ะ ขอมาเล่าต่อนะคะ
นำบุญมาฝากทุกท่านที่เข้ามาอ่านและไม่ได้อ่าน ค่ะ
อย่าลืมนะคะ
สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน
เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
เจ้ามามือเปล่า เจ้าจะ เอาอะไร
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
ขอบคุณนะคับพี่พอลล่าคนสวย..
อนุโมทนา สาธุ...
การปฏิบัติธรรมคือวัตรอันงดงามจ้า..
อนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ..
สวัสดีค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
มาอนุโมทนา สาธุๆๆ ด้วยคน มิน่าติดต่อไม่ได้ พี่เกียรติเขียนเรื่องบวช น้องพอลล่าเขียนเรื่องไปวัด แงๆๆมีแต่คนเขียนเรื่องวัด ...
ไม่กล้าไปวัด วันก่อนไปร้อนๆๆอย่างไรไม่ทราบ (กลัวเอาน้ำตาไปอวด แม่ชี..ก๊าก คิดได้ไงเนี่ย)
สวัสดีค่ะ มาร่วมปฎิบัติด้วยคนค่ะ ร้อนๆอย่างนี้หันหน้าเข้าวัดก็คงจะดีเหมือนกันน่ะค่ะ ชุ่มฉ่ำสายธารพระธรรมค่ะ
น้องพอลล่า เรื่องโครงการช่วยหน่อยนะคะ
กำลังคิดว่า..จะเขียนเสนอใครบ้าง
ได้เลยค่ะพี่นาง
โครงการจิตอาสาโกทูโนว์ : โกทูหนองคาย จัดค่ายเยียวยา เพิ่มคุณค่าผู้ป่วยโรคไต
ดีไหมคะ
ขอบคุณสำหรับบุญที่นำมาฝากครับ
รออ่านตอนต่อไปครับ
มาอนุโมทนาบุญก่อนฝันดีค่ะน้องพอลล่า ว่าทำไมภาพ๒คุ้นๆ จังแม่พี่ต้อยคนงามนี่เอง
กำลังซึ้งๆ กับธรรมะหลวงพ่อ ... เจอคห. อ.ขจิต เท่านั้น อิ อิ รออ่านตอนต่อไปค่ะ
สวัสดี ครับ คุณพอลล่า
อ่านบันทึกนี้ แล้ว รู้และเข้าใจคุณพอล่า ดียิ่งขึ้น
นี่ไม่ใช่คำชม นะครับ แต่เป็นคำพูดที่พูดได้เต็มปาก ครับว่า
การสวยทั้งจากภายนอกและภายใน เนี่ย! อยู่อย่างไร
ชื่นชม คุณจริง ๆ นะครับ
ร่วมอนุโมทนาบุญ ด้วย คนนะครับ
ชื่นชมครับพรทั้งหล้า 20เมษา รพ ปากพะยูนเข้ารับการประเมินครับ
อนุโมทนาบุญกับการไปปฏิบัติธรรมค่ะ
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก
(^___^)
ไปดูนะ..พี่ปลอบใจให้แล้ว..
สาธุจ้า.... อยู่นครพนม เมื่อวานเกือบเอาชีวิตไม่รอดเจอพายุฤดูร้อน