แวะไปตรังเมื่อวันอาสาฬหบูชา เพื่อรำลึกอดีต สมัยยังเยาว์วัย ผ่านทางลำภูรา จะได้แวะซื้อขนมเค็ก แต่จริงๆ ชอบขนมอื่นด้วยเช่นขนมจีบใส้สังขยา ขนมพริกไทย และขนมเกลียว แวะหาเพื่อนน้องที่บ้านผมเด็น กะจะได้ดูนกในสวน ปล่าวหรอก ลืมไปว่าสวนพืชเชิงเดี่ยวแบบปาล์ม ยางพารา หาดูนกยาก
กลับออกมาแวะกินขนมปากหม้อแบบของตรังแถวตลาดหน้าโรงเรียนวัฒนาศึกษา ที่มีน้ำแดงๆ แบบน้ำจิ้มขนมจีบเมืองตรัง ก็ยังอร่อย
แวะไปโรงเรียนสมัยประถม ก็เปลี่ยนไปมากเลย อะไรๆ ดูเล็กกว่าเดิม (แน่แหละตอนนั้นยังเด็กนี่นา) ยังมีอาคารเรียนเดิมอยู่ แต่สนามหญ้าเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำ ต้นไม้ก็หายไปเยอะ ตั้งแต่ต้นตะขบต้นใหญ่ ต้นนำเต้าอินเดีย ต้นหูกวาง ก็เดินรำลึกความหลังกันสักพักก็กลับ ไม่เจอใครที่รู้จักแล้ว ครูที่สอนเราก็คงเกษียณอายุกันไปหมดแล้ว
ขากลับแวะบ้านเกิด ต้องเรียกว่าบ้านเกิดจริงๆ เพราะเราเกิดกันที่บ้านกับหมอตำแยทุกคน (สี่คน) ที่บ้านพักในวิทยาลัยเกษตรตรัง ก่อนถึงลำภูรา บ้านหลังที่เราเกิดไม่มีแล้ว เลยเข้าไปชมบรรยากาศภายใน บ้านพักหลังอื่นๆ ยังเหมือนเดิม แต่เก่ามากแล้ว สหกรณ์ข้างบ้านก็ยังอยู่ วนไปดูโรงรถ ที่ตอนเช้าเราต้องแวะมาขึ้นรถที่นี่ทุกวัน แถมยังต้องคอยเข็นรถให้รถสตาร์ทให้ติดเป็นประจำ
แวะไปเรื่อยๆ บรรยากาศเงียบ ดูเหมือนเมืองร้างเลย ก็ดีเงียบอย่างนี้คงมีนกให้ดู แล้วก็เจอนกสีน้ำตาลบินผ่านหน้าไปเกาะอยู่ที่ต้นเงาะ ส่องไปดู ดีใจจังเหมือนนกตบยุงที่เคยอยากเห็นเลย แต่ยังแยกไม่ออกว่าเป็นชนิดไหน มันนั่งนิ่งดีจัง
เสร็จแล้วแวะไปที่บริเวณใกล้ๆ กับศาลากลางน้ำเก่า แต่ตอนนี้ก็ไม่มีศาลาแล้ว มีแต่บัวหลวงแน่นบึงไปหมด
ต้นไม้แถวนั้นโตดี ลงไปเดินรู้สึกถึงความเย็นฉ่ำ
แต่สักพักฝนก็ตก ไม่ทันได้ดูอะไรมาก ตกไม่นาน พอฝนหยุดก็เห็นนกหัวขวานด่างแคระ สองตัว นอกนั้นก็ได้ยินแต่เสียงนกไกลๆ ท้องฟ้าค่อนข้างครึ้ม ดูอะไรไม่ค่อยชัด จากนั้นก็กลับ ขากลับฝนตกหนักมาก
สวัสดีครับครับน้องจิน แถวๆลำภูรา ที่เขาระเบิดเขา มีวรรณกรรมยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง เล่าถึงการระเบิดเอามาเขียนเป็นเรื่องสั้น "ชื่อบาดแผลของภูผา" คนเขียนเป็นนักการศึฏษา นามปากกา ญิบ พันจันทร์ ท่านจรัญ พาพเพียร มีหลายเรื่องชอบทุกเรื่องในเล่มนี้
อ้อขอฝากตำบลที่ขึ้นต้นด้วยคำว่านาในเมืองตรัง ของ ณัฐกานต์ ลิ่มสถาพร (คนกันเอง)เขียนเป็นกวีตามอ่านที่นี้ครับ
โดยคำว่านา ในเมืองทับเที่ยง(ตรัง)
โดยเฉพาะตบยุงเล็ก ซึ่งกลางคืน..ดึกดื่น มักจะได้ยินเสียงร้องอยู่เสมอ มิได้ขาด