การทดลองสูบและปล่อยน้ำถูกดำเนินการไปแล้วเมื่อต้นฝนของปี นั่นแสดงถึงก้าวอีกขั้นของการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของคนในลุ่มเซบาย โดยเฉพาะคนตำบลสร้างถ่อน้อย แม้การทดสอบจะแสดงให้เห็นว่ามีการพังและรั่วของแนวส่งน้ำ ทำเอาน้ำล้นเข้านาจนเอ่อนอง และกบหลงเชื่อออกมามาร้องเรียกผสมพันธุ์ ใขขณะเดียวกันก็ประกาศความชุ่ยของผู้รับเหมาที่ฉาบแนวส่งน้ำอย่างมักง่าย จนแตกร้าวและรั่ว หลังจากเลิกทดสอบกบก็เพิ่งรู้ว่ามันไม่ใช่ฝน เป็นคนนั่นแหละทำขึ้น น้ำที่เอ่อนองก็แห้งหายไปพร้อม ๆ กับการทดลอง นี่ขนาดว่าเริ่มทดลองนะ ถ้าใช้งานจริงคงต้องมาลงที่ชาวบ้านอีกตามเคย การพัฒนาเชิงยัดเยียดแบบนี้ไม่สู้จะดีนัก ฝนเริ่มตกแล้วพันธุ์ไม้หลายชนิดจมอยู่ในน้ำอย่างถาวร ไม่รู้จนทนน้ำขังได้แค่ไหน ปกติพันธุ์ไม้เหล่านี้ทนได้ไม่นานแค่ระยะน้ำหลากเท่านั้น ไม่นานน้ำก็ลดลงตามธรรมชาติทิ้งไว้แต่ตะกอนดินสมบูรณ์ที่พัดมากับน้ำ บำรุงป่าทามต่อไป แต่การที่น้ำขังนานเป็นเดือนเป็นปีเช่นนี้คงไม่ดีแน่ สิ่งสำคัญที่เราต้องค้นหาคือ พันธุ์ไม้อะไรบ้างที่ได้รับผลกระทบ และจะหาทางอนุรักษ์มันไว้อย่างไรให้ลูกหลาน อย่างน้อยก็เหลือเก็บเป็นตำนาน ติดตามงานวิจัยป่าทามดงใหญ่ได้ที่ http://www.thai-nec.org ครับ
เข้ามาติดตามอ่านงานวิจัยค่ะ
ขอบคุณค่ะ