จากเป้าหมายของกรมอนามัย ในการจัดให้มีชมรมผู้สูงอายุที่มีกิจกรรมด้านการส่งเสริมทันตสุขภาพ จังหวัดละ 1 ชมรม ในปี พ.ศ 2553 ศูนย์อนามัยที่ 8 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และ อุทัยธานี ได้คัดเลือกชมรมผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นชมรมต้นแบบการส่งเสริมทันตสุขภาพ จำนวน 4 ชมรมคือ
ในการนี้ศูนย์อนามัยที่ 8 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ออกเยี่ยมเพื่อเป็นการกระตุ้นและให้ข้อเสนอแนะกิจกรรมของชมรมดังกล่าว และจะได้มีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่าง 4 ชมรมในโอกาสต่อไป
ชมรมผู้สูงอายุตำบลหนองฉาง
วันที่ 21 เม.ย. 53 ได้ไปเยี่ยมชมรมผู้สูงอายุที่ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี พวกเราไปถึงช้าหน่อย ผู้สูงอายุจึงได้จัดกิจกรรมการแบ่งกลุ่มให้ทันตสุขศึกษาไปก่อน มีวิทยากรคือเจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุขในพื้นที่มาช่วยกัน โดยแบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มดอกบานไม่รู้โรย , ดอกมะลิ , ดอกบานชื่น , ดอกพุทธรักษา และดอกโสน
ในระหว่างการให้สุขศึกษาก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์ผู้สูงอายุบางส่วนพบว่า สมาชิกของชมรมส่วนมากเป็นข้าราชการที่ปลดเกษียนแล้ว (ได้พบสมาชิกท่านหนึ่งเป็นคุณครูที่โรงเรียนและได้เคยร่วมอบรมเรื่องทันตสุขภาพในโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพกับศูนย์อนามัยที่ 8 มาเมื่อ1-2 ปีที่แล้วด้วย) โดยมากสมาชิกจะเป็นคนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ที่ทำการชมรมก็คือวัดห้วยพระจันทร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ไปขอใช้อาคารจาก อบต. ซึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มผู้สูงอายุ จึงอนุญาตให้ใช้อาคารของ อบต. หลังเก่าเป็นที่ทำการของชมรม
เจ้าหน้าที่ที่เป็นแกนนำบอกว่าได้จัดตั้งชมรมนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแม่แบบของชมรมผู้สูงอายุในการส่งเสริมทันตสุขภาพ โดยสมาชิกได้จากการสมัครมาจากชมรมผู้สูงอายุต่าง ๆ 3 แห่ง คือชมรมในเขตเทศบาลหนองฉาง 2 แห่ง และ ชมรมใน อบต.หนองฉาง และต้องการให้สมาชิกชมรมไปขยายกิจกรรมในกลุ่มของตนเองต่อไป
ต่อมาป้าแฉล้ม ซึ่งเป็นประธานชมรมสภาวัฒนธรรมของอำเภอหนองฉาง รวมถึงเป็นประธานชมรมผู้สูงอายุด้วยได้เล่าที่มาที่ไปของชมรมนี้ว่า จากการที่ อ.หนองฉางได้รับเกียรติให้เป็นอำเภอนำร่องของการจัดกิจกรรมชมรมผู้สูงอายุ เพื่อการส่งเสริมทันตสุขภาพ และตำบลหนองฉางได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมนั้น เริ่มแรกจากการคัดเลือกตัวแทนไปอบรม ผู้สูงอายุที่ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 21-13 ธันวาคม 2552 โดยมี ป้าแฉล้ม , ป้ามะลิ , ป้าปราณี และป้าอัจฉรา นั้น หลังจากอบรมก็ได้มาพูดคุยปรึกษากับเจ้าที่ทันตสาธารณสุขที่โรงพยาบาลหนองฉาง และริเริ่มการทำงานโดยเริ่มจากคำถามว่าจะทำเมื่อไร , ทำกับใคร , ที่ไหน และอย่างไร
สำหรับจุดเริ่มต้นการทำกิจกรรมคือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2553 โดยเริ่มจากการหาสถานที่ทำการของชมรม ซึ่งได้จากกการสนับสนุนของ อบต. หนองฉาง มีการปรับปรุงโดยการทาสีใหม่ (ใช้เงินจากการรับบริจาค คนละ 10-20 บาท) และมีการรับสมัครสมาชิกและแกนนำชมรม โดยในวันที่ 10 ก.พ. 53 ซึ่งเป็นวันจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้มีการประชุมชี้แจงโครงการ มีการสมัครสมาชิกชมรม หากลุ่มแกนนำ และหาสมาชิกที่จะเป็นผู้นำร่องกิจกรรม
จุดมุ่งหมายของชมรมก็เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้สมาชิกมีความสุข ไม่เครียด สนุกสนาน และมีสุขภาพที่ดี ซึ่งจากการแบ่งกลุ่มสมาชิกเป็น 5 กลุ่ม ได้มีการระดมความคิดเห็น และจัดกิจกรรมต่าง ออกมาได้เป็น 9 กิจกรรมดังนี้คืออนามัยในช่องปาก, อนุรักษ์ดนตรี, ของดีจากชุมชน, ค้นหายาไทย, ใส่ใจน้ำหมัก, รักการเข้าวัด, ออกกำลังกาย, นวดแผนไทย และสบายใจเมื่อเข้าชมรม
อนามัยในช่องปาก มีผลการดำเนินงานคือ การตรวจฟัน , การจัดทำสมุดบันทึกสุขภาพฟัน , การจัดคิวการใส่ฟันปลอม , การให้ความรู้เรื่องการดูแลทันตสุขภาพ , การจัดตั้งแกนนำเพื่อไปดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่ติดบ้าน ติดเตียง สำหรับในระยะเวลาที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจสุขภาพช่องปากแล้ว และได้มีการจัดเตรียมช่องปากเพื่อใส่ฟันเที่ยมเสร็จแล้ว 50% พิมพ์ปากและใส่ฟันแล้ว 2 ราย
อนุรักษดนตรีไทย (เปลี่ยนชื่อเป็นอนุรักษ์วัฒนาธรรมไทยในภายหลัง) ซึ่งประเพณีที่สำคัญของอำเภอหนองแางได้แก่การรำโทน , เพลงกล่อมเด็ก , การรำกลองยาว โดยเฉพาะการรำโทนได้มีการแต่งเพลงเพื่อการส่งเสริมสุขภาพประกอบการรำโทนด้วย มีการอนุรักษ์ดนตรีไทย โดยไปเรียนการเล่นอังกะลุงร่วมกับเด้กนักเรียนในบริเวณใกล้เคียง
ของดีจากชุมชน ได้แก่การถักโคเชร์ , การพับผ้าขนหนูเป็นของชำร่วย , การทำขนมไทย เช่นข้าวแต๋น , มะม่วงแผ่น
สมุนไพรพื้นบ้าน เช่นบอระเพ็ด , ขมิ้นชัน , ดอกอัญชัน , น้ำฝาง , น้ำตะไคร้ , น้ำกระเจี๊ยบ
นวดแผนไทย เพื่อคลายเมื่อยให้สมาชิก
น้ำหมัก เพื่อแจกจ่ายสมาชิก และมีการออกกำลังกายสับดาห์ละ 3 วัน
และที่สำคัญที่การที่จะทำให้สมาชิกทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมของชมรม