สวัสดีครับ
พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา ครับผม
วันนี้วันพุธแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีขาล
ตรงกับวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓ วันทำงานของพี่น้องอีกวันหนึ่ง
ขอให้มีความสุขและสนุกกับงานที่ทำทุกคนครับ
เมื่อคืนวานผมเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์หลายๆ
แห่งเพื่อจะหาข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับตำรวจมาเล่ามาเผยแพร่ให้พี่น้องได้รับทราบกัน
เปิดไปเปิดมาเจอเว็บไซต์หนึ่งนั่นก็คือ http://www.copthailand.com
ศูนย์กลางความรู้งานตำรวจเพื่อประชาชน
(Police Knowledge Society)
ภายในมีเนื้อหาอะไรต่อมิอะไรมากมายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเฉพาะกับตำรวจและพี่น้องประชาชนทั่วไปก็เลยขออนุญาตนำเรื่องราวส่วนหนึ่งในเว็บไซต์มาเผยแพร่กันต่อเพื่ออย่างน้อยที่สุดก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเก่าๆ
ในอดีตที่มีค่ายิ่งและแทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้วเรื่องนั้นก็คือ
"เครื่องแบบตำรวจในอดีต"
สำหรับเนื้อหาและภาพประกอบนั้นผมขออนุญาตนำมาจากผู้จัดทำทั้งหมดเลยทีเดียว
ไม่มีการต่อเติมหรือตัดทอนและก็ต้องขอขอบพระคุณผู้จ้ัดทำข้อมูลอันมีค่ายิ่ง
มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูงด้วย สำหรับข้อมูลที่กล่าวถึงมีดังนี้
การแต่งกายของตำรวจภูธรในปี พ.ศ.๒๔๔๐ คือ
สมัยรัชกาลที่ ๕ ตามบันทึกจากเอกสารการรายงานของพระยามหาอำมาตย์
ผู้แทนเสนาบดีเสนอพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๒๓
มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ตอนหนึ่งระบุว่า
พลตำรวจภูธรใช้เสื้อแบบราชการสีกากี
กระดุมแบบทองขาว อินทนูใช้ผ้าสักกลาดดำตัดเปนแผ่นกว้าง ๕
เซ็นติเม็ตร์พาดยาวตามบ่ากางเกงขาสั้นสีกากี หมวกทรงหม้อตาลสีกากี
กระบังหน้าหนังดำสายรัดคางใช้ด้ายขาวถัก คาดเข็มขัดหนังดำนอกเสื้อ
เหน็บดาบปลายปืน
นายสิบแต่งกายใช้เสื้อกางเกง
หมวกอย่างเดียวกับพลตำรวจ
ผิดกันแต่นายสิบตรีมีบั้งด้ายขาวถักติดแขนเสื้อเหนือข้อศอกซ้าย ๑ บั้ง
นายสิบโท ๒ บั้ง นายสิบเอก ๓ บั้ง จ่านายสิบ ๔ บั้ง
เครื่องแบบตำรวจประมาณปี
พ.ศ.๒๔๖๐
นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร์
แต่งกายในเวลาปรกติ เสื้อแบบราชการสีขาวแลสีกากี กระดุมทองขาว
กางเกงขายาวขาวแลสีกากี สรวมรองเท้าหนังดำหุ้มข้อเท้า
หมวก ทรงหม้อตาลสีขาวแลสีกากี
กระบังหน้าหนังดำ สายรัดคางเงิน มีตราอาร์มแผ่นดินติดที่หน้าหมวก
คาดเข็มขัดในเสื้อ เหน็บกระบี่ยาว ภู่กระบี่เงิน ส่วนอินทนูถ้าเปน
ฝ่ายประจำการใช้สังกะสีตัดเปนแผ่นยาวตามบ่าย่อมุม ๒ มุมทางต้นบ่า
หุ้มสักลาดดำ มีแถบเงินกว้าง ๑ เซ็นติเม็ตร ขลิบริม ๓
ด้านตั้งแต่ต้นบ่ามาปลายบ่า ถ้าเปน ฝ่ายพนักงานใช้สังกะสีตัดเปนแผ่นย่อมุมทั้ง
๔ มุม หุ้มผ้าสักกลาดสีดำ มีแถบเงินกว้าง ๑ เซ็นติเม็ตร ขลิบริมทั้ง ๔
ด้านติดขวางบ่า
เครื่องแบบตำรวจประมาณ
พ.ศ.๒๔๗๐
เครื่องแบบตำรวจลำปางปี
พ.ศ.๒๔๗๒
นายร้อยตรีประจำการ จักร์ชุบทองติดบนปลายอินทนู
ๆละ ๑ จักร นายร้อยตรีพนักงาน มีจักร์ชุบทองติดบนกลางอินทนูๆ ละ ๑
จักร นายร้อยโท ๒ จักร นายร้อยเอก ๓ จักร
นายพันตรี นายพันโท นายพันเอก
ใช้อินทนูและติดจักร์เครื่องหมายยศวิธีเดียวกันกับนายร้อย
แต่มีแถบเงินกว้าง ๑
เซ็นติเม็ตร์ทาบบนกลางอินทนูตามอินทนู
นอกจากนี้ยังแยกเป็นแต่งครึ่งยศ(เสื้อขาว
กางเกงสักกหลาดดำมีแถบขาวด้านข้าง) , แต่งครึ่งยศใหญ่(เสื้อสักหลาดดำ) ,
แต่งเต็มยศดำ(ใช้หมวกแฮลเม็ดมีตราอาร์มแผ่นดินเงินดวงใหญ่ติดหน้าหมวก)
และแต่งเต็มยศขาว(ใช้เสื้อสีขาว หมวกแฮลเม็ด)
ปี พ.ศ.๒๔๕๒
มีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นแบบพระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวทหารบกคือ
พลตำรวจใช้หมวกทรงหม้อตาลสีเทา
มีตราประทุมอุนาโลมติดหน้าหมวก(เดิมพลตำรวจไม่มีหน้าหมวก)
เสื้อรูปกระสอบสีเทา คอพับ
กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินแก่ อินทนูผ้าสักกะลาดสีเทา
มีเลขหมายราบตามทหารบกในมณฑลนั้นๆ ติดบนปลายอินทนู
คาดเข็มขัดหนังสีเหลืองนอกเสื้อ
เหน็บดาบปลายปืน
นายสิบตรี
นายสิบโท นายสิบเอก มีบั้งเช่นเดิม
นายตำรวจสัญญาบัตร์ เสื้อแบบราชการสีเทา คอพับ
ใส่กระดุมแบนในสาบเสื้อ มีพระเกี้ยวชุบทองติดที่พับคอเสื้อข้างละ ๑
คู่หากเป็น "ประจำการ"
หรือมีดอกจันทน์ชุบทองติดที่พับคอเสื้อข้างหน้า ๑
คู่ หากเป็น "พนักงาน"
เครื่องแบบตำรวจปี
พ.ศ.๒๔๘๓
ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๕๘
สมัยรัชกาลที่ ๖
จึงมีพระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวตำรวจภูธรขึ้น
หมวดที่ ๒
ว่าด้วยเครื่องแต่งตัวตำรวจภูธร
มาตรา ๔ เครื่องแต่งตัวนายสิบตำรวจภูธร
พลตำรวจภูธรให้มีดังนี้
หมวกทรงหม้อตาลสีน้ำตาล
มีแถบดำรอบขอบหมวก สายรัดคางหนังดำ มีตราประทุมอุณาโลม
เสื้อแบบราชการสีน้ำตาล กางเกงอย่างกว้าง ขาสั้นสีน้ำตาล ,
อินทร์ ธนูรูป ๔ เหลี่ยมรีกว้าง ๕
เซ็นติเมเตอร์ หุ้มผ้าสีดำ ต้นแผ่นเปน ๓ เหลี่ยม
ติดตามตรงบ่าตั้งแต่คอไปหาไหล่ ผ้าพันแข้งสีน้ำตาล ,
รองเท้าสีน้ำตาล
จ่านายสิบนั้น
ให้ใช้หมวกทรงหม้อตาล มีกระบังดำ กับใช้เสื้อแบบราชการสีขาวได้
จ.ส.ต.โต ทะนันชัย ตำรวจ
สภ.ต.แม่ปิง เชียงใหม่ ปี พ.ศ.๒๔๘๖ กระดุม ๗ เม็ด หน้าหมวกเป็นอุณาโลม
มีรัศมีโดยรอบ
มาตรา ๗ เครื่องแต่งตัวตำรวจภูธรชั้นนายร้อย
นายพัน ให้มีดังนี้
หมวกทรงหม้อตาลสีน้ำตาล มีกระบังสีดำ
มีแถบผ้าสักกระหลาดดำ พันรอบขอบหมวก สายรัดคางหนังดำ
มีตราประทุมอุณาโลมติดที่หน้าหมวก
เมื่อใช้เสื้อสีใดต้องใช้ปลอกหมวกสีนั้น , หมวกกันแดดสีน้ำตาล มีตราประทุมอุณาโลม
สายรัดคางหนังดำ แถบผ้าสักกระหลาดดำ พันรอบหมวก
หมวกแฮ็ลเม็ดสีน้ำตาล
มียอด มีโซ่รัดคาง มีตราที่หน้าหมวกทำด้วยเงิน
มีแถบสักกระหลาดดำพันรอบหมวก เสื้อแบบราชการสีน้ำตาล
ปลอกคอและข้อมือสีดำ
มีขลิบแถวเงินกว้าง ๑ เซ็นติเมเตอร์ที่ปลายคอ ๑ เส้น ที่ข้อมือ ๒ เส้น
, กางเกงผ้าขาสั้นสีน้ำตาล กางเกงสักกระหลาดสีน้ำตาลขาสั้นหรือขายาว
มีแถบสีดำกว้าง ๕ เซ็นติเมเตอร์ติดที่ตะเข็บขากางเกงข้างนอก
ผ้า พันแข้งสีน้ำตาล สนับแข้งสีน้ำตาล
รองเท้าสีน้ำตาลหุ้มข้อเท้า
ในเมื่อเวลาใชกางเกงขาสั้นให้ใช้ผ้าพันแข้งหรือสนับแข้งสีน้ำตาลหรือจะใช้
รองเท้าสูงแทนสนับแข้งก็ได้
เครื่องหมายตำแหน่งดูจากบนอินทร์ธนูที่บ่า
ยศนายร้อยตำรวจตรี นายพันตำรวจตรีและนายพลตำรวจตรีมีจักร์ ๑ จักร
, นายร้อยตำรวจโท
นายพันตำรวจโทและนายพลตำรวจโท มีจักร์ ๒ จักร , นายร้อยตำรวจเอก นายพันตำรวจเอก นายพลตำรวจเอก
มีจักร์ ๓ จักร (มาตรา ๑๒ ข้อ ๒) นอกจากนี้บนกลางอินทร์ธนูหากเป็นตำรวจหัวเมืองให้ติดเลขหมายมณฑล
หากประจำการตำรวจภูธรให้ติดพระมหามงกุฎ
(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๓๒ หน้า
๓๙ วันที่ ๔ เม.ย.๒๔๕๘)
ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๗๗
มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบตำรวจอีกครั้งหนึ่งแบ่งเครื่องแบบเป็น ๕ ประเภท คือ เครื่องปกติ
, เครื่องหัด ,
เครื่องสโมสร , เครื่องเต็มยศขาวและเครื่องเต็มยศ
เครื่อง ปกติ หมวกทรงหม้อตาลสีกากี
กะบังหน้าหนังสีดำ มีสายรัดคางหนังสีดำ กว้างหนึ่งเซ็นติเมตร
มีดุมสีดำขนาดเล็กติดข้างละหนึ่งเม็ด
ที่ด้านหน้าหมวกติดตราทำด้วยโลหะสีเงินเป็นรูปอุณณาโลมอยู่กลางจักร
รอบนอกวงจักรมีลายเปลวในรอบวงจักรมีอักษรว่า "พิทักษ์สันติราษฎร์" นอก
จากนี้ให้มีหมวกกันแดดสีกากีและมีตราติดหน้าหมวกลักษณะดุจเดียวกับตราติด
หน้าหมวกทรงหม้อตาล ให้ประกอบกับเสื้อแบบราชการสีกากีและกางเกงสีกากี
แต่จะใช้เมื่อใดให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะกำหนด
นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
ให้ใช้หมวกกันแดดสีขาวและมีตราติดหน้าหมวกดั่งกล่าวแล้วในวรรคก่อนใช้ประกอบ
กับเสื้อแบบราชการสีขาวและกางเกงสีขาวได้ด้วย
เสื้อแบบราชการ
ผ้าหรือสักหลาดสีกากี มีดุมที่อกเสื้อเจ็ดดุม
มีกะเป๋าเย็บติดภายนอกข้างขวาและข้างซ้ายข้างละสอง
เป็นกะเป๋าบนและล่างอย่างละสอง กะเป๋าบนมีใบปกรูปมนชายกลางแหลม
มีแถบเย็บติดตรงกึ่งกลางตามทางดิ่ง
กะเป๋าล่างเป็นอย่างย่ามมีใบปกรูปตัด
ทั้งสี่กะเป๋ามีรัดดุมที่ใบปกสำหรับขัดดุมซึ่งติดอยู่ตรงปาก
กับมีอินทรธนูสีเดียวกันกับเสื้อเย็บเป็นแผ่นเหลี่ยมเรียวทางด้านไหล่ไปทาง
ด้านคอติดอยู่เหนือบ่าทั้งสองข้าง ด้านทางไหล่กว้าง ๓.๕ เซนติเมตร
เย็บกับตะเข็บเสื้อ ด้านทางคอกว้าง ๒.๕ เซนติเมตร
ปลายมนและขัดดุมด้วยวิธีเจาะเสื้อสอดก้านดุมลงไปติดควงภายในเสื้อ
ดุมทั้งสิ้นที่กล่าวมาแล้วมีลักษณะกลมมนทำด้วยวัตถุสีน้ำตาล
กางเกงทำด้วยผ้าหรือสักหลาดสีกากีขายาว พับปลายขา
ส่วนนักเรียนนายร้อยตำรวจ
นายดาบตำรวจหรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรให้ใช้กางเกงขายาวสีขาวพับปลายขา
ประกอบกับเสื้อสีขาวได้ด้วย
กับให้มีกางเกงทำด้วยผ้าหรือสักหลาดสีกากีชะนิดขาสั้นหุ้มเข่า
ใช้ประกอบกับเสื้อแบบราชการสีกากีในเวลาขี่ม้า
หรือในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะกำหนดให้
อนึ่งเมื่อใช้กางเกงสีกากีชะนิดขาสั้นดั่งว่านี้ต้องใช้ผ้าพันแข้งสีกากี
หรือสนับแข้งสีน้ำตาลประกอบกับรองเท้าบู๊ตทำด้วยหนังสีน้ำตาล
และถ้าเป็นนักเรียนนายอร้อยตำรวจ นายดาบตำรวจ
หรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร จะใช้ทอปบู๊ตหนังสีน้ำตาลก็ได้
หัวหน้าจราจร กก.ภ.จว.เชียงใหม่
(มิถุนายน ๒๔๙๕)
เครื่องแบบตำรวจปี
พ.ศ.๒๔๙๕
เครื่องแบบนายตำรวจประมาณปี
พ.ศ.๒๕๐๐
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่ผมนำมาเสนอให้ทราบวันนี้คงจะเกิดประโยชน์กับทุกท่านอยู่พอสมควร และท้ายที่สุดนี้ผมขอขอบพระคุณ http://www.copthailand.com อีกครั้งหนึ่ง
รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ
สวัสดีครับผม
ตามมาเรียนรู้เครื่องแบบตำรวจไทยครับ...
ตำรวจไทยมีความกล้ามากค่ะ
ชอบอาชีพตำรวจมาก