วิตามินใจ


มารับบริการตึกอุบัติเหตุ ได้รับความเป็นกันเอง เจ้าหน้าที่เอาใจใส่ เข้าถึงได้และเข้าใจคนไข้ แถมยังไปรับถึงบ้านอีก เป็นวิตามินทางใจ ทำให้คนไข้โรคเรื้อรังอย่างผม มีพลังขึ้น

                                 วิตามินใจ .........

วันนี้เป็นวันอะไรหนอ  ฉันช่างรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน  พลังใจของฉันหายไปไหนหมด ขณะนั่งทำงานของเวรเช้า  วันที่  4 ธ.ค. 52  เวลาประมาณ  13.30  ณ ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน  คราครำไปด้วยผู้คนทั้งทำแผล  หายใจเหนื่อยหอบ  แน่นหน้าอก  มีเลือดออกทางช่องคลอด แต่ละรายพยาบาลได้ให้การพยาบาลเตรียมผู้ป่วย  เมื่อรายงานแพทย์อยู่นั้น  ที่ ER ไม่มีเตียงว่างอีกแล้วขณะที่ฉันกำลังวางหูโทรศัพท์หลังโทรไป Admitted ที่ตึกผู้ป่วยหญิงนั้นมีผู้หญิงอายุวัย  40  เศษผิวขาวรูปร่างสมส่วน  ผิวพรรณดูดีแต่ผมเป็นกระเซิง  เดินมาอย่างรวดเร็วที่เคาเตอร์พยาบาล  นัยน์ตา  สีหน้ามีความวิตกกังวลสูงมาก  ดูลุกลี้ลุกลน  หลังบอกฉันว่า  ช่วยด้วย ๆ คนไข้มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ  แน่น ๆ ยอดอกบวมทั้งตัว  หน้าซีด พี่ว่าแก่ไม่สบายมาก  แต่แกไม่ยอมมาโรงพยาบาล  พูดเท่าไหร่ก็ไม่มา  ทั้งลูกทั้งเมียพูดแล้วก็ไม่มา  ถ้าน้องพยาบาลไปช่วยพูดให้  แกอาจจะยอมมาโรงพยาบาลก็ได้  ฉันบอกว่าญาติใจเย็น ๆ ก่อนนะค่ะค่อย ๆ พูด  หายใจเข้าออกยาว ๆ ลึก ๆ ส่วนด้านหลังของคุณพี่ก็มีลูกสาวยืนคอยลุ้นอยู่ตลอดว่าเราจะทำอย่างไร  จริง ๆ แล้วเราชาว  ER ทั้งหมดก็คุ้นเคยกับญาติผู้ป่วยทั้ง 2 คน  นี้อย่างดี  เมื่อเห็นญาติก็นึกถึงคนไข้รายหนึ่ง  เป็นชายไทย  วัย  40  เศษ  ผิวค่อนข้างคล้ำ  ตาเหลืองซีดเล็กน้อย  รูปร่างท้วม  มีโรคประจำตัวหลายอย่าง  ทั้งเบาหวาน  ความดันโลหิตสูง  ไขมันในเลือดสูง  ฉันยังคิดในใจว่าผู้ป่วยรายนี้หายไปจาก  ER นานแล้ว     เมื่อหลายเดือนก่อน  มาทำแผลเบาหวานเรื้อรังที่เท้า  ทุกวัน  ทราบว่าแผลหายแล้ว  ช่วงนี้ผู้ป่วยหายไปไหน

          จากการสังเกตครอบครัวนี้เป็นครอบครัวครอบครัวขยาย  ลูกหลานอยู่บ้านเดียวกัน  มีความสัมพันธ์อันดี  ขยันทำมาหากิน  ขายของในตลาดเช้าและตลาดเปิดท้ายวันเสาร์-อาทิตย์

          เมื่อภรรยาและลูกมาร้องขอ เรายินดีช่วยเหลือ  และแล้วฉันก็บอกให้ภรรยาผู้ป่วยโทรศัพท์หมายเลข  1669 เข้าสู่ระบบแพทย์ฉุกเฉิน    ภรรยาบอกว่าไม่ได้นำโทรศัพท์มา  ฉันก็ให้ยืมโทรศัพท์ส่วนตัวใช้โทรไป  และทำให้ตัวชี้วัดการโทรศัพท์แจ้งเหตุผ่านหมายเลข  1669 ของระดับจังหวัดผ่านไปด้วย  ได้ประโยชน์  2  ต่อ ในขณะที่เพื่อนพยาบาลให้บริการผู้รับบริการคนอื่น ๆอยู่นั้นฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์กู้ชีพตาปีได้สั่งการให้รถโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระออกไปรับผู้ป่วยรายนี้โดยให้ปฏิบัติการช่วยเหลือที่เป็นระดับสูง  (ALS)ฉันและลูกทีมของฉันประกอบไปด้วย น้อง EMT- I ,พนักงานเปล  และคนขับรถรีบใส่เอี๊ยม EMS ทับชุดฟอร์มปฏิบัติงานปกติ เพื่อออกไปรับผู้ป่วยรายนี้ ที่บ้านผู้ป่วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก  รพ. เท่าใดนัก เมื่อไปถึงบ้านผู้ป่วยเป็นบ้านชั้นเดียว  ผู้ป่วยนั่งอยู่กับเก้าอี้ในห้องนอน  สภาพที่เห็นผู้ป่วยบวมฉุ  ทั้งใบหน้า  หน้าท้อง  หลังมือ  หลังเท้า  หายใจเหนื่อยปัสสาวะไม่ออก  จากการซักถามผู้ป่วยเป็นไตวาย  เพิ่มอีก 1 โรค ซ้ำร้ายยังใส่ท่อล้างไตทางหน้าท้อง  ผู้ป่วยล้างออกเองที่บ้านทุกวัน  สำหรับตัวฉันเองคุ้นเคยกับผู้ป่วยดีอยู่แล้ว  โดยไม่ต้องแนะนำตัว  ฉันใช้มือจับไปที่หลังและมือผู้ป่วย  ส่วนน้อง EMT วัดสัญญาณชีพ  ออกซิเจนในกระแสเลือด  เจาะน้ำตาลในเลือด  ให้ออกซิเจน  จากเดิมรูปร่างคนไข้จะดูล่ำ ๆปัจจุบันกลายเป็นคนอ้วน ตาบวมมือเท้าบวมกดบุ๋ม  จนจำไม่ได้  ผู้ป่วยเอามือก่ายหน้าผาก  สายตาเหม่อลอย  ไม่สบตาพยาบาลเผยอปากพูดว่า  ผมไม่เป็นไร  ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ฉันเอามือจับไปที่หลังเท้าหน้าแข้ง  แล้วบอกว่าบวมมาก  หายใจเหนื่อย  ต้องทำให้ส่วนที่บวมยุบลง  หมอที่ รพ.รักษาได้  ทำให้หายได้  จริง ๆ แล้วก็คิดในใจว่าไม่รู้ว่าหมอ  จะ Admitted หรือ Refer เพราะผู้ป่วยบวมมากจริง ๆพูดคุยกันอยู่สักครู่หนึ่ง ในที่สุดผู้ป่วยก็ยอมมากับรถ EMS เพราะเชื่อว่า  หมอทำให้หายได้  ระหว่างเดินทางมา รพ.  มีการรายงาน  Case ทางวิทยุมาแล้วเมื่อมาถึง  ER จากที่ผู้คนคราครั่งก็เริ่มบางตาไปบ้างแล้ว  ผู้ป่วยได้รับการตรวจโดยแพทย์เวรประจำ ER  วันนั้นทันที  โดยวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวาน  ไตวาย  ความดันโลหิตสูง  และเกิดภาวะน้ำเกินในร่างกาย  แพทย์ได้สั่งการรักษาเพิ่มให้ออกซิเจน  ฉีดยาขับปัสสาวะ  ขณะอยู่ที่ตึกอุบัติเหตุฉันและทีมพยาบาลก็ให้การดูแลตลอด  จนกระทั่งแพทย์  Admitted ผู้ป่วยไว้ที่ตึกผู้ป่วยในชาย  ก่อนย้ายจากตึกอุบัติเหตุฉันได้เห็นรอยยิ้มของภรรยาและลูกของผู้ป่วย  แววตามีความหวัง และกล่าวขอบคุณที่เราพาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลได้  ฉันได้สัมผัสความรู้สึกนั้น  เป็นรอยยิ้ม  แววตาแห่งความริสุทธ์ใจ  รับได้ถึงความเป็นสุขที่ได้ยื้อชีวิตคนไข้ไปได้อีกครั้งหนึ่ง ฉันรู้สึกกำลังกาย  กำลังใจกลับมาอีกครั้ง  ทำให้ฉันมีพลังดั่งเดิมที่จะสู้ต่อไป

          อีก 1 เดือนต่อมา  ฉันเห็นผู้ป่วยยืนขายของในตลาดเช้า ตอนนี้หายบวมแล้ว    ดูแววตาสดชื่นขึ้น  มีความสุขมากขึ้น ผู้ป่วยบอกว่า  เวลามารับบริการตึกอุบัติเหตุ  ได้รับความเป็นกันเอง  เจ้าหน้าที่เอาใจใส่  เข้าถึงได้และเข้าใจคนไข้ แถมยังไปรับถึงบ้านอีก  เป็นวิตามินทางใจ  ทำให้คนไข้โรคเรื้อรังอย่างผม  มีพลังขึ้น  หมอกับพยาบาลพูดดี  ก็เหมือนหายจากโรคที่เป็นอยู่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง

หมายเลขบันทึก: 364625เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2010 08:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

แวะมาชิ่นชมและให้กำลังใจคนทำงานค่ะ

รอยยิ้มผู้ป่วยคือตัวชี้วัดอย่างหนึ่งค่ะ

แวะมาชื่นชมค่ะ

ดีใจแทนผู้ป่วยค่ะ

ที่มีพยาบาลจิตใจดีแบบนี้

ซึ่งหายากมากค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

ทุกชีวิตมีค่า การให้โอกาสแก่ทุกคน ถือว่าเป็นการทำบุญด้วยนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท