เจาะไข่แดงสุดยอดและบักกอกสุดเจ็บ"ปะป๋า"ที่ใส่ในหัวแมวซ่าส์


แมวซ่าส์ย้ายเข้ามาอยู่ กทม.

ตามพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กจนชีวิตแทบเรียกว่าคน กทม.

 

ชีวิตแมวซ่าส์ในช่วงอายุน้อยจนประมาณ ม.3 แมวซ่าส์จะอยู่กับพ่อในตอนเช้า ก่อนไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนอยู่กับแม่เพราะตอนเช้าแม่ไปขายของตอนดึกหน่อยถึงจะได้อยู่พร้อมกันทั้งครอบครัวและลูกน้องพ่อ หากว่าพ่อไม่ทำงานไกลจนกลับดึกหรือพักที่แคมป์งาน ต้องบอกนิดนึงพ่อแมวซ่าส์เป็นกรรมกรรับเหมางานโครงสร้างเหล็กและต่อเติม จึงมีลูกน้องก็ไม่ใช่ใครหรอกครับน้องๆ พี่ๆ ของพ่อและแม่ คนนอกบางคนอยู่กันเป็นครอบครัวเดียวกัน เกริ่นนำพอเข้าใจ

 

แมวซ่าส์ยังจำได้ ตอนเช้าแมวซ่าส์ตื่นมาพ่อจะเป็นคนดูแลแมวซ่าส์ อาหารเช้าแทบทุกมื้อจะเป็นพ่อและลูกน้องเป็นคนดูแล ซึ่งคนอีสานต้องข้าวเหนียวแน่นอน จะทำอะไรละครับพ่อ "ไข่" ,"อาหารแห้ง","อาหารกระป๋อง",ยังจำได้ เมนูเด็ดแมวซ่าส์ที่พ่อทำให้คือ ทอดไข่ดาวแต่ไข่แดงไม่สุก ปั้นข้าวเหนียวร้อนๆ จิ้มตรงไข่แดงสุดยอดมากครับอันนี้แทบทุกเช้านี่คือการ "เจาะไข่แดง" เป็นอาหารที่พ่อบรรจงทำให้ลูกชายทั้งที่ไม่ถนัดทำอาหารแต่ต้องดูแลลูกชายในตอนเช้าเพราะแม่ต้องไปทำงานหารายได้เสริม

 

ทั้งๆที่บางวันเมาค้างจะแย่แต่ก็ต้องตื่นมาทำให้ลูก แต่เป็นลูกน้องหากตื่นสายก็ไม่ต้องกินไปทำงานเลย เสร็จแล้วแมวซ่าส์ก็สะพายเป้เดินไปโรงเรียนพ่อจะเอาเงินใส่กระเป๋าเสื้อให้ สิบบาท กินขนมกลางวันอาหารกินเป็นรายเดือนอยู่แล้ว และหากวันไหนแมวซ่าส์ทำอะไรเสร็จช้า ไม่เตรียมของทำการบ้านที่จะไปโรงเรียนให้เรียบร้อย และขอตังค์เพิ่ม สิ่งที่ตามมาเลยคือ "บักกอก" ทุกท่านหากไม่ใช่คนอีสานอย่าคิดว่า "มะกอก" ที่เราทานกันนะครับ แต่เป็น "เขกกะโหลก"ครับ เจ็บดิครับเลยเป็นการสอนให้แมวซ่าส์ทำอะไรต้องเตรียมตัวก่อนและต้องว่องไวทำอะไรเสร็จเร็วก็จะไปถึงโรงเรียนเร็ว พ่อก็ไปทำงานเร็วได้งานมากรายได้เยอะพอเลี้ยงแมวซ่าส์ได้
 
และการถูกบักกอกอีกคราวที่ยังพอจำได้คือการได้ไปเล่นที่ทำงานพ่อ จะว่าช่วยงานคงไม่ใช่ไปวิ่งเล่นมากกว่า อายุน้อยๆอาชีพที่ได้รับคือ "เด็กเดิน" เดินไปซื้อน้ำแข็งมาให้ลูกน้องที่ทำงาน เดินไปเอาของมาส่งให้ วิ่งเล่นแถวๆนั้น เขตก่อสร้างสิ่งอันตรายอันดับหนึ่งเลยตะปู เหยียบตะปูสิครับ ร้องสิครับเจ็บไม่ใช่ว่าจะปลอบนะครับ "บักกอก"นี่แหละครับ โดนครับซุ่มซ่ามเล่นไม่ระวังเป็นการสอนให้แมวซ่าส์ไม่ประมาทแต่ทุกวันนี้ก็มียังประมาทอยู่ดีที่พ่อไม่อยู่แล้วไม่งั้นโดน "บักกอก"อีก พอโตขึ้นอีกนิด ย้ายบ้านครับต้องนั่งรถเมถ์ครับตื่นเช้ากินข้าวไม่ทันครับ พ่อก็พาเดินไปป้ายรถเมถ์แล้วง่ายๆข้าวเหนียวหมูปิ้ง,นมกล่องกินบนรถ พ่อไปส่งจน ป.5 ให้ไปเองครับ
 
วันแรกก็ไม่บอกครับส่งขึ้นรถสายเดิมจำได้ว่า 63 ไปเองครับแต่พ่อก็ถามว่าจำอะไรได้เพราะทุกครั้งพ่อจะบอกว่าจำตรงนั้นไว้นะตรงนี้ไว้นะ ก็บอกว่า "การไฟฟ้าไม่เลยแยก" ก็ไปเองจากนั้น พอขึ้น จากนั้นมาแมวซ่าส์ก็ต้องไปเองดูแลอาหารเองเลยไม่กินข้าวเช้าเลยนี้กระมังคงเป็นสาเหตุให้แมวซ่าส์ตัวเล็กหนักแค่ 40 - 45 เอง พอโตระดับนี้แล้วจากไปวิ่งเล่นกลายเป็นฝึกหัดงานในวันหยุดหากแคมป์ทำงานไม่ไกล แรกก็เริ่มทาสีละครับตัดเหล็กละครับ ตัดเหล็กนี่แหละครับโดน"บักกอก"อีก พ่อชอบที่จะเอาแบบก่อสร้างมาให้แมวซ่าส์ดูและคำนวณวัสดุที่ใช้งาน เวลาให้ตัดเหล็กส่งให้ลูกน้องพ่อหรือพ่อเองหากไม่ดูแบบ,จำว่าทำตรงไหนก่อน,วัดขนาดก่อน,ตัดไว้รอ โดนอีกแล้ว

 

พอโตมาอีกทีนี้เริ่มโตครับไม่อยากไป ชอบหาเรื่องไม่ไปแต่ไม่รอดครับต้องไป คราวนี้ต้องทำครับ มันก็เริ่มเหมือนกับช่างแทบทุกคนแต่แมวซ่าส์เองเหมือนมันมีในสายเลือดแทบทุกอย่างที่ได้หัดแมวซ่าส์ใช้เวลาไม่นานก็เป็น ไม่ว่าจะเป็นงาน ปูน,ไม้,เหล็ก แต่จะถนัดที่สุดก็เหล็กแหละครับอาชีพหลักของพ่อจึงได้หัดทำบ่อย จนเป็นแทบทุกอย่างแต่ไม่ชำนาญ ชอบแอบหนีเที่ยว แต่ทุกวันนี้หากวันไหนต้องพาสมาชิกยาเสพติดทำแมวซ่าส์ก็ทำได้สบาย,ทำให้ดูได้,สอนได้ ตอนพ่อแมวซ่าส์จากไปใหม่ๆ ด้วยความซ่าส์ของแมวซ่าส์ก็เลยหยุดเรียนปี4 ไว้ก่อนมารับเหมาต่อจากพ่อ "เจ๊ง" ครับนี่คือการสอนของพ่อครั้งสุดท้ายแต่ทุกอย่างที่พ่อสอนนั้นเป็นประโยชน์ที่สุดครับทุกวันนี้แมวซ่าส์ ทำอะไรเป็นประโยชน์ได้บ้างทั้ง ,ความสามารถ,แนวคิด,วิถีชีวิต,การฝึกคน,การแข่งขัน,การให้ชีวิตรอด, พ่อแมวซ่าส์ให้มาทั้งนั้น แมวซ่าส์ยังไม่ได้ครึ่งพ่อเลย

 

ร่ายมาซะยาวทุกท่านอาจไม่เข้าใจแมวซ่าส์จะย่อให้เข้าใจว่า "เจาะไข่แดง" "บักกอก"สอนอะไรบ้าง ความเอาใจใส่,การเตรียมตัว,ความไม่ประมาท,รู้จักสังเกต,คิดเป็น,ทำเป็น,และที่สำคัญของคนที่จะสำเร็จประสบการณ์ที่ทำอะไรต้องเริ่มจากล่าง คือ พื้นฐานให้ดีแล้วเก็บประสบการณ์นำมาต่อยอดให้สำเร็จ อาจไม่จำเป็นต้องอย่างเดียวกับพ่อ แต่ขอให้สำเร็จก็ดีหมด พ่อเคยบอกว่า "สิเฮ็ดหยังฮู้จักเตรียมโต ฮู้จักคิดหัดเฮ็ดให้มันเป็นสิมาถ่าข่อยเฮ็ดหยังคั่นข่อยตายไผสิเลี้ยงเจ้า" แปลว่า จะทำอะไรรู้จักเตรียมตัวรู้จักคิดหัดทำให้เป็นจะมารอพ่อไม่ได้ถ้าพ่อตายใครจะเลี้ยง หากเราคิดสอนลูกหลานกันได้อย่างนี้และลูกหลานตั้งใจปฏิบัติสังคมคงดีขึ้น
สุดท้าย " พ่อแมวซ่าส์สุดยอด"

แมวซ่าส์

ภาพแมว search จาก google
หมายเลขบันทึก: 368837เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2010 07:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 22:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท