จุดพลิกผันของสี่เต่าทอง : The tipping point of the Beatles

ในที่นี้มีใครเป็นสาวกของวงสี่เต่าทองบ้างมั้ยคะ ? ^^

               ถ้าจะพูดถึงตำนานเพลง Rock and Roll หรือ Brit pop ในยุคก่อนแล้ว ต้องยกคำว่า “ตำนาน” ให้กับเขาทั้งสี่คน John Lennon, Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starrs แห่งวง The Beatles เลยล่ะค่ะ

 

 

               The Beatles ถือเป็นวงดนตรีอันดับแรกในใจฉันเลย เช่นเดียวกับสาวกอีกหลายๆคน เหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่อยู่ในความทรงจำของสาวก The Beatles ก็คือ ข่าวการตัดสินใจยุบวงในเดือนเมษายน 1970 โดย Paul เป็นคนแรกที่ลาออกจากวง โดยนักวิจารณ์ในแวดวงดนตรีได้ให้ความเห็นว่า การแตกวงของ The Beatles นั้น สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการที่ Yoko Ono ภรรยาสาวชาวญี่ปุ่นของ John Lennon เข้ามามีบทบาทภายในวงมากเกินไป

 

               The Beatles ทิ้งอัลบั้ม “Let It Be” ไว้เป็นผลงานชุดสุดท้ายอย่างเป็นทางการไว้ในปี 1970 หลังจากแยกวงแล้ว John ก็ออกผลงานเดี่ยวชุดแรก “John Lennon & Plastic Ono Band” ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องสันติภาพและต่อต้านสงครามของ คนหนุ่มสาวยุคนั้นในเวลาต่อมา ซึ่งผลงานของ John ในยุคหลังจะค่อนข้างสื่อสารรูปแบบความคิด จุดยืน และความเป็นตัวตนของเขาทั้งสอง (John และ Yoko) ออกมาอย่างชัดเจน จนเกิดเป็น ตำนานของ Lennon (Lennon Legend) ขึ้นมา

 

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา http://www.pantip.com/cafe/book_stand/guitarmag/s4907.htm ค่ะ

 

                สำหรับบทความนี้ ฉันตั้งใจจะอธิบายเหตุการณ์การแตกวงในครั้งนี้ ด้วยทฤษฎีจุดพลิกผัน (The tipping point) เริ่มต้นจากสมาชิกสี่เต่าทองที่ฉันชื่นชอบมากที่สุด อย่าง John Lennon ผู้ซึ่งคนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เป็นผู้จุดประเด็นให้เกิดการแตกแยกภายในวงขึ้น จากการที่ Yoko Ono ภรรยาคนสุดท้ายของ John ได้เข้ามามีส่วนร่วมในวงมากจนเกินไป

               Yoko ถือเป็นผู้หญิงคนสำคัญ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ความคิด และความเชื่อใหม่ๆ (Mental Model) ให้กับ John อย่างท่วมท้น แต่น่าเสียดายที่แรงบันดาลใจเหล่านั้น กลับสวนทางกับรูปแบบความคิดของสมาชิกที่เหลือในวง จนนำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าว

 

               ดังนั้น ฉันจึงสรุปสถานการณ์ดังกล่าวได้ว่า จุดพลิกผัน ที่ทำให้เกิด Lennon Legend ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานเพลงที่ฉันชื่นชมมากที่สุดในใจฉัน ก็คือ “การที่ John ได้พบ และรักกับ Yoko Ono” หรือพูดง่ายๆว่า เพราะ “ความรัก” นี่เองที่ทำให้ John สร้างสรรค์งานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะเห็นได้ว่าในแต่ละเพลงที่ John ได้ถ่ายทอดลงในผลงานของเขา จะสื่อแสดงถึง “ความรัก” ที่เขามีต่อ Yoko และ “ความรัก” ที่เขามีต่อมวลมนุษยชาติ ผ่านการเรียกร้องเสรีภาพและต่อต้านสงครามในขณะนั้น และผลตอบรับจากอัลบั้มดังกล่าวก็ยิ่งใหญ่มาก อย่างเพลง Imagine ที่ฉันนำมาฝากทุกท่านในวันนี้ ^^ ฉันเชื่อว่าต้องมีหลายๆท่านที่เคยได้ยินมาแล้วทั้งสิ้น

 

 ในช่วงชีวิตของเราทุกคน แม้ว่าจะเป็นชีวิตที่เล็กน้อย หรือยิ่งใหญ่ ฉันเชื่อว่า เราทุกคนต้องเคยผ่าน “จุดพลิกผัน” ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้เป็นในทางที่ดีขึ้น หรือมี Performance มากขึ้นทั้งนั้น

 

                เช่นเดียวกับ John Lennon ที่เขาได้พบกับ “Yoko” ซึ่งเป็นผู้นำ “ความรัก” มาให้ John และเป็นพลัง ที่ทำให้เขาสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมาได้

 

สำหรับใครที่เป็นสาวก The Beatles เช่นเดียวกันกับฉัน มาร่วมแลกเปลี่ยนกันได้เต็มที่เลยค่ะ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ ^^   

[ndoo]

สุดยอดมากเรยอะ

เลืกทำทีซิสได้ถูกทางแร้วแก

เด๋วจาอ่านให้เรื่อยๆ นะ^^