ภารกิจ”ตามล่าเสน่หามาใส่ปลายจวัก”ต่อมา


เมนูลำดับที่สอง

เลิกเล่นเกมทำอาหารใน Face book แล้ว

มาเล่นของจริงไปเลย (ดีกว่า)

สปาเก็ตตี้กระเพราหมู (ไม่เมานะคะ)

แปลงมาจากเมนูอาหารคอลัมน์ประจำนิตยสารสกุลไทยสมัยสามสิบกว่าปีที่แล้ว อย่างที่เคยบันทึกเล่าเรื่องราวภายในครอบครัวชื่นชมยินดีของฉันว่า หกคนในบ้าน แต่ละคนจะมีสิทธิในการเลือกรับหนังสือสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับต่อเนื่อง (นิตยสาร วารสาร จุลสารรายปักษ์ เป็นต้น) จากร้านหนังสือใหญ่ ซึ่งจะมีบริการส่งให้ถึงบ้าน

(อ่านเพิ่มเติมบันทึก ชีวิตติดหนังสือ ค่ะ)

คุณแม่ฉันท่านเป็นขาประจำนิตยสารสกุลไทย กุลสตรี และต่วยตูน ค่ะ (แหม! แม่มีสิทธิเลือกตั้งสามรายการเชียว) แล้วแม่ก็จะสวมวิญญาณเหมือนบรรดาเหล่าบรรณารักษ์ที่จะคอยตัดเก็บข้อมูลข่าวสารสาระที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ในอาชีพรองลงมา คือ “อาชีพแม่...แม่บ้าน (รวมการทำรายงานการบ้านให้ลูก)”   รายการอาหารถูกเก็บใส่แฟ้มอย่างดี มันเคยสงบนิ่งมานานนับจากสมาชิกอยู่อาศัยในบ้านน้อยลง คือลูกสี่คนต่างแยกย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเอง

วันนี้ ฉันชวนแม่พลิกแฟ้มรายการอาหารที่แม่ตัดเก็บเอาไว้แล้วเลือกรายการอาหารที่เคยชอบ(อีกแล้ว)เหตุผลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการลงมือทำอาหาร ทีแรกสองจิตสองใจ อยากกิน พระรามลงสรง และหนุมานคลุกฝุ่น (ข้าวราด) แต่เหมือนพระรามและหนุมานก็เหมือนตาอินตานา โดนแม่ลูกอย่างฉันเกี่ยงอยู่นั่นแล้ว พอตาอยู่(ขี้เมา)มา ก็เลยได้รายการอาหารฝรั่งแปลงเป็น สปาเก็ตตี้กระเพราหมู (แต่ไม่ถึงขั้นขี้เมาแบบเผ็ดร้อนแน่ๆ เพราะบ้านฉันเป็นพวกไม่ชอบเผ็ดจัดจ้านค่ะ และนั่นก็เป็นที่มาของเมนูลำดับที่สอง ตามภารกิจ”ตามล่าเสน่ห์มาใส่ปลายจวัก” ค่ะ

 

สปาเก็ตตี้ขี้เมา เป็นชื่ออาหารตามสูตรในแฟ้มรายการอาหารของแม่ มาดูเครื่องปรุงของอาหารชนิดนี้กันค่ะ

สำหรับวิธีทำมีห้าขั้นตอน อาหารก็สำเร็จออกมาหน้าตาน่ารับประทาน แบบนี้ค่ะ ทำกันเกือบจะต้องตามตำรา ยกเว้นการนำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไป “โบ๊ะ” ด้วย ฉันชอบที่แม่บอกว่า มีอะไรก็ “โบ๊ะๆๆ” ลงไป ทำให้ความรู้สึกอยากทำอาหารมันเพิ่มมากขึ้นๆ มิน่าล่ะ เวลาดูแม่ครัวพ่อครัวที่รู้จักมักคุ้น สีหน้าท่าทางเขาช่างมีความสุขสนุกกับการปรุงอาหารเสียจริง

แม่เล่าว่าสมัยก่อนโน้น เวลาที่บ้านผู้มีอันจะกิน อยากรับประทาน สปาเก็ตตี้ขี้เมา เขาใช้เวลาเตรียมเครื่องกันนานเป็นวันๆ  ก็สมควรกระมังคะ เส้นสปาเก็ตตี้เอย มักกะโรนีเอยในยุคนั้น คงจะต้องไปซื้อกันในห้างฝรั่งๆ สมัยนี้เมื่อตกลงใจว่าจะทำก็ไปห้างเล็กห้างน้อย แม้แต่ร้านขายของชำในตลาดก็ยังมีให้เลือกสารพัดยี่ห้อ

มาดูสูตรวิธีทำกันบ้างค่ะ

  1. แบ่งพริกชี้ฟ้าแดง พริกเหลือง เป็นสองส่วน ส่วนที่ 1 โขลกหยาบๆ ส่วนที่ 2 หั่นตามยาวหยาบๆ
  2. กระเทียม พริกขี้หนู ทุบสับ
  3. มะเขือเทศแต่ละผลผ่า 4 ชิ้น
  4. ลวกเส้นสปาเก็ตตี้
  5. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน ใส่กระเทียมสับ ผัดจนมีกลิ่นหอม ใสหมูสับ (ไฟแรง) รวนจนหมูสุก ใส่น้ำซุป ซีอ็วหวาน ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำส้ม ชิมรส เผ็ด เค็ม เปรี้ยว หวาน (ถ้าจะเอาให้เป็นขี้เมาก็เอาเส้นสปาฯ ที่ลวกแล้วลงไปผัดไปมาจนเส้นเข้ากับเนื้อหมู) ใสมะเขือเทศ พริกชี้ฟ้า ใบกระเพรา คนให้เข้ากัน ยกลงตักใส่จาน โรยพริกไทยป่น

(ตามหาพริกเหลือง พริกสีเหลือง ตั้งนาน)

แหมเหมือนเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน (ใครๆ ก็ทำเป็น) เท่านี้ก็ อิ่ม(ใจ)...อร่อยแล้วค่ะ (ไม่เค็มหรือเผ็ดจังเลย ต้องเติมน้ำปลาเข้าไปค่ะ)


เมนูหยุดสุดสัปดาห์ของฉัน เป็นการเรียนรู้รื้อฟื้นการกินอยู่ในอดีต ผ่านคุณแม่ของฉันเองค่ะ ถามแม่ว่าทำไมชอบทำอาหาร ทำงานเป็นพยาบาลนี่นา...แม่จึงเล่าให้ฟังว่าในสมัยเป็นนักเรียนพยาบาลศิริราช พยาบาลมีหน้าที่เข้าเวรประจำห้องครัวด้วย (เหมือนแดจังกึมหรือเปล่าแม่) สมัยนั้นต้องเรียนโภชนาการและมีพยาบาลแผนกโรงครัว (ใส่ชุดฟอร์มพยาบาลประจำแผนกครัวด้วย เท่ห์ไมน้อยเลยนะคะ) สมัยนี้ไม่มีแล้ว แม่เป็นคนขี้โรค อาจารย์เลยให้เป็นซินเดอเรลลาในโรงครัว (จนได้พบคุณชาย...แม่โดนแซวซะแล้ว) แม่ได้ความรู้เป็นวิชาการบ้านการครัว มาคิดทำเมนูรายการอาหารแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ มาคิดวัตถุดิบ เครื่องปรุงต่างๆ ส่งให้ลูกจ้างไปจ่ายตลาด  มิน่าเห็นเศษกระดาษที่แม่จดสมัยก่อนแบบนี้เลย แต่ดูแอบบ่นในใจว่าไม่เห็นจะปะติดปะต่อเป็นอาหาร เพราะเคล็ดลับการปรุงอยู่ที่ตัวแม่ ใครอยากได้ต้องมาเป็นลูกมือกับแม่ ลักจำกันเอาเอง เด็กลูกจ้างที่เรียนจบการครัวออกไปมีหลายรุ่น ไปเปิดร้านอาหารได้ดิบได้ดีมีอาชีพติดตัวกันไป ส่วนพวกฉันนี้สิ ยังไม่มีใครได้รับแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยซักคน (ได้บ้างตามที่ขอ ส่วนมากจะเป็นเมนูที่ชอบจริงๆ แล้วอยากทำเป็น)

 

เอ...บันทึกนี้น่ากลัวจะยาวไปแล้ว สรุปจบกันค่ะ ว่า...โอ้โฮเฮะ ฝีมือเราหรือนี่...เป็นเสือสิงห์ควงตะหลิวและทัพพีด้วยมือซ้ายนะเนี่ย แล้วเสน่ห์ที่จะเอามาใส่ตรงปลายจวัก หน้าตามันเป็นอย่างไร ก็ยังไม่รู้คำตอบเลย. ไม่เป็นไร แบบนี้ต้องมีตอนต่อๆ ไปค่ะ (เดี๋ยวทำได้ซักสิบเมนู จากเปลี่ยนอาชีพมาเปิดร้านอาหารตามใจตัวฉันเอง...)

รายการนี้ก็อร่อย...ชื่นใจค่ะ

หมายเลขบันทึก: 368556เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 23:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)
นาย ภูริภัทร พิริยสถิต

ไม่น่าเชื่อว่า แค่กระดาษที่มีวิธีการทำอาหารแค่แผ่นเล็กๆ จะทำอาหารได้ออกมาหน้าตาน่ากินขนาดนี้

ผมเห็นแล้ว น้ำลายไหลเลยครับ คุณน้า (ขอเรียกน้านะ เพราะผมพึ่งเข้ามหาลัยปี1เอง ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ฯครับ)

สวัสดีค่ะคุณ นาย ภูริภัทร พิริยสถิต

ยินดีค่ะ เป็นน้าเป็นอา (เอ๊ หรือจะเป็นป้ามากกว่ามั้ย  ลูกป้าอยู่ปีสองแล้วนี่นา) น้าเองก็กำลังเรียนรู้การทำอาหารอยู่เหมือนกันค่ะ อีกไม่นานก็จะ "ถอดบทเรียน" เรื่องนี้ที่นี่ค่ะ

ขอให้สนุกกับการใช้งานบล็อกเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ

สวัสดีครับคุณป้า เอ๊ย คุณน้าดาวลูกไก่

เห็นแล้วอิ่มเลย มีของหวานด้วย

ตามไปชิม แล้วก็กินๆๆ

สวัสดีค่ะลุงหมู ธ.วั ช ชั ย

นึกว่าใคร เปลี่ยนรูปแล้ว เท่ห์ดีค่ะ

ไว้เรียนรู้ได้ครบเจ็ดเมนูแล้ว ขอเชิญมาอยู่เชียงใหม่หนึ่งสัปดาห์ จะเลี้ยงวันละมื้อนะคะ ส่วนมื้ออื่นที่เหลือ...ฝากป้าเขี้ยว น้าอึ่ง น้องอิง พี่ ศน อ้วน พี่ครูเหมียว ฯลฯ ค่ะ

นาย ภูริภัทร พิริยสถิต

ขอบคุณครับ

ผมว่าเรียกน้าดีกว่า ต่อให้ลูกของน้าอยู่ปี2 ก็เถอะ

ผมมีแรงบัลดาลใจคือ จะเผยแพร่ข้อมูลต้นไม้จากหนังสือต่างๆน่ะครับ

ผมเห็นอยู่ของหนังสือพิมพ์สำนักหนึ่ง เขาอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของต้นไม้อย่างละเอียด

เหมือนที่คุณเก็บวิธีการทำอาหารจากนิตยสารต่างน่ะแหละครับ

สวัสดีคะคุณ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

ล้วนแต่ของชอบทั้งนั้นเลย เก่งจังนะคะ

ขอบคุณมากคะ

พี่ดาวคะ

ถึงแม้หนูจะกินข้าวเย็น พร้อมกับขนมไปมากมาย แต่ที่กินไปเมื่อกี้ มันย่อยไปหมดเมื่อได้เห็นภาพสปาร์เก็ตตี้ผัดกระเพาและกระท้อนลอยแก้วของพี่ค่ะ

มาเขียนอีกนะคะ บันทึกของกิน หนูชอบค่ะ :)

น้อง นาย ภูริภัทร พิริยสถิต

น้าจะรอติดตามเรื่องราวเรื่องเล่าเกี่ยวกับต้นไม้นะคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ เจ

ยินดีที่ได้รู้จักกันค่ะ

บันทึกตรงนี้เป็นมือใหม่หัดขับค่ะ ขออนุญาตนำตัวจริงเสียงจริง มาแนะนำนะคะ หนูรี คนทำขนม ค่ะ ตามอ่านบันทึกจนอิ่มอกอิ่มใจกันได้ที่นี่ค่ะ>>สารบัญบันทึกในบล็อก อาหารและขนม ค่ะ  (http://gotoknow.org/blog/naree-food/toc)

สวัสดีค่ะพี่ดาว

จะเข้ามาตั้งหลายครั้งแล้ว พักนี้ที่บ้านเข้าเน็ตไม่ค่อยได้เลยและก็อืดมาก(ไม่ได้ดั่งใจ)

จะมาชิมเมนูแสนอร่อยหน่อยค่ะ...อันนี้ของโปรดหนูรีเหมือนกันน่ะค่ะพี่ อยากกิน แต่ต้องรอกลับบ้านที่หาดใหญ่ก่อนที่นี่(บ้านสวน)หม้ายมี...อิอิ

คิดถึงค่ะ ขอให้มีความสุขทั้งครอบครัวน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง มะปรางเปรี้ยว

พี่รู้แล้วละค่ะว่าวิธีการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือ...การทำอาหารให้เป็น ค่ะ เป็นการถอดบทเรียนที่ ไม่รู้คิดได้อย่างไร ^^  สงสัยว่ามันอิ่มอกอิ่มใจ ได้กลิ่นอาหารฝีมือของเราเองแล้วชื่นใจ อร่อยแต่ไม่อยากทาน อยากให้คนอื่นทาน (ฮิฮิ)

หัดทำกับข้าวครั้งแรกๆ อยากให้อร่อยต้องเลือกเมนูที่เราชอบ แล้วเราจะสนุก สุขไปกับการลงมือทำ เพราะเราจะรู้ว่าความอร่อยอยู่ตรงระดับไหน แล้วจะหนักเบาเครื่องปรุงอะไร แหม คิดได้เหมือนกันนะพี่...(ให้กำลังใจตัวเองค่ะ)

สวัสดีค่ะ

P

หนูรี

 นั่นแน่ คิดถึงหนูๆ ก็มา คนนี้เลยค่ะคุณ เจ แม่ครัวหัวป่าก์ตัวจริง อร่อยจริง

อ่านบันทึกของหนูรีแล้วจะรู้สึกเหมือนมีกลิ่นหอมๆ หวานๆ อร่อยๆ ของอาหารและขนมอยู่ตรงหน้าเราค่ะ (พูดตามความรู้สึกจริงนะคะ)

มหา เห็นอาหารแล้วอดไม่ได้เลยแวะมาเยี่ยม

สวัสดีค่ะท่านมหา เหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์

ปลายจวักออกฤทธิ์เร็วจัง ฮิฮิ ขอบคุณค่ะ

พี่ต๋อยๆ  น่าทานมากๆ กระท้อนก็น่าทานค่ะ ....^^

ตอนที่เราอยู่หลังบ้านไม่เห็นทำอาหารแบบนี้เลยอะค่ะ  ไม่งั้นคงได้ชิมของอร่อยทั้งเสาร์อาทิตย์เลยนิ....อดเลยงานนี้

คราวหน้าต้องลองฝึกทำบ้างแล้วค่ะ  เคยทำแต่ ไวท์ครีมแฮมเห็ด เพราะน้องมี่ชอบทานจ้า....

 

สวัสดีค่ะน้องอิง ชาดา ~natadee

รายการอาหารนี้ พี่ไปเปิดครัวบ้านแม่ในเมืองค่ะ อยู่หน้าบ้านอิง ไม่มีแรงบันดาลใจ ฮิฮิ

มื้อดึกๆ นี้อิงอิ่มแล้วยัง ของพี่เรียบร้อยแล้วเนี่ยๆ ^^

 

  • พี่จ๊ะ..

สวัสดีพี่จ๊ะที่....(แม้แต่เจียวกระเทียมก็ยังไหม้ อิอิ)น่ารัก  ^^   ว้าว..ทำสปาเก็ตตี้ออกมาหน้าตาดีเหมือนคนทำเลยนะเนี่ย     หน้าตาดีแล้วอร่อยไหมเอ่ย?    แซว..ว..ว แซ๊ว   

เหมือนที่คุณแม่ของพี่จ๊ะบอกแร่ะเนอะ  ว่าเมื่อก่อนเวลาจะเตรียมของทำเมนูพิเศษๆ นี่ต้องใช้เวลานาน   แต่สมัยนี้เหมือนเราย่นย่อเวลาได้    อาจจะเพราะด้วยไลฟ์สไตล์ และด้วยความที่สมัยนี้อะไรๆ มันก็วิวัฒน์ไปหมด    การทำอะไรๆ เป็นต้นว่า ทำอาหารจานหนึ่งจึงไม่ต้องใช้เวลามากเหมือนเมื่อก่อน     อย่างน้องจ๊ะทำอะไรก็จะที่ลงท้ายด้วย...."---พริกไทยดำ"    ก็แค่เตรียมของอย่างง่ายที่มีในตู้เย็น กับซอสพริกไทยดำสำเร็จรูปเท่านั้น    รสชาติอาจจะไม่ได้ "เทพ"    แต่ก็ทำเองได้ในครัวเราค่ะ

ว่าแต่.. รูปทรงของคนทำขยายออกไหม?   เห็นช่วงนี้ขยันทำอาหารบ่อยนี่จ๊ะ  อิอิ 

น้องจ๊ะ...

เมื่อเช้านี้พี่ชั่ง น.น. ลดไปได้ตั้ง..0.6 นะ (ห้ามถามจำนวนจริง ฮิฮิ) เดี๋ยวมันก็จะลดลงเรื่อยๆๆ เพราะต่อไปนี้ พี่จะพยายามเน้นอาหารควบคุมน้ำหนัก

สัปดาห์นี้ พี่จะทำ (เรียน) ก๋วยเตี๋ยวหลอด หน้าตาแบบที่พี่เคยทานสมัยเด็กๆ รอลุ้นดูนะจ๊ะว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร  แต่รับรองความอร่อยชัวร์ๆ

  • พี่จ๊ะ..

วันนี้น้องจ๊ะทำหมูนุ่มมาให้เจ้ด้วย ^^  และกำลังหมกมุ่นกับเรื่องเล่าอาหารในบล็อกโอเคเนชั่นอยู่    ด้วยกำลังติดตามอ่านผลงานของผู้เขียนท่านหนึ่ง    เมามันมาก..ท้องร้องลั่นเลย ฮือๆๆ

ภูมิใจมากที่น้องจ๊ะตัวกลมๆ มากกว่าเดิมเยอะเลย (น่าภูมิใจตรงไหนเนี่ย?)    คนอะไรก็ไม่รู้สามารถทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่สามารถเอาออกได้ ฮือๆๆ   พี่จ๊ะมีวิธีเด็ดไหม?    แต่ขอเป็นวันอื่นนะ   เพราะเย็นนี้น้องจ๊ะอยากทานขนมปังปิ้งทาเนยนมข้นโรยหน้าโอวัลตินตามที่ผู้เขียนคอลัมน์ Foodie Favorite ประจำ นิตยสาร Gourmet & Cuisine แนะนำมา   อ้วนแบบริชชี่..ริชชี่ แน่ๆ   แต่ "ช่างมัน..ฉันไม่แคร์"

ช่วงนี้ทำไมผีแดจังกึมเข้าสิงพี่จ๊ะ..หือ???????    มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าจ๊ะ???????    ไว้ทำข้าวกล่องเมื่อไหร่จะโทรไปนัดให้ไปรับที่หน้าห้องสมุดนะจ๊ะ อิอิ

อ้อ..เย็นวันนี้อา(จารย์)จ๊ะเดินทางกลับมาเชียงใหม่แล้ว   เมื่อวานซืน..อา(จารย์)จ๊ะเกือบได้กอดครูพี่กั๊ตของท่านหัวหน้าฯ ด้วย    บุพเพอาละวาด..นั่งรถตามกันไม่รู้ตัว    เจ๋งไหมจ๊ะ..??? อิอิ  ในที่สุดพวกเธอก็ได้ป๊ะตัวกันเป็นๆ   

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท