กระบวนการทางปัญญา
๑.ฝึกสังเกต
สังเกตในสิ่งที่เราเห็น หรือสิ่งแวดล้อม เช่น ไปดูนก ดูผีเสื้อ หรือในการทำงาน การฝึกสังเกตจะทำให้เกิดปัญญามาก โลกทรรศน์ และวิธีคิดสติ - สมาธิ จะเข้ามีผลต่อการสังเกตและสิ่งที่สังเกต
๒.ฝึกบันทึก
เมื่อสังเกตอะไรแล้วควรฝึกบันทึก โดยจะวาดรูปหรือบันทึกข้อความ ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ ละเอียดมากน้อยตามวัย และตามสถานการณ์การบันทึก เป็นการพัฒนาปัญญา
๓.ฝึกการนำเสนอต่อที่ประชุม
๔.ฝึกการฟัง
ถ้ารู้จักฟังคนอื่นก็จะทำให้ฉลาดขึ้น โบราณเรียกว่าพหูสูต บางคนไม่ได้ยินคนอื่นพูด เพราะหมกมุ่นอยู่ในความคิดของตัวเอง หรือมีความฝังใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเรื่องอื่นเข้าไม่ได้ ฉันทะ สติสมาธิ จะช่วยให้ฟังได้ดียิ่งขึ้น
๕.ฝึกปุจฉา-วิสัชนา
๖.ฝึกตั้งสมมติฐานและตั้งคำถาม
เวลาเรียนรู้อะไรไปแล้ว เราต้องสามารถตั้งคำถามได้ว่า สิ่งนี้คืออะไร สิ่งนั้นเกิดจากอะไร อะไรมีประโยชน์ ทำอย่างไรให้สำเร็จประโยชน์อันนั้น และมีการฝึกการตั้งคำถาม ถ้ากลุ่มช่วยกันคิดคำถามที่มีคุณค่า และมีความสำคัญ ก็จะอยากได้คำตอบ
๗.ฝึกการค้นหาคำตอบ
๘.ฝึกการวิจัย
การวิจัยเพื่อหาคำตอบเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทุกระดับการวิจัยจะทำให้ค้นพบความรู้ใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความภูมิใจ สนุก และมีประโยชน์มาก
๙.เชื่อมโยงบูรณาการ
๑๐.ฝึกการเขียนเรียบเรียงทางวิชาการ
ถึงกระบวนการเรียนรู้และความรู้ใหม่ที่ได้มา การเรียบเรียงทางวิชาการ เป็นการเรียบเรียงความคิดให้ประณีตขึ้น ทำให้ค้นคว้าหาหลักฐาน ที่มาที่อ้างอิงของความรู้ให้ถี่ถ้วนแม่นยำขึ้น การเรียบเรียงทางวิชาการ จึงเป็นการพัฒนาปัญญาของตนเองอย่างสำคัญ และเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ของผู้อื่นในวงกว้างออกไป อ้างอ้างอิงจาก : http://www.ku.ac.th/e-magazine/december44/know/iq.html