เรื่องบาดหัวใจของคนที่ใช่ ที่ถูกตีตราว่า "ชู้"

            ความรักระหว่างหญิง - ชาย เกิดได้ทุกที่ บางครั้ง ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที หรืออาจนานเกินแรมปีกว่าจะรักใครสักคน แต่ก็มีหลายคนที่ตกลงปลงใจเลือกใช้ชีวิตกับคนที่เลือกแล้ว อยู่ร่วมเป็นครอบครัว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อต้องมาเจอคนที่ใช่ในเวลาต่อมา กลายเป็นความรักความผูกพัน ที่เป็นดั่งรักแท้เลยทีเดียว

            ถ้าเป็นยุคก่อน ใครที่แต่งงานแล้ว แต่ยังไปรักใคร่กับคนอื่น สังคมจะประณามว่าเป็นคนไม่ดี เป็นชู้ โดยไม่ได้มองว่า คู่สมรสมีปัญหาในครอบครัวหรือไม่ หากดูแลครอบครัว มอบความรัก ความอบอุ่นให้แก่กันและกัน คงไม่มีใคร ไปมีชู้ นอกบ้าน

            ในยุคปัจจุบัน ทุกคนมีทางเลือกมากขึ้น หากชีวิตสมรสไปกันไม่ได้ ก็แยกทางกัน หลายคน หย่าร้างแล้วไปแต่งงานใหม่มีชีวิตที่มีความสุขกว่าเดิม

            มีครอบครัวหนึ่ง ที่แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานเกิน 7 ปี มีทายาทตัวน้อยเป็นขวัญใจของครอบครัว ฝ่ายหญิงทำหน้าที่ภรรยาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่สามีกลับไปมีหญิงอื่น เมื่อภรรยาจับได้ จึงทักท้วงและซักถามความจริง จนฝ่ายสามีลงไม้ลงมือ และเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกหลายครั้ง ในที่สุด สามี-ภรรยา ตกลงหย่าร้างกัน แต่ยังคงอยู่บ้านเดียวกัน.... เพื่อลูก... ที่จะได้มีพ่อ-แม่อยู่พร้อมหน้ากัน แม้จะแยกห้องนอน และไม่ได้รักกันเหมือนคนรัก แต่ทั้งคู่ ทำหน้าที่เป็นพ่อ -แม่ของลูกต่อไป

            สามียังคงคบหญิงอื่นเช่นเดิม ฝ่ายอดีตภรรยา ทำงานใช้ชีวิตตามปกติ และได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง คบหาเป็นเพื่อนกัน จนกลายเป็นคนที่ใช่ และอยากใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกับเขา แต่เธอจำเป็นต้องอยู่บ้านเดียวกับกันอดีตสามี ไม่พร้อมที่จะแยกออกมาอยู่ที่อื่น เพราะค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนจะไม่พอใช้ทันที

            เธอคบกับคนใหม่ ตอนเย็น กลับมาอยู่ที่บ้านกับลูกๆ และอดีตสามี เมื่อมีคนรู้เรื่องของเธอและเขาคนใหม่ หลายคนเตือนด้วยความหวังดี เพราะเขาคนใหม่เหมือนเป็นชู้กับเธอ ถึงแม้เธอจะหย่าขาดกับอดีตสามี แต่ก็พักอยู่บ้านเดียวกัน ยังคงทำหน้าที่เป็นพ่อ-แม่ ของลูก... บางที เธออาจต้องการประชดอดีตสามี ที่มีคนใหม่ได้ เธอก็มีได้เหมือนกัน แต่เขาคนใหม่ ก็บอกว่า รักเธอจริงๆ และเธอก็รักเขาจริงๆ

            คนที่อยู่ในห้วงของความรัก ใครจะพูดอย่างไร ก็ไม่ฟังอยู่ดี

            มีคำเตือนหนึ่งที่น่ารับ ฟัง และคงเตือนสติกับคนที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
           
            แม้เธอจะ เลิกกับอดีตสามี แต่ยังคงพยายามรักษาสภาพความเป็นครอบครัวเอาไว้ อยากให้ลูกมี พ่อ-แม่ อยู่ครบ นั่นคือความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ที่รักลูก ถนอมลูก เอาใจใส่ลูก และทำทุกอย่างให้ลูกมีความสุข แต่ถ้าลูกเห็นพ่อ-แม่ มีคนอื่น เขาจะรู้สึกอย่างไร ทุกข์ อับอาย เจ็บปวดเพียงใด ที่มีใครอีกคน มาทำให้พ่อ กับแม่ของเขา ต้องแยกจากกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

            แม้จะเกิดปัญหาในครอบครัว แต่เธอยังคงคิดถึงความอบอุ่นในครอบครัว คิดถึงความสุขของลูกๆ ถ้าเธอตัดสินใจเด็ดขาด แยกทางกับอดีตสามี แยกบ้านออกมาอยู่ต่างหาก ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เพราะความรัก ความผูกพันในระยะเวลาที่ผ่านมา และอีกหลายเหตุผล เธอจึงต้องทำแบบนี้ คบกับเขาคนใหม่ในเวลาส่วนตัวของเขาและเธอ พอตอนเย็น ก็กลับไปทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดังเดิม


            ..เป็นเรื่องธรรมดา ที่คนเป็นชู้ ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เธอทำอยู่ที่บ้านที่เธออยู่ แต่สิ่งสำคัญ คือ เขาและเธอ เรื่องอื่น คงแก้ไขได้ แต่เธอผู้เป็นอดีตภรรยาก็คิดถึงความสุขของลูกเป็นหลัก เพื่อนที่รู้เรื่องก็มีความเห็นแตกต่างกันไป เลิกกับคนเก่า แต่ยังคงรักษาความเป็นครอบครัวเพื่อความสุขของลูกต่อไป คนอื่น ก็เหมือนเป็นคนไปทำลายครอบครัวของเธอกับอดีตสามี และลูกๆ

            เป็นเรื่องบาดหัวใจ ที่จะต้องตัดสินใจให้ชัดเจน

            หลายครั้ง คนเราเจอคนที่ใช่ "ช้าเกินไป"  คนที่ใช่...แต่ก็ไม่ใช่  ถ้าหากใช่ ก็คงจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันไปแล้ว ไม่อยู่ในสภาพเหตุการณ์ในลักษณะนี้

            แม้หลายคนจะมองเหตุการณ์นี้ว่า ผิด ถูกอย่างไร แต่คนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก มักจะคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ

เหตุผลที่เค้าพูดมันก็ถูกนะ..แต่..ใครจะรู้ดีเท่าตัวของคนที่เจอกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองจริงๆ..เค้าเท่านั้นที่รู้ตัวเค้าเอง..และเค้าก็รู้ว่าเค้าควรจะรักใคร..แต่..คนที่เค้ารักและเค้ารู้ว่าใช่น่ะ..คงไม่สามารถอยู่กับเค้าได้แน่นอนตะหากนี่ซิมันเจ็บปวด..เพราะอะไรรู้มั้ย..พ่อแม่ญาตพี่น้องของเค้าคนที่ใช่สำหรับเธอต้องรังเกียจ และคงรับในตัวเธอไม่ได้แน่นอนคิดดูซิว่าใครจะเจ็บปวดมันไม่ใช่แค่เพียงเธอและเค้าเท่านั้นพ่อแม่ญาติพี่น้องเค้าแหละที่จะต้องเสียใจเจ็บปวดกับการที่ลูกเค้าหลานเค้าเลือกผู้หญิงที่เรียกว่าแม่ม่ายนำหน้า...