ทั้งสามท่านนั้นได้สะท้อนให้เห็นหัวใจของเขาที่น่าสนใจหลายอย่าง อย่างหนึ่ง คือ การมีจิตใจเมตตาที่จะรับฟังสารทุกข์ของคนเล็กคนน้อย
เมื่อผู้เขียนฟังแล้วทำให้นึกถึง เนื้อหาของการเจรจาทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เห็นใครพูดถึงทุกข์ของชาวบ้านเลย มีแต่พูดถึงประชาธิปไตย พูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ พูดถึงว่าจะยุบไม่ยุบสภา ฯลฯ เป็นต้น ประหนึ่งว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าได้ทำแล้วมันจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ประชาชนหรือประเทศชาติ ฉะนั้น
ข้อเท็จจริงจากคำบอกเล่าของสุภาพสตรีท่านนี้ ยังสอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการ ที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันว่า
" ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนกลุ่มนี้ ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกกดขี่หรือใช้ความไม่เป็นธรรมจากระบบอำมาตย์ ก็คือ ข้าราชการ หรือนักการเมือง ซึ่งเดือดร้อนจริงๆ แต่ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งนำมาเชื่อมโยง เพื่อเรียกร้องประโยชน์ให้คนเพียงคนเดียว ด้วยการอาศัยความเดือนร้อนของประชาชนมาบังหน้า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" ศ.พิเศษ ศรีศักร กล่าว
และ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ก็คือเรื่องของการกดขี่ข่มเหงประชาชนของระบบราชการ หากแก้ปัญหาไม่ได้ เรื่องการชุมนุมโดยมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งนำมาเชื่อมโยงกับการเมืองเหล่านี้ ก็จะไม่หมดสิ้น รวมทั้งการใช้ระบบประชานิยมทำให้ประชาชนเคยตัว ชอบความสบาย เมื่อรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี แจกเงินคนก็ชอบ ไม่มีใครหรอกที่ไม่ชอบ แม้แต่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เองก็ยังทำ
"รัฐบาลต้องเลิกสร้างนิสัยประชานิยมเหล่านี้ให้ประชาชน ต้องสร้างให้เขามีอาชีพที่สุจริต และอยู่อย่างพอเพียง อีกทั้งต้องยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักความรู้รักสามัคคี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาให้ประชาชนเรียนรู้อย่างจริงจัง เมื่อเขาท้องอิ่ม รัฐไม่ข่มเหง มีความรู้เรื่องการใช้ชีวิตพอเพียง ชุมชนสามัคคี ก็จะไม่มีใครใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมืองได้อีกในอนาคต" ศ.พิเศษ ศรีศักร กล่าว
จริง ๆแล้ว ในสังคมของเราในช่วงนี้ก็มีคนหลายกลุ่ม ได้เสนอทางออกไว้ในลักษณะที่ว่า ให้มองข้ามพ้นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หรือการยุบสภา แต่ให้มองที่ทุกข์ของสังคม อันได้แก่ ความไม่เป็นธรรม โดยให้ระดมทุกภาคส่วนมาช่วยกันหาแนวทางว่าจะสามารถข้ามพ้นความไม่เป็นธรรมนั้นได้อย่างไร
ตัวอย่างเช่น
จริง ๆแล้ว การชุมนุมของคนเสื้อแดงสามารถสร้างแรงกดดันแก่รัฐบาลได้ก็เพราะคนที่เข้าร่วมชุมนุมมีจำนวนมาก คนจำนวนมากทำให้การจราจรเป็นอัมพาตได้ โดยที่คนเหล่านั้นไม่ต้องแสดงฤทธิ์เดชอะไร
ฟังจากคำบอกเล่าของผู้ที่ไปรับฟังเสียงของคนเล็กคนน้อยที่มาร่วมชุมนุม เราก็จะแน่ใจได้ว่าผู้เข้าร่วมชุมนุม กับแกนนำในการชุมนุม มีผลประโยชน์ มีวัตถุประสงค์ และ มีอุดมการณ์ในการเข้ามาชุมนุมต่างกัน
ไม่เชื่อลองฟังดูซี
การมีผลประโยชน์ มีวัตถุประสงค์ และ มีอุดมการณ์ ต่างกันแสดงให้เห็นถึงสัมพันธภาพระหว่างแกนนำ กับผู้ร่วมชุมนุมที่เปราะบาง
แท้จริงแล้วเขาอยากนอนมากว่า เขาอยากปลอดภัยมากกว่า เขาอยากพ้นทุกที่เบียดเบียนบีฑาเขามากว่า เขาคงไม่ได้รักใครบางคนจนถึงขนาดที่จะสละชีวิตให้ได้หร็อก ดังปรากฏว่า มีบรรดาคนเสื้อแดงบางจังหวัดเมื่อเห็นว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นในวันที่ 10 ก็พากันกลับบ้านทั้งจังหวัด
ตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่รั้งให้ผู้ร่วมชุมนุมอยู่ในการชุมนุมอาจเป็นค่าตอบแทนที่เป็นเงิน บวกกับความหวังลม ๆแล้ง ๆที่พวกแกนนำวาดฝันให้กับเขา สำทับด้วยการพูดโฆษณาชวนเชื่อให้เกลียดชังรัฐบาลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ในกรณีเช่นนี้ หากรัฐบาลมีแก่ใจหันไปรับฟังทุกข์ของเขา มีข้อเสนอร่วมกันกับเขาและฝ่ายอื่น ๆว่าปัญหาของเขาจะสามารถกำจัดปัดเป่าไปได้อย่างไร คาดว่าจำนวนผู้ชุมนุมน่าจะลดลง
หากเป็นอย่างที่ว่านี้ แกนนำการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะมีน้ำยาอะไร
แต่รัฐบาลมีหัวใจเป็นเด็ก ๆพอ ๆกับพวกแกนนำ มีพฤติกรรมตอแยกันไปตอแยกันมา อันเป็นการยั่วโทสะให้ทวีมากยิ่งขึ้น พอตกเป็นทาสโทสะ ขาดสติก็ลุกขึ้มาใช้กำลังกันที่หนึ่ง แล้วก็แหย่กันไปแหย่กันมาต่อไปอีก
ถ้าเป็นเช่นนี้การวิวาทนี้เห็นทีจะหาทางจบอย่างสันติได้ยาก
สุภาพสตรีในวงสนทนาที่ร่วมสนทนาในรายการโทรทัศน์ TPBS ท่านนี้ได้กล่าวไว้อย่างน่าชื่นชมอีกครั้งว่า
เท่าที่อ่านเป็นมุมมองหนึ่งที่มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดในทิศทางเดียวกันที่สังคมกำลังมองดูอยู่
จะต่างกันก็ข้อความนี้
" ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนกลุ่มนี้ ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกกดขี่หรือใช้ความไม่เป็นธรรมจากระบบอำมาตย์ ก็คือ ข้าราชการ หรือนักการเมือง ซึ่งเดือดร้อนจริงๆ แต่ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งนำมาเชื่อมโยง เพื่อเรียกร้องประโยชน์ให้คนเพียงคนเดียว ด้วยการอาศัยความเดือนร้อนของประชาชนมาบังหน้า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" ศ.พิเศษ ศรีศักร กล่าว
ส่วนใหญ่แล้วเสื้อแดงที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดจากการชักจูงของหัวคะแนนและ ส.ส. ของพรรค โดยมีผลตอบแทนให้รายหัวละ 2000 บาทต่อ 1 รอบ (2-3 วัน)
การชุมนุมครั้งนี้ถ้าไม่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำการชุมนุมได้เพราะทุกอย่างเอาเงินเป็นตั้วตั้ง
การที่รัฐบาลลดตัวไปเจรจากับแกนนำเป็นเพียงลดการกดดันช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
จากข้อเขียนของผู้เขียนที่กล่าวว่า
เมื่อผู้เขียนฟังแล้วทำให้นึกถึง เนื้อหาของการเจรจาทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เห็นใครพูดถึงทุกข์ของชาวบ้านเลย มีแต่พูดถึงประชาธิปไตย พูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ พูดถึงว่าจะยุบไม่ยุบสภา ฯลฯ เป็นต้น ประหนึ่งว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าได้ทำแล้วมันจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ประชาชนหรือประเทศชาติ ฉะนั้น
ขอทำความเข้าใจว่า การที่แกนนำเสื้อแดงพาคนมาชุมนุมมีวัตถุประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาล และเป้าหมายต่อไปคือเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มล้างสถาบันตามที่อดีตนายกที่หนีคุกต้องการ
คนที่มาชุมนุมอย่างยืดเยื้อเพราะเขามีเงินให้ มีอาหารเลี้ยง ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ
คุณลองนึกดูว่าทั่วประเทศชมการถ่ายทอดการเจรจาเพื่อยุติศึกระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับท่านนายก แล้วทั้งสองฝ่ายพูดถึงคนจนว่าชาวนาชาวไร่ถูดกดขี่ ต่อไปนี้จะเลิกกดขี่ ขอให้สลายการชุมนุมไป จะเป็นเรื่องขำตาย ปัญหาเกิดจากเรื่องหนึ่งแต่กลับไปพูดอีกเรื่องหนึ่งในสถานะการณ์ที่คับขัน
การพูดเรื่องชาวนาถูกกดขี่เป็นวาทกรรมของพรรคคอมมูนิสต์เขา
และเป็นเรื่องที่ถูกกดขี่ระหว่างชาวนากับนายทุน มิใช่ชาวนากับรัฐบาลคะ
เท่าที่อ่านเป็นมุมมองหนึ่งที่มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดในทิศทางเดียวกันที่สังคมกำลังมองดูอยู่
จะต่างกันก็ข้อความนี้
" ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนกลุ่มนี้ ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกกดขี่หรือใช้ความไม่เป็นธรรมจากระบบอำมาตย์ ก็คือ ข้าราชการ หรือนักการเมือง ซึ่งเดือดร้อนจริงๆ แต่ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งนำมาเชื่อมโยง เพื่อเรียกร้องประโยชน์ให้คนเพียงคนเดียว ด้วยการอาศัยความเดือนร้อนของประชาชนมาบังหน้า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" ศ.พิเศษ ศรีศักร กล่าว
ส่วนใหญ่แล้วเสื้อแดงที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดจากการชักจูงของหัวคะแนนและ ส.ส. ของพรรค โดยมีผลตอบแทนให้รายหัวละ 2000 บาทต่อ 1 รอบ (2-3 วัน)
การชุมนุมครั้งนี้ถ้าไม่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำการชุมนุมได้เพราะทุกอย่างเอาเงินเป็นตั้วตั้ง
การที่รัฐบาลลดตัวไปเจรจากับแกนนำเป็นเพียงลดการกดดันช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
จากข้อเขียนของผู้เขียนที่กล่าวว่า
เมื่อผู้เขียนฟังแล้วทำให้นึกถึง เนื้อหาของการเจรจาทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่เห็นใครพูดถึงทุกข์ของชาวบ้านเลย มีแต่พูดถึงประชาธิปไตย พูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ พูดถึงว่าจะยุบไม่ยุบสภา ฯลฯ เป็นต้น ประหนึ่งว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าได้ทำแล้วมันจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ประชาชนหรือประเทศชาติ ฉะนั้น
ขอทำความเข้าใจว่า การที่แกนนำเสื้อแดงพาคนมาชุมนุมมีวัตถุประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาล และเป้าหมายต่อไปคือเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มล้างสถาบันตามที่อดีตนายกที่หนีคุกต้องการ
คนที่มาชุมนุมอย่างยืดเยื้อเพราะเขามีเงินให้ มีอาหารเลี้ยง ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ
คุณลองนึกดูว่าทั่วประเทศชมการถ่ายทอดการเจรจาเพื่อยุติศึกระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับท่านนายก แล้วทั้งสองฝ่ายพูดถึงคนจนว่าชาวนาชาวไร่ถูดกดขี่ ต่อไปนี้จะเลิกกดขี่ ขอให้สลายการชุมนุมไป จะเป็นเรื่องขำตาย ปัญหาเกิดจากเรื่องหนึ่งแต่กลับไปพูดอีกเรื่องหนึ่งในสถานะการณ์ที่คับขัน
การพูดเรื่องชาวนาถูกกดขี่เป็นวาทกรรมของพรรคคอมมูนิสต์เขา
และเป็นเรื่องที่ถูกกดขี่ระหว่างชาวนากับนายทุน มิใช่ชาวนากับรัฐบาลคะ
สวัสดีครับคุณรพี ป้อมเพชร
paaoobtong
17/04/53
14:47