vanillawara
นางสาว วราภรณ์ (บุ๋ม) ด่านศิริ

ร้านตูกะสู ร้านสเต็กที่เกิดจากอิสระและความเป็นตัวของตัวเอง


"อิสระ" เป็นหนึ่งในรูปแบบความคิด ที่ผลักดันชีวิตเรา

สวัสดีตอนบ่ายค่ะ ผู้อ่านและสมาชิกชาว G2K ทุกท่าน

          จากความตั้งใจของฉัน ที่อยากจะทำการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีรูปแบบความคิด (Mental model) อย่างจริงจัง อาจารย์ที่ปรึกษาจึงได้แนะนำให้ฉันเริ่มต้นทำการเก็บข้อมูล โดยวิธีการสัมภาษณ์นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ที่มีรูปแบบความคิด ความเชื่อที่น่าสนใจ อย่างน้อย 100 ท่าน ในวันนี้ ฉันจะขอนำเสนอบทการสัมภาษณ์แรก ที่ฉันได้ลองลงมือจริง ยังไงก็ฝากแนะนำติชมด้วยนะคะ ^^

          ชุดคำถามที่ฉันตั้งขึ้นมาเพื่อถามหารูปแบบความคิด หรือความเชื่อ ที่เป็นแรงผลักดันให้บุคคลหนึ่งๆ เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนบรรลุผลประสบความสำเร็จ เริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ 5 ข้อ ดังนี้

1. ขอให้ท่านเล่าเหตุการณ์ครั้งที่ท่านรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง หรือรู้สึกประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตมากที่สุด ? 

2. ขอให้ท่านเล่าเหตุการณ์ครั้งที่ท่านรู้สึกภาคภูมิใจ หรือรู้สึกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากที่สุด ?

3. ขอให้ท่านเล่าถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน หรือ จุดพลิกผันในชีวิต ที่ทำให้ชีวิตท่านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความหมาย มีศักยภาพมากขึ้น ? 

4. จากจุดเปลี่ยนหรือจุดพลิกผันนั้นๆ ท่านคิดว่าสาเหตุ หรือ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นั้นมาจากสิ่งใด ?

5. อะไร คือ สิ่งที่ท่านรู้สึกว่าเป็นความสุขที่สุดในชีวิตตอนนี้มากที่สุด ?

              หากท่านผู้อ่านคิดว่าฉันควรเพิ่ม หรือปรับเปลี่ยนคำถามตรงจุดไหนบ้าง ขอคำแนะนำด้วยนะคะ จะเป็นการช่วยเหลือฉันอย่างมากเลยค่ะ ^^

              ในการสัมภาษณ์ครั้งแรกนี้ ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับ พี่เอมมี่ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสเต็กบรรยากาศตกแต่งสไตล์คลาสสิก ชื่อร้านตูกะสู ที่ฝั่งกังสดาล ผู้ซึ่งผันตัวเองจากการเป็นแผนกครัวในร้านอาหารไทยที่อังกฤษ มาเป็นพนักงานฝ่าย Reception ที่โรงแรมในภูเก็ต จนมาเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารของตัวเอง จากการสัมภาษณ์ได้ผลสรุปดังนี้

     

    พี่เอมมี่ เจ้าของร้านตูกะสู

              สิ่งที่พี่เอมมี่รู้สึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ตัวเองรู้สึกภาคภูมิใจและประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิต คือ การสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับแม่ ซึ่งสร้างจากเงินเก็บที่เป็นน้ำพักน้ำแรงของตนเองทั้งสิ้น โดยความรู้สึกที่พี่เอมมี่ภาคภูมิใจที่สุดในครั้งนั้น คือ การได้ทดแทนพระคุณของแม่ และการให้โดยที่แม่ไม่ได้เรียกร้องขอ อีกทั้งได้ลบแรงต้าน ที่คนรอบข้างได้สบประมาทไว้

               เหตุการณ์ที่พี่เอมมี่รู้สึกประสบความสำเร็จในการทำงานมากที่สุด คือ การได้มีโอกาสไปทำงานและหาประสบการณ์ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ ที่เป็นความใฝ่ฝันของพี่เค้าตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนสัมภาษณ์วีซ่า เหตุการณ์โดยรวมมีแนวโน้มว่าทางสถานทูตจะไม่อนุญาตให้ไป แต่พี่เอมมี่ก็ได้แสดงความตั้งใจ ความเชื่อ ความใฝ่ฝัน และความรักในงานบริการ แม้ในตอนนั้นจะยังมีปัญหาในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษอยู่มาก จนในวินาทีสุดท้ายวีซ่าก็ผ่าน ทั้งๆที่ในเหตุการณ์เดียวกันนี้ไม่มีใครเคยผ่านได้ในการสัมภาษณ์ครั้งแรกเลย

