การศึกษาไทย


อิสระภาพทางการศึกษาไทย เส้นทางสู่อารยะ

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ หากคนในชาติได้รับการศึกษาที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมแล้ว นอกจากจะทำให้ประเทศชาติพัฒนาไปได้ไม่เท่าที่ควรแล้ว กับเป็นการทำร้ายชาติไปโดยไม่รู้ตัว เช่นในสังคมปัจจุบัน คนเก่งอาจไม่ใช่คนดี คนดีที่ไม่เก่งดี กว่าคนเก่งที่ไม่ดี คนมีการศึกษาสูงระดับปริญญา มีความทรนงตนว่าตัวเป็นผู้รู้ดี ไม่ฟังความให้รอบครอบ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ แล้วยังไม่รู้สำนึก คนส่วนใหญ่ในชาติกับต้องเดือดร้อนเพราะคนเพียงกลุ่มเดียว

                ดังนั้น ผู้ที่มีอาชีพเป็นครู พึงสังวรระวังให้มาก เพราะตัวเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน เด็กจะเชื่อฟังและทำตามอย่าง โดยไม่รู้ว่าพฤติกรรมบางอย่างของครูอาจไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะไม่ควร แต่สำหรับเด็กแล้ว ยังแยกแยะไม่ออก รับรู้และทำตามไปโดยไม่ทันรู้ตัว หากเป็นพฤติกรรมที่ดีที่งามก็โชคดีไป ส่วนพฤติกรรมที่ไม่ถูกไม่ควรเล่า อย่าลืมว่าพฤติกรรมและแนวคิดเหล่านั้นก็ถูกซึมซับไปแล้วโดยไม่ทันระวังตัว

                ตลอดเวลาที่ผ่านมา สังคมไทย ที่เราเห็นว่ามีความเจริญ ยิ่งใหญ่กว่าประเทศเพื่อนบ้านมากมายนั้น มีใครเคยเหลียวมองดูตัวเองบ้าง เด็ก ๆ และเยาวชนของเราในวันนี้เป็นอย่างไร ความคิดอ่านเป็นอย่างไร พฤติกรรมเป็นอย่างไร การให้ความยอมรับนับถือในผู้ใหญ่เป็นอย่างไร ภาษาประจำชาติเป็นอย่างไร ศิลปะวัฒนธรรมอันดีของชาติเป็นอย่างไร

                คนที่จบปริญญาจากเมืองนอกมา ใช้สมองในการพัฒนาชาติบ้านเมืองอย่างไร ที่สำคัญที่สุดสำนึกรับผิดชอบแค่ใน เสียสละทำให้บ้านเมืองมากน้อยแค่ใหน มุ่งสร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติหรือเพื่อประโยชน์ส่วนตน

                สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลง ในขณะที่คนแออัดมากขึ้น การทะเลาะเบาะแว้งมีมากขึ้น ความรุนแรงในสังคมเพิ่มมากขึ้น โดยผู้แสดงพฤติกรรมเหล่านั้นกับ แสดงออกไปไม่รู้ตัว คิดเพียงว่า ตนถูก ผู้อื่นผิด เท่านั้น

                ความทุกข์ทนยากเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ผู้ที่ยังว่ายวนอยู่อย่างนี้แม้นได้รับปริญญา แท้จริงแล้วยังไม่ผ่านการศึกษาด้วยซ้ำ เพราะยังโง่อยู่ร่ำไป โง่ที่ยังมีความ โลภโกรธหลง วนอยู่ในอำนาจกิเลส ตัณหาแล้วจะนับว่าเป็นผู้รู้ ผู้มีการศึกษาได้อย่างไร

                เราเห็นความเจริญของต่างชาติโดยเฉพาะชาติตะวันตก ยอมยกย่องว่าเป็นยอดอารยะชน  เห็นดีเห็นงามตามอย่างไปเสียทุกสิ่ง จริง ๆแล้ว เราไม่รู้จริง ว่าพวกเขาเหล่านั้นเจริญขึ้นมาได้อย่างไร จากทางใหน เจริญจริงหรือไม่เราวัดกันด้วยอะไร ด้านวัตถุหรือด้านจิตวิญญาณ 

                มีใครเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า ความเป็นอารยะชนเป็นอย่างไร วิถีชีวิตของอารยะชนเป็นแบบใหน เป็นแบบเอื้ออาทร หรือแก่งแย่งแข่งขันเบียดเบียนกัน ทั้งกาย วาจา ใจ

หันกับมามองที่วงการศึกษาบ้านเรา ชีวิตเริ่มต้นต้งแต่ในครรถ์ สมัยปู่ย่าตายาย เรามีวัฒนธรรมประเพณีตั้งแต่การแต่งงาน การดูแลครรภ์มารดา การเลี้ยงดูเด็ก การให้การอบรมศึกษา ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวาระหลังวาระสุดท้าย  เป็นอย่างไร มีกี่คนที่ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาอย่างป็นระบบแบบต่างชาติบ้างนี่คือสิ่งที่ทำให้เราล้าหลังคนอื่นเขา

                จริง ๆ แล้วสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นของดีของเรา เรากับมองไม่เห็น เที่ยวมองเห็นความดีของผู้อื่นแล้วลอกเรียนแบบเอามาใช้แบบสำเร็จรูป โดยไม่คิดเลยว่ามันมีความแตกต่างกันทั้งในแง่วัฒนธรรมประเพณี สภาพสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเราโดนสิ้นเชิง

                เรานำของ ๆ เขามาใช้โดยไม่คำถึงถึงความผิดฝาผิดต้ว นำมาใช้เพราะคิดเพียงว่า ของ ๆเขาทำไว้ดีแล้ว จะคิดทำใหม่ไปทำไมเสียว่า เปลืองสมอง เปลืองกำลังความคิด การไม่ใช้สมองคิดกลับทำให้เราโง่ ไปกี่ชาติ ตามก้นฝรั่งเขาไปกี่ร้อยปี

                การศึกษาที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขอให้นักการศึกษาบ้านเรา จงคิดให้หนักไตร่ตรองให้รอบครอบ สร้างวัฒนธรรมการศึกษาที่แท้จริงให้บังเกิดแก่สังคมเมืองไทย การศึกษาต้องทำให้คนที่ได้รับการศึกษาแล้วประสพความสำเร็จด้านอิสสระภาพ ถึงซึ่งความเป็นภารดรภาพ เห็นในคุณค่าของผู้อื่นเท่า ๆ กับเห็นคุณค่าของตนเอง มีเสรีภาพในสิทธิ และหน้าที่ของตน เกิ้อกูลประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน อย่าวัดคนด้วยวัตถุ จงวัดที่คุณธรรมตวามดี สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราต้องศึกษากันอย่างแท้จริง

 

หมายเลขบันทึก: 350439เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2010 22:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะคุณขอทานน้อย

แบบนี้แสดงว่าผอม ไม่อ้วนแน่เลย

เพราะทานน้อย ๆ ทานไม่มาก ยังไงก็ไม่อ้วนน่ะค่ะ

 

บันทึกนี้เขียนต้นจนจบสวยค่ะ

แต่ความเป็นจริงของบ้านเมืองไม่สวยส่ะแล้ว

ปูทะเลย์มหาวิชชาลัยคือทางออก

สวัสดีค่ะ

* ตามมาจากบันทึกของ น้องกอค่ะ

* อ่านทุกคำ ทุกประโยค ต้องบอกว่า เห็นด้วยทุกกรณี และคงไม่มีคอมเม้นท์ใดๆ อีก เพราะ ชัดเจนถูกต้องมากๆ ค่ะ

* ประทับใจบทสรุปนี้

 

 อย่าวัดคนด้วยวัตถุ จงวัดที่คุณธรรมความดี

 

  

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ไปเยี่ยม

ความเป็นจริงในสังคมไทย ไม่เพียงแต่เรื่องการศึกษาที่พัฒนาอย่างไร้ราก คนเราไม่รู้ที่ที่ตัวเองเป็นมา ก็ไม่รู้ที่จะไปว่าจะไปทางไหนดี ตอนนี้จึงเอาแต่ตามกระแสโลกกันไป ทั้งวัตถุนิยมและแข่งขันแบบต้องการเหนือกว่าผู้อื่นนะคะ

แต่มองดูดีๆ ค้นหา ก็ยังพอพบคุณครูที่พยายามสวนกระแสซึ่งมีอยู่ไม่น้อย ต้องมาช่วยกันให้กำลังใจคนทำดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท