ดูละคร ย้อนดูตัว กับ วพบ.สวรรค์ประชารักษ์ ตอนจบ
หายไปหลายเดือนค่ะ แต่ขอต่อจากความเดิมตอนที่แล้วค่ะ ดูละครย้อนดูตัวตอน 1
หลังจากนั้นวิทยากรให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกทักษะการเล่าเรื่อง การฟัง และการเขียน โดยใช้สโลแกนที่ว่า “ทำมาแล้ว ทำมาเอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เข้าร่วมทุกคนผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้มาแล้ว โดยนำมาเล่าสู่กันฟัง บางท่านถึงกับบ่นมาดัง ๆ ว่า “เพิ่งรู้ว่าเพื่อนเราเก่งเรื่องนี้ด้วยเหรอ” “ดีเลยคราวหน้าจะขอความช่วยเหลือมั้ง” บางท่านก็เกิดปิ๊งแว๊บขึ้นมาว่า จะนำวิธีการของเพื่อนไปปรับใช้กับงานของตัวเองบ้างเพราะปัญหาก็มักจะเกิดแบบนี้แต่ไม่รู้จะแก้อย่างไร เห็นไหมคะว่าการฟังมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน แต่เราต้องฟังอย่างเปิดใจ ไม่มีอคติ จึงทำให้เราได้รู้อะไรเกี่ยวกับผู้อื่นอีกเยอะมากมายเลยค่ะ ทักษะพื้นฐานเหล่านี้ไม่จำเป็นจะต้องเก่งที่สุดเพราะสามารถฝึกฝนกันได้ค่ะ
หลังจากเมื่อเช้าได้เขียนเป้าหมายการเข้าร่วม Workshop แล้ว กระบวนการก็มาถึงช่วงที่สำคัญที่สุดคือการทำ AAR (After Action Review) ผู้เข้าร่วมจะได้ทบทวนว่าสิ่งที่ผู้เข้าร่วมได้ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ช่วงที่ทำ BAR นั้น สามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองหรือไม่
ตลอดทั้งวันที่ร่วมทำกิจกรรมนี้ทำให้ดิฉันนึกย้อนกลับมามองความรู้สึกของตัวเอง โดยแยกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรกที่ผ่านมาดิฉันเคยได้รับกำลังใจที่ดี แรงเชียร์ โอกาสอันดี เช่นนี้มั่งหรือเปล่า และตัวดิฉันเองได้มอบกำลังใจที่ดี แรงเชียร์ โอกาสอันดีเฉกเช่นนี้ให้กับผู้คนรอบข้างแล้วหรือยัง ซึ่งก็เป็นสิ่งเตือนตัวเองได้ดีเหมือนกัน ประเด็นที่สอง ตัวดิฉันเองละ “เล่าเรื่องเป็นอย่างไร วกไปวนมาหรือเปล่า” “พูดจารู้เรื่องไหม” “เขียนล่ะดีไหม” “การฟังเป็นแบบไหน” “ฟังแบบตัดสินหรือเปล่าหรือว่าฟังไปงั้น ๆ แหละ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกลับมาทบทวนเป็นอย่างยิ่งค่ะและคงต้องมีการหมั่นฝึกฝนกันบ่อย ๆ และตลอดไปค่ะ เพื่อการทำอะไรก็ตามหากมีฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอก็จะเป็นผลดีกับตัวเองค่ะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าการทำกิจการงานใด ๆ ก็ตามจะต้องมีอุปสรรคและปัญหามากมาย แต่เราก็อย่าไปยึดติดให้มากนัก เพราะปัญหาหรืออุปสรรค์ถือเป็นประสบการณ์อันใหญ่หลวงยิ่งนักที่จะทำให้เราฝ่าฝันอุปสรรคนานาต่อไป สู้ต่อไปไอ้น้อง... เพื่อวันพรุ่งนี้หรือวันนี้ที่ดีขึ้นค่ะ....
ความเห็น (1)
ดูละครย้อนดูตัวนะครับ
ดูแล้วอิน
ดูแล้วมีอารมณ์ร่วม
เป็นการฝึกสติแบบ dynamic ดีนะครับ...