ทำไปได้ ทำได้งัยเนี่ย


"หยุดซะที" "เงียบซะทีซิ" "มารยาทมีไหม" "โอ้ย!!! ทำไมไม่ไปคุยที่บ้าน" "โอ้ยยยยย"

เมื่อเย็นวันพุธที่ผ่านมา  ฝากชีวิตการเดินทางไว้กับรถตู้ทางด่วน สายอนุสาวรีย์ฯ - บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นประจำทุกวัน วันนี้ก็คล้าย ๆ จะเหมือนกับทุก ๆ วันที่ผ่าน ซึ่งพฤติกรรมที่มักจะพบและประสบเจอก็คือเหตุการณ คือ "โทรศัพท์" ทั้งรับสายและโทรออก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่พอจะรับได้อยู่ รถตู้บางคันจะมีติดป้ายไว้เลย "กรุณาอย่าคุยนาน เกรงใจคนอื่นบ้าง" "อยากคุยนานไปคุยที่บ้าน" ประมาณนี้แหละค่ะ หรือเป็นเพราะว่าวันนั้นไม่มีป้ายเหล่านี้แสดงไว้ในรถค่ะ  กลับมาที่เหตุการณ์ต่อไปนี้ค่ะ พอรถขึ้นทางด่วนก็เริ่มบรรเลงเลยค่ะ น้องผู้หญิงคนหนึ่งนั่งแถวหลังสุด ส่วนดิฉันนั่งถัดมา 1 แถว น้องเค้าเริ่มคุยโทรศัพท์ (อันนี้ก็ไม่อยากฟังเรื่องของคนอื่นหรอกค่ะ) เพียงต่อไม่รู้จะทำยังงัยเพราะหาหนทางอื่น ๆ ยังงัยก็ยังได้ยินเสียงของน้องเค้าอยู่ดี ประมาณว่าเรื่องการยื่นเป็นผู้รับมรดกของแม่ (แม่น้องเค้าเสียชีวิต) แต่พ่อ (พ่อเลี้ยงไม่ยอมแบ่งมรดก) น้องเค้าก็ต้องไปฟ้องศาล อะไรประมาณนี้ค่ะ  ก็เป็นชีวิตที่น่าเห็นใจค่ะ

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ พอเค้าคุยคนที่ 1 จบ  สักพักเริ่มใหม่อีกแล้ว คนที่ 2  ต่อด้วยคนที่ 3 บางครั้งก็กลับมาคุยซ้ำกับคุณที่ 2 ต่อ  แล้วเสียงไม่ได้เบาเลยค่ะ เหมือนว่ามาคุยตรงหูของเราเลยก็ว่าได้ คิดดูซิค่ะตั้งแต่อนุวรีย์ชัย ถึง บางใหญ่ ระยะทางก็ไกลอยู่ แถมรถก็ติด คิดดูว่าเราต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการเดินทางแต่ละครั้ง เกือบ ๆ 1 ชม.  ใน 1 ชม. พอจะมีเวลาที่ปลอดน้ำเสียงของน้องคนนี้ไม่เกิน 20 นาทีค่ะ นอกนั้นเสียงน้องเค้าจะติดที่หูตลอดค่ะ  ถ้าให้ดิฉันเล่าเรื่องที่ได้ยินนี้คงเล่าได้เป็นฉาก ๆ เป็นแน่เลยค่ะ

ดิฉันสังเกตุเห็นปฏิกิริยาคนที่แถวหน้าดิฉันก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากดิฉันเลย  เห็นคอยเหลือบ ๆ มองมาเป็นระยะ ๆ เห็นใจตัวเองและเพื่อนร่วมทางเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะทำยังงัยดี ในหัวก็คิดอยากตะโกนออกไป "หยุดซะที" "เงียบซะทีซิ" "มารยาทมีไหม" "โอ้ย!!! ทำไมไม่ไปคุยที่บ้าน"  "โอ้ยยยยย"  มันเป็นเสียงที่ก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา ตอนลงรถนะค่ะ น้องเค้าลงป้ายเดียวกับเราด้วยซิค่ะ ก็ขอมองหน้าชัด ๆ หน่อย เห็นพอลงจากรถตู้ขึ้น Taxi ก็เห็นหยิบโทรศัพท์มาอีกแล้ว (แต่ไม่รู้ว่าคุยหรือเปล่าค่ะ ถ้าคุยต่อก็คงต้องเป็นกรรมของคนขับ Taxi แล้วละค่ะ) 

คิดอยู่นะว่าจะบอกน้องเค้าให้หยุดดีไหม ถ้าบอกมันจะเกิดอะไรขึ้น คนอื่นก็ได้ยินทำไมเค้าไม่บอกละ มันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ความอดทน และต้องพยายามที่จะใช้ว่าคำว่า "ช่างมันเถอะ" มันก็เป็นสิ่งทดสอบใจเราได้เหมือนกันนะว่าเราจะทำใจรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มันไม่สามารถควบคุมเหล่านี้ได้ยังงัย สรุปก็คือต้องความนิ่งเฉย สยบความเคลื่อน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริง ๆ ค่ะ  และครั้งหนึ่งเคยขึ้นรถตู้แบบนี้แหละแต่เป็นช่วงเช้า ๆ ก็คนข้าง ๆ ดิฉันนี้แหละค่ะ คุยนานและดังเจอคนขับรถตะโกน ใช้คำว่า "ด่า" เลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ครั้งนั้นดิฉันพยายามคุยให้เบาและน้อยที่สุดค่ะ อันนี้ก็เป็นประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ของการเดินทางทั้งไป และ กลับบ้านค่ะ

หมายเลขบันทึก: 363688เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2010 10:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แวะมาให้กำลังใจนะคะ คิดว่าเป็นด่านทดสอบความอดทนอย่างนึงนะคะ

ใช่ครับเป็นการทดสอบความอดทนในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลาย

คุณน่าจะสอบผ่านแล้วนะครับ

ขอบคุณ คุณ Eureka au ค่ะ วันหน้าร่วมทดสอบสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกันอีกนะค่ะ

มา AAR กันดีกว่า เอาคำถามข้อสุดท้ายเลยนะ "แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก คุณนายบ้านแลนด์ จะทำอย่างไร?" +555

  • คุณสันติ หมื่นไวย , ครูพิทักษ์ ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจค่ะ วันข้างหน้าคงมีหลายอีกหลายเหตุการณ์ค่ะ ที่จะมาทดสอบตัวเรา ขอเป็นกำลังใจเหมือนกันค่ะ
  • อ้อ,อ้อม "แล้วถ้าเหตุการณ์แบบนี้อีกจะทำอย่างไร" คงต้องใช้ไม้แข็งแล้วละมั้ง "เค้าโทรได้" "คุณทำได้" "เราก็โทรได้" 5555

ความส่วนตัวที่สาธารณะ น่าให้ความเคารพคนอื่นด้วยนะ

ทุกวันนี้เราลืมบางสิ่งที่ต้องทำเพื่อสังคมบ้างนะ อย่ามำเพื่อตัวเองมากไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท