หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

GTK Camp IV (ตอน ๓)


        ค่ายคราวนี้มีทีมไปทั้งหมด ๗ คน

        ผมและพี่คิมในฐานะที่เคยมือกันมาก่อน เพราะจัดค่ายด้วยกันมาแล้ว ๓ ครั้ง เรียกได้ว่ามองหน้าก็รู้ใจ จึงเป็นหลักในการจัดกระบวนการเรียนรู้ทั้ง ๓ วัน

        พี่แมว และทีมงานที่เหลือคอยช่วยเหลือและอยู่ร่วมกระบวนการเรียนรู้ไปกับน้อง ๆ ตลอดทั้ง ๓ วันเช่นกัน

        ค่ายเริ่มขึ้นก่อนอาหารกลางวันเล็กน้อย เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจเบื้องต้นกับบรรดาเยาวชนในหมู่บ้านที่มาเข้าค่ายฯ ก่อนที่จะไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านจำปา ทั้งทีมวิทยากรและเยาวชนที่เข้าค่ายฯ แล้วกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อล่วงบ่ายไปพักใหญ่

        เยาวชนที่มาเข้าค่ายมีทั้งนักเรียนจากโรงเรียนในหมู่บ้าน และนักเรียนที่ออกไปเรียนนอกชุมชนแล้วกลับเข้ามาหมู่บ้านเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว กลุ่มที่เข้าค่ายจึงหลากหลายตั้งแต่เด็กประถมไปยันเยาวชนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษา ทั้งนี้มีชัย ประธานกลุ่มเยาวชนวัย ๒๐ ปลาย ๆ มาร่วมเรียนรู้ด้วยตลอดกระบวนการ

        เยาวชนในหมู่บ้านคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีกิจกรรมสานความสัมพันธ์ กิจกรรมสันทนาการในช่วงแรก ๆ จึงมีวัตถุประสงค์เพียงแค่ลดช่องว่างระหว่างทีมวิทยากรกับเยาวชนที่เข้าร่วม รวมทั้งเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน

        ค่ายฯ นี้เป็นครั้งที่สองที่ผมหยิบเอากีต้าร์มาปัดฝุ่น นำมาใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมสันทนาการในค่ายฯ เป็นเพราะหยุดเล่นไปนานมาก ๆ และมิได้มีฝีมือขั้นที่จะเล่นอย่างมืออาชีพที่ไม่ต้องใช้หนังสือที่มีเนื้อและคอร์ดเพลง จึงต้องซักซ้อมก่อนหน้าเล็กน้อย พอให้นิ้วที่จับคอร์ดขยับได้คล่องแคล่วขึ้น ที่ลำบากก็คือนิ้วที่ร้างลาการกดสายตีต้าร์ไปนานทำให้ความด้านหนาของจมูกนิ้วหายไป การเล่นกีต้าร์ต่อเนื่องไม่กี่เพลงนิ้วเหล่านั้นก็ช้ำระบม

        เพลงหากินที่ใช้ในค่ายนี้มีไม่กี่เพลง เพลงแรกคือ “ลูกหมูใส่รองเท้า” เคยได้ยินไหมครับ เป็นเพลงที่น่ารักมาก แต่งเนื้อร้องและทำนองโดยวงสองวัย เป็นเพลงค่ายฯ ที่ส่วนใหญ่รู้จักกันดี เนื้อเพลงเป็นแบบนี้ครับ 

ในเช้าแจ่มใสวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันน้ำนอง   ลูกหมูก็อยากจะลอง ก็อยากจะลองเล่นโคลน
แต่แล้วก็ต้องคันเท้า พยาธิไชเข้าเท้ามัน    ลูกหมูคิดได้เร็วพลัน จึงต้องป้องกันทันที 
จึงทำร้องเท้าด้วยไม้ ร้อยเชือก ด้วยสายชั้นดี    เร็ว ๆ มาช่วยกันสิ จะได้ของดีเสียงดัง
ก่อบ กิ๊บ ก่อบ.. ก่อบ กิ๊บ ก่อบ.. ก่อบ กิ๊บ ก่อบ..    กิ๊บ ก่อบ กิ๊บ ก่อบ กิ๊บ ก่อบ... 
ฟังๆๆ เสียงฉันเดินสิ ฟังๆๆ เสียงฉันเดิน    ฟังๆๆ เสียงฉันเดินสิ...ก่อบ ก่อบ ก่อบ

        นอกจากนั้นก็ยังมีเพลงที่เด็ก ๆ รู้จักและร้องได้อีกบางส่วน เช่น ถึงเพื่อน ตลอดเวลา น้ำตาแม่ ทะเลใจ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ได้หนังสือเพลงเป็นตัวช่วยครับ...

        เยาวชนที่นี่กับที่ไหน ๆ ก็น่าจะเหมือนกันครับ ชอบร้องเพลง ผมเองก็สนุกไปด้วยเล่นกีต้าร์แล้วไม่ค่อยอยากจะเลิกทั้งที่นิ้วระบมไปหมด

        ผมชวนเยาวชนเรียนรู้เรื่อง “คำถาม” หลังจากพี่คิมนำเล่นเกมและแจกลูกปัดให้เยาวชนสะสมไว้แลกของรางวัล

        กิจกรรมเริ่มจากการแบ่งกลุ่มโดยให้ชัยประธานกลุ่มเยาวชนบ้านห้วยปลาหลดเป็นผู้จัดให้ ผมบอกกับชัยว่าให้แต่ละกลุ่มคละกันมีทั้งเก่งและอ่อนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน กระจายคนเก่ง ๆ ไปไว้ทุกกลุ่ม

        กิจกรรมแรกเป็นการให้เยาวชนแต่ละกลุ่มสัมภาษณ์ทีมวิทยากร แล้วให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอ จากนั้นก็มอบหมายให้แต่ละกลุ่มสกัดเอาคำถามออกมาจากความรู้ที่ตนได้รับจากการสัมภาษณ์นั้น แล้วส่งตัวแทนออกมานำเสนออีกรอบ

        ผมมีหน้าที่รวบรวมและขมวดชนิด/ประเภทของคำถาม แล้วสรุปปิดท้ายให้

        น่าประหลาดใจมาก ๆ ที่เยาวชนเหล่านี้เรียนรู้หลักการเกี่ยวกับคำถามได้ดีมาก ๆ เรียกได้ว่าดีกว่าทุกค่ายที่ผมจัดมาโดยใช้เนื้อหาและกระบวนการแบบนี้ คงไม่ต้องบอกว่าผมปลื้มเพียงใด...

        เราพักกิจกรรมไว้ตอนราว ๕ โมงเย็น และได้นัดเยาวชนพบกันอีกครั้งที่บ้านผู้ใหญ่บ้านตอน ๑ ทุ่ม

        พวกเราทีมวิทยากรออกจากบ้านจำปาไปยังบ้านผู้ใหญ่ซึ่งอยู่ห่างกันราว ๕๐๐ เมตร และกว่าเยาวชนจะมารวมกันได้ก็เกือบสองทุ่ม

        บ้านผู้ใหญ่ที่ใช้จัดกิจกรรมในค่ำคืนนี้ พวกเราชอบกันมาก ๆ เพราะนั่งคุยกันรอบเตาไฟ อากาศภายนอกค่อนข้างหนาวแต่ภายในอบอุ่นจากเตาไฟ ภายในมีแสงสว่างจากหลอดไฟที่ได้พลังงานจากแผลโซลาเซลขนาดใหญ่ที่ต่อมาจากโรงเรียน ช่วงนี้โรงเรียนหยุดเราจึงมีไฟฟ้าใช้อย่างเหลือเฟือ

        ช่วงค่ำมีเยาวชนมาเพิ่มจากช่วงบ่ายเกือบเท่าตัว ทีแรกว่าจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง แต่ก็เกรงว่าผู้มาใหม่จะตามไม่ทัน จึงเปลี่ยนเป็นการสรุปความรู้ที่ได้จัดกิจกรรมในภาคบ่ายแทน

        ผมมอบหมายให้เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในภาคบ่ายเป็นผู้สรุปการเรียนรู้ให้เพื่อน ๆ ผู้มาใหม่ฟัง แล้วผมก็สรุปปิดท้ายให้ ตามด้วยการเล่นกีต้าร์ปิดท้าย

        กิจกรรมวันนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ครับ บันทึกหน้าผมจะเล่าต่อจากนี้ครับ

หมายเลขบันทึก: 382145เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2010 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ

ขำกลิ้ง...สองงอ (งง) ผมและพี่คิมในฐานะที่เคยมือกันมาก่อน...อะไรหว่า ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ

พี่คิมยังเขียนเล่าได้ไม่ถึงครึ่งเพลง  เรื่องสำคัญ ๆ เอาไว้ตอนหลังและถอดบทเรียนการเข้าค่าย...หลังสุดเลยดีกว่า 

อยากเล่าอะไร ๆ ก็เล่าไปก่อนเถอะ

มาบอกอีกครั้งว่า "มีข่าวดี" แล้วแต่ใช้กำลังภายในไปเยอะทีเดียว  จะไปเลี้ยงฉลองที่กระบี่นะ  และใช้หนี้ค่าจักรยานอีก

ไม่มีอะไรผิดหรอกแต่ขำคำว่า..เคยมือกันมาก่อน...เห่ออออ

เรื่อง เขาะจา...และภูมิหลังเขียนยากจัง  อยากจะไปตามเก็บอีกทีก่อนดีไหม  น่าจะได้อะไรอีกมากกว่านั้น

  เรียนท่านหนานเกียรติที่นับถือ

     บรรยากาศเป็นกันเองดีนะคะ ดูเด็กๆผ่อนคลาย และมีความสุข ขอให้มีความสุขและสนุกกับการทำงานนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ

กิจกรรมน่าสนใจดีค่ะ

สวัสดีครับ พี่ครูคิม

ผมว่าจะทยอยเอาเรื่องที่ส่งให้พี่คิมมาลงในบันทึกหนะครับ
เรื่องการจัดเล่มค่อยไปคุยกันอีกทีในหมู่บ้านนะครับ

 

สวัสดีครับ คุณยาย

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
ค่ายฯ สนุกมาก ๆ ครับ ทั้งเด็กและพวกเรา
มีโอกาสคราวหน้าไปด้วยกันสักคร้ังนะครับ
รับรองจะติดใจครับ

 

สวัสดีครับ คุณครูสุ [IP: 202.143.143.162]

ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยม ตามอ่านอีกนะครับ

 

สวัสดีค่ะ

วันนี้จะไปทำบุญ  เพราะไม่ชอบทำบุญวันพระค่ะคนเยอะแล้ว  เมื่อานมีน้องที่โรงเรียนร่วมมาคนละร้อยสองร้อย ได้เยอะจัง  เขาบอกอยากสบายเหมือนครูคิมค่ะ 

ความจริงก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาชอบอะไร ๆ เหมือนที่เราชอบหรอกนะคะ  อาหารทำเองตั้งแต่เช้าแล้ว  เงินที่เหลือก็เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ายาพระไป

สวัสดีจ้า

  • เข้ามาคัดลอกเพลงไปให้เด็กๆที่โรงเรียนร้องน่ะ สนุกดี
  • คิดถึงนะจ๊า
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท