การประกอบพิธีกรรม เป็นความเชื่อของกลุ่มคนที่มีความคิดเดียวกัน รักและศรัทธาแบบเดียวกัน ซึ่งถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพื่อความสงบ และอยู่ร่มเย็นเป็นสุข คนบางกลุ่มถือว่าการประกอบพิธีกรรมเป็นการขจัดสิ่งเลวร้าย ปกป้องภัยอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งถือเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ชาวลาหู่ที่บ้านห้วยปลาหลด มีพิธีกรรมที่ถือเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ประจำปีคือ“เข๊าะจา” ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวบ้านร่วมกันประกอบพิธีกรรมสำคัญในครอบครัวและทั้งหมู่บ้าน อันหมายถึงการเฉลิมฉลองความสำเร็จ ความอุดมสมบูรณ์ของการได้ผลิตผลในครัวเรือน และขอขมาต่อสิ่งศักด์สิทธิ์ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับกระบวนการผลิตในปีใหม่ที่จะถึงนี้ คล้ายกับเทศกาลปีใหม่ของชาวไทย
ชาวบ้านทุกคนมีความสุขและตั้งใจเตรียมการเพื่อประกอบพิธีกรรมนี้ เป็นการล่วงหน้าประมาณ ๑ เดือน สมาชิกในครอบครัวช่วยกันเตรียมตัดไม้ที่ผุพังมาทำฟืน การตัดเย็บชุดใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัว การเร่งเก็บเกี่ยวพืชไร่ หากยังไม่แล้วเสร็จก็จะชะลอไว้ก่อนจนกว่าพิธีกรรมนี้จะผ่านไป
วันสำคัญได้เริ่มขึ้นในวันแรม ๑๐ ค่ำเดือน ๑๒ พิธีกรรม “ค๊ะกวู” เพื่อเป็นการส่งเคราะห์ส่งผีของชาวบ้านทุกครัวเรือนต้องมาร่วมกันประกอบพิธี โดยนำอาหารไปวางที่ “โค๊ะคาปิ” ทั้งสอง แต่ทั้งนี้ปู่จารย์จะต้องเป็นผู้วางก่อนชาวบ้าน และทำพิธีไล่ผีมาตั้งแต่บ้านปู่จารย์ถึงลานจะคึ ร่วมกับหมอผีอย่างน้อย ๒ คน เมื่อปู่จารย์สวดเสร็จแล้ว ชาวบ้านที่เป็นผู้หาม โค๊ะคาปิ” ละ ๑ คู่ จะนำโค๊ะคาปิวิ่งวนลานดิน ๗ รอบ และออกประตูแยกย้ายกันไปทางด้านทิศเหนือ ๒ คนและไปทางทิศใต้ ๒ คน เรียกว่า “นีอ่อคืว” วันนี้ผู้ชายจะมารวมตัวกันฆ่าหมูที่บ้านปู่จารย์ ส่วนผู้หญิงช่วยกันทำเครื่องใน แยกขาหมูทั้งสี่และหางหมูไว้ต้มกินในวันรุ่งขึ้น
วันถัดมาคือวันแรม ๑๑ ค่ำเดือน ๑๒ ชาวบ้านจะจัดเตรียมครกเพื่อตำข้าวปุ๊ โดยเป็นครกที่สะอาด มีฝาปิด ไม่แตก ไม่มีผึ้งหรือนกเข้าไปทำรัง หรือแม้แต่สุนัขไปปัสสาวะรดก็ต้องห้าม และครกจะต้องนำไปรอไว้ที่บ้านมีห้องผีเท่านั้น ห้ามเคลื่อนย้ายตลอด ๔ วันด้วย นอกจากนี้ต้องช่วยกันไปหากาบไผ่สำหรับมารองวางข้าวปุ๊ ขณะที่ กำลัง “เป๊อะ” กาบไผ่อยู่บนหลังห้ามปัสสาวะโดยเด็ดขาด ในวันนี้มีพิธีกรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “เข๊าะ-ต่อ” ที่ลานจะคึ เพื่อเป็นการขอขมาในการกระทำผิดโดยไม่เจตนา ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและอัปมงคลให้ออกไปจากหมู่บ้าน และไม่ให้ผีมารบกวนในวันทำพิธีกรรม รวมทั้งเป็นการเตรียมพร้อมต้อนรับปีใหม่และสิ่งดีงามที่จะก้าวมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า
ในวันนี้ปู่จารย์จะเรียกลูกบ้านมาประชุม มีมติตกลงเรื่องการเก็บเงินเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีกรรม ส่วนแม่บ้านจะนึ่งข้าว แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนคือเป็นเครื่องเซ่นไหว้ห้ามกินก่อนจนกว่าจะเสร็จพิธี และอีกส่วนหนึ่งสำหรับเลี้ยงชาวบ้านให้กินได้ นอกจากนี้แม่บ้านจะต้องฟั่นเทียน เสร็จแล้วนำมาจับกันเป็นคู่ ๆ ๔ คู่ หรือ ๗ คู่เป็นสำคัญ พ่อบ้านหรือผู้ชายทำหน้าที่ล้มหมูที่บ้านปู่จารย์เหมือนพิธีอื่น ๆ และทำพิธีที่บ้านปู่จารย์ของแต่ละป็อก นำหมูไปแจกจ่ายตามบ้านเรือนเพื่อนำไปต้มกินเป็นอาหาร ตอนค่ำมีการเต้นจะคึจนกว่าเทียนที่เตรียมมาจะหมด
เคล็ดลับในการจุดเทียนที่ลานจะคึในวันนี้ เริ่มแรกจุดเทียนจำนวน ๗ คู่ ๔ คู่ ต่อด้วย ๒ คู่ แล้วเต้นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเลิกต้องจุดเทียนเพียง ๔ คู่เท่านั้น และเต้นวนกลับออกไปทางซ้าย ๗ รอบจึงหยุดเต้น
วันแรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ก่อนจะถึงวันเริ่มเทศกาล ๒ วัน เช้าวันนี้จะมีพิธีกรรมที่บ้านปู่จารย์ พ่อบ้านจะไปช่วยกันล้มหมูที่บ้านปู่จารย์ แล้วก็แบ่งเนื้อหมูไปตามบ้านเรือนที่เป็นลูกบ้านของปู่จารย์ ลูกบ้านที่ได้รับหมูแล้วก็จะนำไปต้มแล้วนำไปประกอบพิธีกรรมที่ห้องผีภายในเรือน
วันนี้ชาวบ้านแต่ละครอบครัวจะคั่วงา ตำข้าวปุ๊คลุกกับงา โดยตำที่นอกชานบ้านและนำไปปั้นที่หน้าห้องผีด้วย จะปั้นเป็นก้อนกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมหรือเป็นแบบแท่ง แล้วนำข้าวปุ๊ไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนบ้านครอบครัวอื่น ซึ่งจะต้องเป็นครัวเรือนที่มีห้องผีเท่านั้น ตอนบ่ายจึงไปรวมกันที่ลานจะคึ
วันรุ่งขึ้น วันแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ อาจมีการตำข้าวปุ๊ต่อ และตัวแทนในครัวเรือนจะนำฟืนไปมอบให้กับคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนฟืนระหว่างครัวเรือนที่มีห้องผีด้วยเช่นกัน
วันแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๑๒ เป็นต้นไปตลอดทั้ง ๔ วัน จะเป็นช่วงเวลาของเทศกาล “เข๊าะจา” ที่สำคัญที่สุด ชาวบ้านจะไปช่วยกันซ่อมลานจะคึ และเต้นจะคึในตอนบ่าย เต้นแบบโต้รุ่งไปถึงเช้าของวันใหม่
วันแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ แต่ละครอบครัวจะส่งสมาชิกในบ้านไปรดน้ำดำหัวเพื่อนบ้าน และไปร่วมกันเต้นจะคึ แบบโต้รุ่งเช่นเดียวกับคืนก่อน
วันขึ้น ๑ เดือน ๑ ซึ่งเป็นวันที่สามของเทศกาลเข๊าะจา ช่วงเช้าจะก็เป็นการออกไปรดน้ำดำหัวเพื่อนบ้านแล้วไปรวมกันเต้นจะคึที่ลานเช่นเดียวกับวันก่อน แบบโต้รุ่งเช่นเดียวกับสองคืนที่ผ่านมา
วันนี้มีพิธีที่สำคัญและสนุกสนานอีกพิธีหนึ่งคือ “จะบูถี” เป็นการขึ้นไปเต้นจะคึบนชานเรือนของชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีความต้องการจะประกอบพิธีนี้ ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมพิธีนี้ ๒ – ๓ ครอบครัว โดยเป็นการเต้นแบบรุนแรง รวมพลังกันกระทืบเพื่อให้นอกชานพังทลายจึงจะหยุด เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เจ้าของบ้านมีพลังใจในการต่อสู้ทำมาหากินให้เจริญรุ่งเรือง ภายหลังเมื่อเรือนพังแล้วเจ้าของบ้านจะทำการต้อนรับชาวบ้านที่มาร่วมพิธี โดยการกินหมู และซ่อมบ้านให้เสร็จในวันเดียวกัน
เมื่อเสร็จพิธี “จะบูถี” ที่กำหนดไว้ทุกบ้านแล้ว จะพากันกลับไปเต้นจะคึแบบโต้รุ่งอีกวันหนึ่ง นับเป็นวันที่ ๓ ของการเต้นจะคึแบบโต้รุ่ง
วันขึ้น ๒ ค่ำเดือน ๑ จะเป็นวันสุดท้ายของเข๊าะจา ชาวบ้านจะมาทำพิธี “จะบูถี” กระทืบบ้านของปู่จารย์ในตอนเช้า เมื่อบ้านปู่จารย์พังเรียบแล้วก็จะไปเต้นจะคึที่ตลอดคืนสุดท้ายนี้จนถึงเช้าของวันใหม่
เมื่อผ่านพ้นไปพิธีกรรมของทั้ง ๔ วันแล้ว ชาวบ้านจะพักผ่อนอยู่กับบ้านเรือนของตนเองอย่างมีความสุข เป็นอันสิ้นสุดพิธีในเทศกาลเข๊าะจา
การเต้นจะคึในวันสำคัญ จะต้องแต่งกายประจำเผ่าเท่านั้น ไม่มีการเต้นโลดโผนแหวกแนวนอกรีต นอกรอย แกว่งเสื้อโยนผ้า ก่อกวน เตะขาเตะแข้งกัน และไม่เคยปรากฏวีรกรรรมเกี่ยวกับอาวุธต้องห้ามใด ๆ แม้ว่าจะเต้นจนโต้รุ่งก็ตาม แบบนี้น่าจะเรียกว่าเป็น "ความงดงามของวัฒนธรรม" และความมีระเบียบทางสังคมที่น่าชื่นชม
ติดตามรายละเอียดต้นฉบับที่นี่ค่ะ http://gotoknow.org/blog/kgeneral/382803
เพิ่งกลับมาถึงบ้านครับ
ไปห้วยปลาหลดรอบหน้าจะเจาะลึก "จะบูถี" ครับ
สวัสดีค่ะ
ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและการประกอบพิธีกรรมของชาวลาหู่ ครูคิมบันทึกได้ละเอียด เป็นระบบ ขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ระลึกถึงครูคิมเสมอค่ะ
ติดตามอ่านตลอดค่าพี่คิม....
ได้รายละเอียดลึกเลยนะคะ
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
ต้องเข้ามาอ่านอีกรอบนะคะ เพราะมีการเขียนต่อท้าย ๆ ค่ะ "จะบูถี" ยังต้องเรียนรู้อีกนะคะ
ขอขอบคุณกับต้นฉบับค่ะ ตกหล่นตรงไหนต่อเติมด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะน้องธนิตย์ สุวรรณเจริญ
ข้อสงสัยว่า "ทำไม" ยังไม่เป็นคำตอบที่ถูกต้องค่ะ ต้องไปเรียนรู้อีกหลาย ๆครั้ง ภาษาออกเสียงยากค่ะ
สวัสดีค่ะน้องรักครูใจดี
พี่คิมรู้สึกเป็นห่วงน้องมากนะคะ ขอให้ปาฏิหารย์มีจริง น้องจะได้หายขาดจากโรคภัยทุกอย่างนะคะ สาธุค่ะ
พี่คิมพยายามมากในการเล่าบันทึกนี้ เราช่วยกันเล่ากับน้องหนานเกียรติด้วยค่ะ
ขอขอบคุณน้องที่มาติดตามอ่านค่ะ
สวัสดีค่ะน้องติ๋มKanchana
พี่คิมกับน้องหนานจับมือกันว่า...เราจะต้องทำงานของเราให้สำเร็จตามตั้งใจค่ะ ขอขอบคุณน้องติ๋มที่มาติดตามอ่านค่ะ
นอนหลับฝันดีนะคะ ลืมบอก..."พี่คิมมีข่าวดี" แล้วนะคะ
สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima
บันทึกนี้ยากค่ะ เพราะไม่อยากเขียนเรื่องเดียวหลายตอนค่ะ ยังมีเรื่องเล่าต่อไปอีกนะคะ ขอขอบคุณกับแรงเชียร์ค่ะ
แอบมาอ่านเรื่องน่าสนใจยามดึกๆ
สงสัยเจ้าของบ้านหลับไปแล้ว ฝันดีนะคะ
สวัสดีค่ะพี่คิม
แวะมานี่ทีไร ได้รู้จักคำแปลกเยอะแยะทุกทีเลยค่ะ
ได้ความรู้ด้วย พี่คิมสบายดีน่ะค่ะ..ที่โน้นฝนตกรึปล่าวค่ะ
ที่ระนองตกหนักมากๆๆๆๆๆเลยคะ
สวัสดีค่ะน้องเอื้องแซะ
ติดตามอ่านเพิ่มเติมจากบันทึกของน้องหนานเกียรติอีกนะคะ พี่คิมถอดความรู้มาจากบันทึกของน้องหนานเกียรติ และเพิ่มเติมข้อมูลที่พอรู้ค่ะ
สวัสดีค่ะมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
นอนดึกจังนะคะ พี่คิมนอนไม่ดึค่ะถ้าเป็นวันทำงาน เล่าเรื่องแบบนี้ยากนะคะ กลัวสื่อไม่รู้เรื่อง และกลัวผิดพลาดจากความเป็นจริง ที่สำคัญอ่านลายมือตัวเองไม่ออก
น้องหนานเกียรติเรียบเรียงมาให้ก่อน พี่คิมต่อเติมจากที่จดบันทึกมาค่ะ
สวัสดีค่ะน้องครูบันเทิง.com
น้องคงสบายดีกับการไปได้ไปอยู่โรงเรียนใหม่นะคะ พี่คิมสบายดีค่ะ ฝนตกทุกวันเหมือนกัน แต่ฝนหยุดอากาศก็ร้อนมากค่ะ
อันที่จริงดิฉันก็เป็นลาหู่ดำ แท้ๆเลยนะแต่ไม่ค่อยได้สนใจทหเวปอะไรแบบนี้แต่ก็ดีที่มีคนสนใจเว็ปของคนเผ่าจริงแล้วเขาะจ้าหมายถึงว่า เขาะหมายถึง ปี จ้าหมายถึงกิน คือสรุปแล้วหมายความว่า กินข้าวใหม้ หรือเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือข้าวใหม่เพราะว่าช่วงเดือนตุลานั้นข้าวเริ่มเกี่ยวแล้วและไม่ใช่แค่ข้าวนะสามารถนำผักพริกสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดถวายแด่พระเจ้าด้วย เมื่อก่อนก่อนจะรู้จักพระเจ้าอาจจะถวายให้พี่ แต่เมื่อมาเชื่อพระเจ้าเรารู้ว่ามีผู้สร้างจึงมาถวายพระเจ้าที่ทรงสมควรจะได้รับการถวาย ก็สนุกดีนะคะถ้ามีเวลาว่างก็ขอเชิญไปเที่ยวหมู่บ้านลาหู่ได้ เขาต้อนรับทุกคนแหละคะ ขอเยงแค่บอกว่า แช่ซาแช่หล้า แปลว่า สบายดีใหม ทุกคนนิสัยดีนะอยากเชิญชวนไปเที่ยวยิ่งช่วงนี้มีการถวายนพืชผลยิ่งสามารถไปได้เลย