6 โมงเย็นวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 กำลังเก็บกวาดใบไม้หน้าบ้าน เห็นควันดำเหนือยอดไม้แฟลตฝั่งตรงข้าม ถลาขึ้นไปบนบ้านคว้ากล้องถ่ายรูปวิ่งไปที่แฟลต
ไฟไหม้ๆ ช่วยด้วย ไฟ ไหม้
กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นด้านหลังบ้านพัก
ชั่วเวลาไม่ถึง สิบนาทีเปลวไฟโหมมาถึงริมรั้ว ห่างจากหลังคาบ้านพักหลังนึงเพียงนิดเดียว
คนที่แฟลตยังไม่ไม่มีใครรู้ตัวเลยเพียงสิบนาทีเท่านั้นไฟโหมมาถึงกำแพงรั้ว ต่างคนต่างโทรหารถดับเพลิงพื้นที่ในเขตรับผิดชอบไม่มีใครรับสาย โทรข้ามเขตมีคนรับปลายสายบอกให้ฉีดน้ำเลี้ยงไว้ก่อน ผ่านไปอีกกว่าสิบนาทีรถดับเพลิงยังไม่มาสักคัน น้องชายคนนึงมีวิทยุสมัครเล่น จึงวอขอความช่วยเหลือ รถดับเพลิงคันแรกหาทางเข้าหมู่บ้านไม่ถูกต้องส่งม้าเร็วห้อมอร์เตอร์ไซต์ออกไปรับปากทาง
ทุกอย่างโกลาหลไปหมด เพราะบ้านสามหลังติดริมกำแพงเจ้าของบ้านไม่มีใครอยู่เลย...บ้านหลังที่อยู่ในรูป มีรถจอดใต้ถุนบ้าน...ทุกคนต่างโทรหา...เจ้าของบ้านอยู่กรุงเทพ...เหตุเกิดห่างบ้านตัวเองไปสัก 500 เมตร
ไฟลามขึ้นมาจากพื้นที่ว่างด้านหลังลมแรงมาก โชคดีที่กำแพงรั้วหนาและสูงเกือบสี่เมตร และริมรั้วมีต้นมะขามเทศเป็นดง ลูกไฟจึงไม่ลอยข้ามมา ที่ยังมีสติดีอาจเป็นเพราะไม่ใช่บ้านของตนเองทำทุกอย่างตามสัญชาติญาณ ถ่ายรูปด้วยวิ่งหาสายยางฉีดน้ำไปด้วย ดีที่เป็นเวลา 6 โมงเย็นคนกว่าครึ่งกลับจากทำงานแล้ว
ยี่สิบกว่านาทีรถดับเพลิงจากท่าศาลา และค่ายเอราวัณมาถึงที่เกิดเหตุ หลังไฟลุกไหม้พื้นที่ว่างด้านหลังกำแพงกินอณาบริเวณกว้าง
นายก อบต.ตกลงจากกำแพงสูงกว่า 4 เมตรร่วงลงไปด้านนอกขณะกำลังฉีดน้ำไหปลาร้าหัก ต้องใช้บันไดปีนลงไปช่วยขึ้นมาจากกองเพลิง ส่วนคนอื่นๆก็สำลักควันไฟตามๆกัน
ปัญหาสำคัญที่พบคือจุดต่อหัวฉีดน้ำดับเพลิงมีไม่เพียงพอและปริมาณน้ำมีน้อย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างไม่มีชุดหรืออุปกรณ์ช่วยใดๆมีแต่ตัวเปล่าๆ...น้องๆทหารเกณฑ์มีแต่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นโชคดีสุดๆของทุกคนบริเวณนั้นที่ลูกไฟไม่ลอยข้ามกำแพง ยังพูดกันว่าดีมากที่เกิดตอนที่พวกเราอยู่กันเยอะๆ มีคนทุกเพศทุกวัยลูกเด็กเล็กแดง...รูปที่เห็นไม่ได้เสี้ยวนึงของเหตุการณ์จริงทั้งควันทั้งลมทำให้หายใจไม่ออก คลื่นความร้อน ทั้งเสียงปะทุ น่ากลัวมากๆ นาทีนั้น ไม่มีใครขนย้ายอะไรทันทำได้แค่ถอยรถออกมาให้พ้นบริเวณ บางคนถือโกศของแม่ออกมา หลายคนคว้าหมาและแมวออกมาให้พ้นจากการสำลักควัน
รถดับเพลิงจากทุกหน่วยงาน กว่าสิบคันมาช่วยดับเพลิงบริเวณด้านหลังบ้านพัก จาก 6 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่มกว่าเพลิงจึงสงบลง แต่ตอนกลางดึกก็มีการปะทุขึ้นมาใหม่...รถดับเพลิงต้องเวียนมาดับอีกรอบ ตอนเช้ามีแนวหน้าออกไปสำรวจบริเวณทุ่งกว้างหลายสิบไร่ งูเหลือมตัวเท่าต้นขาผู้ชายล่ำๆ ตาย 2 ตัวใกล้ๆ หนองบึง เต่า กระรอกตายอีกจำนวนมาก ระบบนิเวศน์โดยรอบเสียหายยับเยิน
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นน้ำใจคนในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง...ทุกคนต่างช่วยกันคนละไม้ละมืออย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้ไม่ใช่บ้านตัวเองจะสำลักควันไฟอย่างไรก็ช่วยเต็มที่ แสดงว่าคนไทยยังไม่แล้งน้ำใจ...ถึงเวลาคับขันต่างคนต่างช่วยเหลือกันและกัน...ขอบคุณที่คนไทยทุกคนที่ยังรักกัน….
**********************
ติดตามภาพเหตุการณ์ผ่านยูทูปได้ที่นี่ ค่ะ
หรือคลิกที่รูปภาพได้เลยค่ะ |
สงสารท่านนายก อบต.ที่ตกลงจากกำแพงสูงกว่า 4 เมตรร่วงลงไปด้านนอกขณะกำลังฉีดน้ำ ไหปลาร้าหัก ต้องใช้บันไดปีนลงไปช่วยขึ้นมาจากกองเพลิง ส่วนคนอื่นๆก็สำลักควันไฟตามๆกัน ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
สวัสดี ครับ คุณ naree suwan
ผมอ่านแล้ว..รู้สึกถึงน้ำใจที่เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน จริง ๆ ด้วย ครับ
เหตุการณ์บางอย่าง เราก็ได้เห็นธาตุแท้ของจิตใจคนที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ด้วย
....
ชื่นชม กับบันทึกที่คุณเขียนขึ้นมา มากนะครับ
....
ถ่ายภาพใกล้ ๆ อย่างนี้ ต้องระวังตัวเป็นพิเศษด้วย นะครับ
ด้วยความเป็นห่วง ครับ
สวัสดีครับ
กำลังจะเข้าหน้าฝน ก็ไม่วายเสี่ยงภัยไฟไหม้
โชคดีที่ช่วยกันได้ทันนะครับ
บ้านผมเองก็เคยประสบเช่นนี้ ไฟฟ้าลัดวงจร โชคดีหน่อยยังไม่วอดวายไปทั้งหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นพ้องด้วยกันก็คือ "น้ำใจ" ของผู้คนที่ต่างก็เทใจช่วยกันอย่างไม่หวั่นหวาด...เป็นน้ำใจ ความรัก มิตรภาพที่มนุษย์มีต่อเพื่อนมนุษย์
และที่สำคัญ สิ่งหนึ่งที่สะท้อนใจไม่ต่างกันก็คือ ระบบนิเวศน์โดยรอบเสียหายยับเยิน มนุษย์ยังมีโอกาสได้ดิ้นรนต่อสู้กับชะตากรรมต่างๆ ได้พอสมควร แต่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่หนีไม่ทัน ก็ชวนให้สงสารไม่ได้
....
เห็นภาพแล้วก็สลด เพราะเหตุการณ์แบบนี้พึ่งเคยเกิดขึ้นกับโรงเรียนเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่รู้สึกได้ถึง "น้ำใจ" ที่ทุกคนมีให้ ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา ต่างคนต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ นี่แหละ "คนไทย" ตัวจริง
ที่น่าสงสารก็แต่พวกสัตว์เล็กๆ ไม่รู้จะหนีอย่างไรดี คืนนี้จะแผ่เมตตาให้แล้วกัน
อ่านแล้วเสียวแทนท่านนายก แถวๆๆบ้านพี่มีเรื่องให้ลุ้นบ่อยๆๆไม่น้ำท่วมก็ไฟไหม้นะครับ เฮ้อ...
โชคดีที่ช่วยกันได้ทัน
มาชมภาพและได้ลุ้นไปด้วยเลยค่ะครูพี่ ... เคยได้เข้าร่วมเหตุการณ์ไฟไหม้ก็เข้าใจความรู้สึกและตอนนี้ล่ะที่เราได้เห็นน้ำใจคนไทย บ้านใกล้เรือนเคียง
โชคดีที่ปลอดภัย จับภาพได้ละเอียดมากๆ เลยนะคะพี่
มองเห็นถึงความสามัคคีของช่วยเหลือกันของคนไทยในชุมชนใกล้เคียง แต่น่าเสียดายหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ขาดการซักซ้อมการดับเพลิงการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ยิ่งปีนี้เป็นปีที่แห้งแล้งผิดปกติ ที่ผ่านมาคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว คงเป็นบทเรียนที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต้องทบทวนฝึกการปฏิการดับเพลิงให้พร้อม ทั้งคน ทั้งอุปกรณ์ แหล่งน้ำที่สามารถใช้ได้
น้องนารีค่ะ สุดยอดเลยมีสติเยี่ยม บักทึกทั้งภาพนิ่งภาพเลื่อน แต่ที่สำคัญคือรายงานเหตุการณ์ได้ครบถ้วน คราวนี้ถือว่าเรื่องจริงที่เป็นการซ้อมความร่วมมือร่วมใจของคนไทยค่ะ
พี่อ๊อด สวัสดีครับ
โห! เห็นพี่อ๊อดในบท "นักข่าวพลเมือง" แล้วทึ่งเลย บันทึกนี้ดีมากๆ ครับ ทำให้เห็นน้ำใจคนไทยช่วยเหลือกันในยามประสบภัย
นำเรื่องมาฝาก "แฟนพันธุ์แท้ฟ้าผ่า" ด้วยครับ
223 : บทความ - ภูเขาไฟระเบิด ทำไมบางทีมีฟ้าผ่า?
โชคดีที่ปลอดภัยค่ะ
..ทุกคนต่างช่วยกันคนละไม้ละมืออย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้ไม่ใช่บ้านตัวเองจะ สำลักควันไฟอย่างไรก็ช่วยเต็มที่ แสดงว่าคนไทยยังไม่แล้งน้ำใจ..
เป็นบทเรียนที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต้องทบทวนฝึกการปฏิการดับเพลิงให้พร้อม ทั้งคน ทั้งอุปกรณ์.....
ใช่เลยค่ะอาจารย์
คนในชุมชนร่วมมือและช่วยเหลือกันดีเยี่ยมค่ะ
ครูพรรณา...ขอบคุณ และสุขกายสุขใจนะคะ
"นักข่าวพลเมือง"
-------
ยามวิกฤติ เราจะเห็นน้ำใจคนเสมอค่ะ ครูพี่อ๊อด งานยุ่งไหมคะเปิดเทอมแล้ว
พี่ๆน้องในชุมชนล้วนมีน้ำใจนะคะ ไม่ว่าที่ไหน หากแต่เรื่องของมุมคิดต้องใช้เวลา ค่ะ
เป็นช่วงเวลาที่จะค่อยๆซึม ส่วนวิธีไหน ยังคิดไม่ออกนอกจากสื่อค่ะ ครูพี่ ขอบคุณค่ะ
อ้าว ไฟเกือบไหม้บ้าน ผมคิดว่าเป็นข่าวไฟไหม้ตึก ZEN ที่ กทม.ซะอีก
โชคดีนะครับที่ขวัญยังอยู่ดี แล้วก็รั้วบ้านสูงลิบ ไม่งั้นคงได้สร้างบ้านพักใหม่
...
ถ้าการเมืองบ้านเรามีรั้วสูงๆ แบบ รภ.เทพสตรีก็ดี นิ
"โจรปล้นสิบครั้งดีกว่าไฟไหม้ครั้งเดียว" เคยได้ยินกันมาตั้งแต่จำความได้ และหลายครั้งก็เห็นจากข่าวว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
นายก อบต. ท่านนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ?? และท่านพี่ไม่สำลักควันไฟนะ?? เป็นห่วงทุกท่านที่เผชิญกับเหตุการณ์นี้ค่ะ เหตุการณ์ชุลมุนแบบนี้ต้องมี "สติ" ให้มากที่สุดเนอะ
ไฟเกือบไหม้บ้าน ก็ระทึกขวัญแทบแย่
แล้วไฟไหม้เมืองกรุงที่ผ่านมาไม่ต้องพูดเลยว่าคนที่เป็นเหยื่อจะใจสลายแค่ไหนที่ต้องหมดเนื้อหมดตัวไปในทันที
น้องต้อม เนปาลีคนสวยสบายดีไหม
สำหรับพี่สบายกายแต่ไม่สบายใจ
รู้สึกเศร้าและหดหู่จริงๆค่ะ
กอด..ด..ด ^^ สบายบ้าง ไม่สบายบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ตามอัตภาพค่ะ.. ร่างกายก็พองเอาๆๆ ใจก็เหี่ยวลงๆๆ กับหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องระดับชาติและเรื่องเล็กๆ ของตัวเอง
ต้อมขึ้นบันทึกใหม่แล้ว.. ดอกไม้สวยๆ ช่างไม่เหมาะกับต้อมเลย อย่านะ..อย่าคิดอย่างประโยคข้างหน้า
น้องต้อมกลิ่นควันไฟยังลอยวนอยู่ในบรรยากาศ
พี่สาวพี่เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ที่สยามซอย 4
ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่สร้างมากว่า 20 ปี
หายวับไปในกองเพลิง มีสภาพหมดตัวในชั่วพริบตา
งานนี้ จะฟ้องศาลโลกเรียกค่าเสียหายใครบ้างได้ไหม
บ่นๆๆๆอยู่พีนารีก็มา 4-5 มิย ไปสามชุกครับ เย้ๆๆๆๆๆๆๆ
ตกลงมันไหม้ ที่บ้านไหน? ลูกอ๊อด
ไม่บอกสถานที่เกิดเหตุ เลยไม่รู้ว่าบ้านจังหวัดไหน?
.
สวัสดีค่ะคุณชายป็อก อืมชื่อคุ้นๆ
เหตุไฟไหม้นี้เกิดที่เมืองลิงค่ะ
เกิดตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภา 2553
ไม่มีทรัพย์สินเสียหาย
แต่มีคนเจ็บและสภาพแวดล้อมหนองบึงถูกทำลาย
ข้อดีจากเหตุการณ์นี้คือคนในละแวกใกล้เคียงรักกันมากขึ้น
จากเดิมแค่เคยเห็นหน้ากัน มาเป็นเจอหน้ายิ้มให้และทักทาย
แต่ไฟไหม้กรุงเทพ สร้างบาดแผลร้าวลึก
และทำให้ช่องว่างระหว่างคนในประเทศนี้ห่างกันมากยิ่งขึ้น
ทำให้รู้สึกเหมือนเราไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน เศร้าค่ะ
บ้านผมถูกไฟไหม้ไปนานแล้วครับ...
สติดีเยี่ยม ยังคว้ากล้องติดมือไปด้วย
.
นิสิตใหม่ Logistics Management วิทยาเขตศรีราชา
http://www.free-webboard.com/travel.php?nm=somchaii&qid=44
.
ขอแสดงความเสียใจกลับคุณขอทานน้อยนะคะที่บ้านถูกไฟไหม้
งานนี้นึกถึงใจเขาใจเราทีเดียวค่ะ
เพราะคนในครอบครัว ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายจากไฟไหม้กรุงเทพเช่นกันค่ะ
ท่านพี่คุณชายป็อก สบายดีหรือคะ
อยากได้ลิงไปเลี้ยงสักฝูงไหมคะ
แหม โหมดถ่ายภาพมันฝังอยู่ไหนหัวค่ะ
พร้อมถ่ายได้ทุกที่ทุกเวลา
ไม่งั้นเสียชื่อ KU Edtechno 6 หมดสิคะ
-----------------
คิดถึงเกษตร คิดถึง อ.ป๋า คิดถึงไอ้จุก ไอ้ เปีย ไอ้แกละ นะคะ
ครูพี่อ๊อดค่ะ ช่วงนี้โจนาธานอ๊อด ไม่มีชีพจรลงเท้าหรือคะ ;) มาบอกว่า ดีใจที่พี่ชอบภาพหมวกเมฆ ณ บางกอก เมื่อวานเห็นข่าว คนบางกอกได้เห็นอีกแล้ว .. นิมิตหมายดีๆ ไหมคะนี่ ยังหวังๆ แม้จะลางเลือน ;) … สุขสันต์วันหยุดนี้นะคะพี่
น้องปู
แหมมาเร็วทันใจ พี่ก็ยังเดินทางเสมอๆ
และยังเก็บความสุขที่ได้รับไว้ในกล่องความสุข
รอจังหวะและโอกาสดีๆ เปิดกล่องความสุขออกมาแบ่งปันผู้คน
ท้องฟ้าวันนั้นที่ลุงกี้ร์ถ่ายพี่ก็ถ่ายแต่เป็นเวลาหลังจากเมฆสีรุ้งจางไปแล้ว
เพราะรถตู้เลี้ยวไปทางอนุสาวรีย์ แต่ขอติดไว้ก่อน
ถ้าพี่เขียนบันทึกเรื่องนี้เมื่อไหร่จะขอลิ้งก์ไปที่บันทึกน้องปูนะคะ
-----------------
อยากให้คนไทยทุกคนมีความสุขค่ะ
ไอ้จุก ไอ้เปีย ไอ้แกละ คือคำสอนของป๋า
ทั้งวิชาการ จิตวิญญาณ และความรัก
คิดถึงป๋า ก็ถ่ายทอดความรู้ "แบบครู" เพื่อเป็นกุศลแก่ป๋า
ตามไปดูซิ ว่าจำใครได้บ้าง?
http://web.src.ku.ac.th/somchai/07%20TECHNO-NONTRI/Ed-Tech/ED-TECH-05.htm
.
สวัสดีค่ะ
น้ำใจคนไทยส่วนใหม่ มีให้กันเสมอนะคะ ดีจังค่ะ เรื่องใจหายใจคว่ำ ยังได้ชมภาพไฟไหม้ ที่เป็นการเตือน ต้องมีสติและมีน้ำใจ ฯ กับผู้ที่มาแวะอ่านได้อย่างดีด้วย ขอบคุณนะคะ
ท่านพี่คุณชายป็อก
เมื่อไหร่จะมีการจัดงานรุ่น 5-6 บ้างละคะ
อยากรู้ว่าแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนแล้ว 555
หมู่นี้ฟังแต่ข่าวไฟไหม้ค่ะ เจ็บปวดที่สุดก็ไหม้ห้องสมุด ทั้งมารวย ทั้งมหิดลวิทยานุสรณ์ นี่แหละค่ะ จนหลายๆ คนตีโยงไปเรื่องระบบการศึกษาของประเทศไปแล้ว โอ้ยไม่เอา เครียดๆๆๆ สบายดีนะคะ เลี้ยงลูกลิงเหนื่อยไหมค่ะ
จัดงานรุ่น 5-6 คาดว่า หลังจาก "พี่ใหญ่ นายพล" เกษียณอายุ
ก็จะมีเวลาว่าง มาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
แล้วจะประชุมเตรียมงาน แจ้งข่าวล่วงหน้านานๆ
ท่านพี่คุณชายป็อกคะ
ตามไปดูรูปเก่าๆแล้วค่ะ
ไม่อยากจะนึกว่าตอนนี้แต่ละคนจะเป็นอย่างไรบ้าง
เทคโน KU 5-6 ความสัมพันธ์ยังแน่นเหนียวเสมอ
เราน่าจะรวมพลไปกราบอาจารย์แม่บ้างนะคะ
คุณเหมียวมอมแมม
เขียนบันทึกเรื่องเมฆสีรู้งให้ตามคำขอแล้วนะคะ
ตามไปอ่านดูนะคะว่า มองด้วยตาเปล่ากับมองผ่านเลนส์
จะสวยงามอลังการแค่ไหน