.......................................................................................................................
http://gotoknow.org/profile/kandanalike
..............................................................................................................
รายการเจาะโลกฯ
ขอบคุณมากค่ะกับบันทึกเปรียบเทียบที่เป็นจริงที่สุดของที่สุด!!!!
ถึงจะเครียดแต่ก็ยังแทรกอารมณ์ขันเล็กๆนะคะ
*** แม้จะมีการบ่นรำพึง-รำพันปะปนบ้าง แต่ก็ได้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์อันยั่งยืนต่อมวลมนุษย์นะคะ ***
...ให้ไป ๔ ดาวใหญ่กับอีก ๑ ดาวเล็กแล้วกัน อิอิอิ !...
ป๊ะคะ ไม่ได้เยี่ยมป๊ะนาน มาครานี้ สะใจเลยคะ ความคิดของป๊ะทั้งหมด ที่ว่ากล่าวภูมิปัญญาไทย โดยฉพาะพืชผักในสวนนาไร่เรา สามารถนำมาเป็นยาสมุนไพรได้ บรรพบุรุษแต่โบราณของเราเขาอยู่กันมาได้อย่างไร ก็เพราะเขามีภูมิปัญญาเอาตัวรอดเนื่องจากมีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรนี่เอง พอลูกหลานเป็นไข้ สะดวกซื้อไปหาหมอ แทนที่จะใช้ภูมิปัญญาที่มีอยู่ นี่แหละทุนนิยม วัตถุนิยมจริงๆๆๆ สุก็อยากแนะนำ ให้ชาวบ้านระดับรากหญ้า นำภูมิปัญญามาใช้บ้าง เช่นน้ำยาไร่แมลง หรือน้ำยาปุ๋ยชีวภาพ จะได้พืชปลอดสารพิษจริงๆๆ
-แต่ทุกวันนี้ คนเริ่มหันมาสนใจ สมุนไพรแล้วนะคะ เป็นอาหารเสริม มาทำสปาขัดผิว สารพัด ที่จะนำมาทำและโฆษณา สงสารป๊ะ สมัยก่อน โชว์ออกบู๊ท ก้นยังไม่หันมามอง เพราะความไม่เชื่อถือ และไม่นิยม
-ป๊ะเขียนได้สะใจจริงๆๆ เป็นความที่ อ่านไปแดกดันไป ไม่ดันทุรังเพราะ มันเป็นเรื่องจริง สุก็ขอสนับสนุน บทความของป๊ะคะ
-และก็ขอชื่นชม คุณกานดาจริงๆๆ คะ ที่พยายามจะนำน้ำมันมะพร้าว มาเป็น มาทำอาหาร แม้แต่บริโภคเพื่อการลดความดัน คุณกานดาตั้งใจมากเลยคะที่จะเป็นสื่อกลาง ให้คนหันมาใช้ เพื่อลดความดัน พิเศษ ทาผมให้เงาดำ ทาผิวกันแตก สุดยอด 2 ท่านมารวมกัน จะปานไหนคะ
-ขอบคุณนะคะ ที่ป๊ะเข้าไปเยี่ยมสุ จินตนาการแบบเตลิดเปิดเปิง เบาๆๆสมองคะป๊ะ
ประโยชน์ของต้นมะพร้าว อีกรูปแบบหนึ่งคะป๊ะ
เมื่อสิบปีที่แล้ว ผมพบกับชาวบ้านปลูกข้าวปลอดสาร ข้าวเป็นโรคเขาล่ามควายให้กินข้าวจนเตียนแล้วปล่อยให้ขึ้นใหม่
พวกที่ปลูกข้าวปลอดสารถูกชาวบ้านบอกว่าบ้า แต่ต่อมาอีกประมาณ 3 ปี เขาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าว 3 เท่าตัวราคาปกติ
ข้างกล้องโรงสีมือโยก จึงหวนกลับมาสู่หมู่บ้าน ผู้เขียนนำนักเรียนไปช่วยดำนาประเพณีลงแขกดำนา
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณก่อนเลย ที่มาเล่าเรื่องราวที่ดีๆอย่างนี้
สมุนไพรไทยตอนนี้กลับมาเป็นที่ต้องตาต้องใจของทุกคนแล้วครับ
ต่างก็ตระหนักถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย
ผมเชื่อว่ายังมีคนที่ดีๆอย่างนี้อยู่ในสังคมไทย
เป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ สู้ๆๆ ครับ
สวัสดีค่ะท่านเบดูอิน
มหัศจรรย์มากน่ะค่ะ พลังแห่งมิตรภาพ รู้มั๊ยค่ะ หนูรีกำลังอ่านบันทึกของท่านเบดูอินอยู่น่ะนี่ ...แว็ปมุมล่างจอคอมฯ แจ้งมีข้อความใหม่ถึงคุณ ....เปิดมาเจอท่านน่ะเนี่ย ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะท่านเบดูอินมานึกถึงภูมิปัญญาไทยถ้าไม่ช่วยกันก็ไปหมดหายหมดแน่ๆ พืชผักพื้นบ้านเด็กๆสมัยนี้แทบจะไม่รู้จัก..ที่โรงเรียนเคยศึกษา..ผักขี้ขวง..ผักที่ขึ้นตามทุ่งนา..รสชาติขมเล็กน้อยคะ..(หาภาพไม่ทัน) สมัยนี้เด็กๆบอกไม่เคยกิน และไม่รู้จัก..ก็มีแต่ภาพให้ดูแล้วเขาจะได้ชิมรสชาติเมื่อไหร่นะถ้าเรายังไปซื้อผักในห้างดังมาทำอาหาร อิอิ..บ่นไหมนี่..ต้องอนุรักษ์พันธุกรรมพืชในโครงการสวนพฤกษศาสตร์ของสมเด็จพระเทพฯ นะคะท่าน
สวัสดีค่ะ
ตั้งใจอย่างมากครับ ที่อ่านทีละอักษรเคลื่อนไหล ขอบพระคุณมากครับ ....
ขอบคุณค่ะที่แวะเยี่ยมชม ดีค่ะเลิกบุหรี่ได้ สุขภาพดีและคนรอบข้างก็สุขภาพดีด้วย
ท่านเบดูอิน
ใช่เลยค่ะ ถ้าเราหันกลับมาใช้วิถีชีวิตแบบสมัยก่อน ปลูกผักปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ลดความฟุ่มเฟือย มีจิตอาสา ใช้หลักศาสนา
ชีวิต/ชุมชนน่าอยู่
สวัสดีค่ะคุณเบดูอิน
มาส่งกำลังใจค่ะ
มาชวนไปเยี่ยมบันทึกที่พี่น้องGTKได้เจอกันค่ะที่นี่นะคะ...http://gotoknow.org/blog/0815444794/373325
มาตายี
ภูมิปัญญาไทย มีทั้งกลับมาและหายไป ต้องช่วยกัน รักษาไว้ทุกๆเรื่องที่เราทราบนะคะ แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่มีใครสืบทอดจากบรรพบุรุษของตัวเอง น่าเสียดาย เพราะไม่ได้หัดไม่ได้เรียน ไม่จดเก็บไว้ ฯอย่างเช่นความรู้ภูมิปัญญาไทย จากเตี่ยพี่ดา นี่เอง เช่น อาหาร แกงบวน โบราณ ขนมจีนน้ำพริก -น้ำยา ที่มีสูตรเฉพาะ แสนอร่อย แกงกะท้อนใส่กบ ขนมไทยๆที่มี เคล็ดลับเฉพาะ มากมาย การทำข้าวหมาก การจับปลาโดยสารพัดวิธี ฯลฯ ยื่งเด็กๆรุ่นหลังๆที่อยู่ในเมือง ให้เรียนกันอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร ก็ได้ความรู้ที่ครูสอนเท่านั้น การแยกย้ายอยู่คนละที่กับ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกหลานไม่ได้รับการสอนบอกกล่าว ให้รักษาไว้ นานๆไปพบๆก็ไม่ได้ที่การสอน มากที่เดียวนะคะ
หาความรู้กันในนี้ไม่ได้ปฏิบัติจริง
สวัสดีครับ ท่านพี่ วันนี้ยาวเลย ... ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า เวลานี้หลายคนรวมทั้งตัวผม ยังอยู่ที่บางพลัด แต่พอมาอ่านข้อเขียน ก็ให้สติว่า อ้อ เราน่าจะถึงบางอ้อตั้งนานแล้ว...เราคนไทย มีภูมิปัญญา มีวิถีที่ดีงามของเรา แต่กลับโดนความรู้ยัดเยียดแห่งกระแสแห่งทุนนิยมจนซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกทัศน์... การจะขยับก็ไม่ใช้เรื่องง่าย แต่ก็มีทางทำได้ ...
ภูมิปัญญาไทย...คือ ทางออกของชีวิต
ผมยังเชื่อเช่นนั้นครับ..
และพยายามเรียนรู้ที่จะเป็นเช่นนั้น
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับเมื่อวานผมมีธุระทั้งวันกลับดึกด้วยครับ ผมสัญญาว่าจะกลับมาตอบทุกท่าน อ่านเมนท์ทุกท่านแล้วครับ
ไปศึกษาโลกกว้าง แบบเป็นคนโง่อยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปเอวัง " ไอ้โง่เอ้ย..ภูมิปัญญาของเรานะดีที่สุดแล้ว" ... จริงๆ ด้วยค่ะป๊ะ
ฝ่ายใดก็ได้ที่ยืนอยู่ข้าง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่นำพาชาติไปสู่ทุนนิยมแบบบ้าคลั่ง สนใจในภูมิปัญญา ไม่โกงไม่กิน ผมอยู่ข้างนั้นแหละครับ
แหม ใจตรงกันอีกแล้วป๊ะ นี่ ถ้าแต่จะสิ้นเดือนกรกฎ อีกแล้ว ความลับยังไม่เผยเลย ๕ ๕
สวัสดีครับท่านเบดูอิน
ไม่ได้แวะมาทักทายท่านนานมากแล้วได้แต่ผ่านไปมาโดยไม่ทิ้งร่องรอย(ยืมคำคุณครูดาวเรืองมาใช้ครับ)
งานนี้ต้องแวะครับ เพราะเห็นด้วยกับท่านเบฯ อย่างแรงนิ
ผมเองนิยมชมชอบพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านมาก เพราะปลอดสารฆ่าแมลงทานได้ทุกประเภท แต่มีเทคนิคตอนเก็บเอาตามข้างทางครับ ต้องเก็บส่วนที่อยู่สูงกว่าเอวมาทาน.......ฮิ.ฮิ.....กลัวมีใครไปยืนเยี่ยวลดไว้นะ......ฮา...
คุณกานดานี้ น่าจะตั้งให้เป็นเจ้าแม่สมุนไพรนะครับท่านเบฯ ล่าสุดนี้ท่านส่งดอกกระทือไปฝากให้ผมดูที่บล็อกสี่ดอกนี้ครับ
ผมเห็นแล้วนึกขำตัวเองว่าไปไล่ถ่ายดอกไม้สวยๆที่อื่น แต่แถวบ้านมีดอกกระทืองามๆไม่เคยถ่ายไว้สักภาพ
เจ้าดอกกระทือนี้ถือเป็นพืชสมุนไพรทียอดเยี่ยมครับต้นยำทำแกงจิ้มน้ำพริกหร่อยแรง แถมมีสรรพคุณดังนี้ครับทำยาบำรุงธาตุ แก้บิด ขับปัสสาวะ แก้จุกเสียด ผู้หญิงหลังมีบุตรทานแล้วจะทำให้เกิดน้ำนมครับ
ดอกกระทือกับดอกไพลจะคล้ายกันมากครับสังเกตุดีๆจะเห็นว่าดอกกระทือมีเกล็ดซ้อนกันอย่างที่เห็น ส่วนดอกไพล เก็ดจะเป็นรูปกึ่งสามเหลี่ยมคล้าวเก็ดปลาซ้อนกันครับ บางท่านไม่เคยสังเกตุอาจเข้าใจผิดได้ เพราะทั้งต้น ทั้งดอกคล้ายกันทุกอย่าง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