              จุดพลิกผันครั้งสำคัญในชีวิตของพี่เอมมี่ เริ่มจากการต้องกลับมาจากอังกฤษ เนื่องจากวีซ่าหมดอายุ พร้อมกับปัญหาด้านสุขภาพ และความต้องการกลับมาดูแลแม่ ทำให้พี่เอมมี่เข้ามาสมัครทำงานฝ่ายต้อนรับในโรงแรมห้าดาวที่ภูเก็ต และทำงานมาเป็นเวลาหลายปี จนได้พบกับพี่เทิด พี่เอมมี่แต่งงานตอนอายุ 39 พี่เทิดอายุ 40 ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานครั้งแรกของทั้งคู่ หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เริ่มรู้สึกว่า านลูกจ้างที่ทำงานภายใต้ความกดดันตลอดเวลา การทำงานกับคนที่หลากหลายความคิด ความเชื่อ ทำให้ชีวิตทั้งคู่เกิดจุดอิ่มตัว ในการทำงานเป็นลูกจ้าง ทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกัน

    ร้านสเต็กตูกะสู

              ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดครั้งใหญ่นั้น เริ่มจากสิ่งที่เรียกว่า “อิสระ” พี่เอมมี่รู้ตัวว่าในชีวิตข้างหน้า การใช้ชีวิตอย่างอิสระและทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด

    ภายในร้านอากาศเย็นสบาย และเปิดเพลงฝรั่งยุค 70

              ในปัจจุบันนี้ ความสุขที่สุดของชีวิตพี่เอมมี่ คือ การไม่เจ็บป่วย มีสุขภาพแข็งแรงดี

    การตกแต่งภายในร้านตามความชอบส่วนตัว

              จากการสรุปสิ่งที่ผลักดันชีวิตพี่เอมมี่ หรือ รูปแบบความคิดที่กระตุ้นให้เกิดศักยภาพในแง่บวกของพี่เอมมี่ มีดังต่อไปนี้ “การทดแทนพระคุณแม่” “ความเชื่อมั่นใจและพยายามบรรลุความใฝ่ฝัน” และ “ความรู้สึกมีอิสรภาพ”

    บรรยากาศภายในร้าน มีการใช้เทียนหอมเพื่อสร้างบรรยากาศ

              และฉันได้ข้อสรุปเกี่ยวกับทฤษฎีความสุข (Happynomics) เพิ่มขึ้นอีกว่า ความสุขในแต่ละช่วงชีวิตของมนุษย์จะแตกต่างกัน แล้วแต่สถานการณ์และสภาวการณ์ของคนแต่ละคนในช่วงเวลานั้นๆ แต่สิ่งที่เรียกว่า “สันติสุข” ต่างหาก ที่จะทำให้เราเกิดความอบอุ่นใจไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร แนวคิดสันติสุขที่ว่านี้ ฉันได้เรียนรู้จากรุ่นพี่คริสเตียนที่โบสถ์ ที่บอกว่าสันติสุขในใจของคริสเตียนมาจาก ความเชื่อพระเจ้า แล้วสิ่งที่เรียกว่า “สันติสุข” หรือ “ความสุขในทุกสถานการณ์” ของทุกท่านล่ะคะ เกิดจากสิ่งใดบ้าง ขอเชิญแบ่งปันเต็มที่เลยนะคะ ^^

    ผู้ช่วยสัมภาษณ์ของฉัน มีถาดน้ำประจำที่พี่เอมมี่เตรียมไว้ให้ลูกค้าที่พาเพื่อนสุนัขมาด้วย ที่ร้านนี้รักสุนัขทั้งพี่เอมมี่และพี่เทิดเลยค่ะ ^^

              บทความ และ บทสัมภาษณ์ของฉันเป็นอย่างไร ฉันอยากขอให้ผู้อ่านแนะนำติชมเพื่อเป็นคำแนะนำในการทำงานครั้งต่อไปด้วย ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมากๆนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^

    หากท่านสนใจไปใช้บริการร้านตูกะสู ร้านตั้งอยู่ที่ริมบึงหนองแวงตราชู ฝั่งกังสดาล บริเวณข้างมหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ ^^

    หมายเลขบันทึก: 379212เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2010 14:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (0)

    ไม่มีความเห็น

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท