การปฏิบัติสืบต่อกันมาทำให้เกิดความรักและสามัคคีของคนในสังคมชาวลาหู่ที่แสดงถึงความเจริญทางจิตใจของคนในสังคมเป็นเครื่องจูงใจให้คนทำความดี ละเว้นความชั่วทำให้เกิดความอิ่มเอิบใจ
ความสุขของชาวลาหู่มาจากความสนุกสนานร่าเริง อยู่ในกรอบประเพณี หลังจากปีใหม่ “เข๊าะจา” ไปแล้วอีก ๑๕ วันจะเข้าสู่พิธี “บูวตี”และ “หวู่ซากูว”
“บูตี” เป็นพิธีกรรมเรียกขวัญให้กับสมาชิกคนในคนหนึ่งที่เจ็บป่วยและจิตใจไม่ค่อยสบาย มีเรื่องเศร้าหมองหรือเสียขวัญ เสียกำลังใจ ส่วน”หวู่ซากวู “เป็นพิธีการเลี้ยงผีบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล พิธีเหล่านี้จะทำขึ้นที่หน้าห้องผีภายในบ้าน
ระหว่างพิธีกรรมหรือเทศกาลนี้ จะเป็นโอกาสของชายหนุ่มและหญิงสาวที่รักใคร่ชอบพอกันจัดพิธีแต่งงานถือว่าเป็นวันดี ประเพณีของชาวลาหู่ฝ่ายชายจะให้แม่สื่อไปติดต่อสู่ขอฝ่ายหญิงจากพ่อแม่ของฝ่ายหญิง
วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑ ชาวบ้านก็จะตำข้าวปุ๊อีกครั้ง เพื่อใช้ประกอบพิธีในเทศกาล “เข๊าะนอย” ในวันต่อไปคือวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๑ เนื่องจากผู้ชายในหมู่บ้านจำนวนหนึ่งต้องออกไปทำงานนอกหมู่บ้านทำให้ขาดโอกาสเข้าร่วมพิธีกรรม “เข๊าะจา” และเพื่อเป็นการขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมงคล เป็นพิธีกรรมที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนมากนัก ชาวบ้านจะนำข้าวปุ๊ที่ตำนำไปทำบุญกับครอบครัวของเพื่อนบ้าน และคอยต้อนรับเพื่อนบ้านที่จะมาทำบุญและนำข้าวปุ๊มามอบให้ พิธีนี้มีระยะเวลาถึง ๔ วันจนถึงวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑ จะทำพิธีกรรมส่งเคราะห์ส่งผีของหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นการออกจากเทศกาล เป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานในฤดูกาลผลิตใหม่ที่จะเวียนมาถึง
พิธีกรรมเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรม มนุษย์ในสังคมที่เจริญแล้วต่างก็มีประเพณีและพิธีกรรมที่เฉพาะของตน พิธีกรรมเป็นเครื่องชี้ถึงความสามัคคีความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนั้น พิธีกรรมส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องของศาสนา เช่น การทำบุญตักบาตร การไหว้พระสวดมนต์ การทำบุญในเทศการต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อและหลักการของพุทธศาสนาแทบทั้งสิ้น พิธีกรรมที่เกี่ยวกับศาสนานี้เรียกว่าศาสนาพิธี
คนบางกลุ่มอาจมองข้ามเห็นว่าพิธีกรรมเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระและเสียเวลาโดยใช่เหตุ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ประกอบพิธีกรรมเหล่านั้นไม่ได้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงระเบียบวิธีและแก่นแท้ของพิธีกรรมนั้น ๆ จึงทำให้เห็นเป็นเรื่องที่ไม่มีคุณค่าไม่มีเหตุผลและงมงาย
สังคมของชาวลาหู่จึงเป็นเช่นเดียวกันที่อาศัยหลักพิธีกรรมนำมาสู่ความรัก ความสามัคคีเพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันด้วยความสงบร่มเย็น จึงควรที่จะสร้างความตระหนักให้เยาวชนของชาวลาหู่ได้เข้าใจความหมายของการประกอบพิธีกรรมเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีต่อไป
ติดตามรายละเอียดต้นฉบับที่นี่ค่ะ http://gotoknow.org/blog/kgeneral/382803
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิม
พิธีกรรมคือสิ่งเชื่อมโยงสัมพันธภาพอันดีให้ชุมชนเข้มแข็ง
สุขสันต์วันจันทร์ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ ครูคิม
มาเรียนรู้ด้วยคนค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ติดตามอ่านอยู่นะคะ...
เติมเต็มให้สมองที่บกพร่องค่ะ..
มีความสุขกับวันแรกของสัปดาห์นะคะพี่คิม
เป็นความรู้ใหม่ครับ บันทึกประวัติศาสตร์ดีมาก
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะพี่ครูคิม
หนูแวะมาบอกว่าได้รับเสื้อแล้วนะค่ะ
ขอบคุณมากๆๆค่ะ ^^
สวัสดีค่ะบ่าวบ้านนอก
ภาษาลาหู่ ออกเสียงยากและเขียนเป็นภาษาไทยยากมาค่ะ ขอขอบคุณที่มาแวะอ่าน ขออภัยที่ตอบเม้นท์ช้าค่ะ
สวัสดีค่ะน้องpoo
จะต้องไปตามเก็บความรู้เพิ่มเติมเร็ว ๆนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะน้องถาวร
สังคมในประเทศไทยมีสิ่งดี ๆที่ให้เราต้องเรียนอีกมากเลยนะคะ
สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima
มาเติมได้นะคะ หากอะไรที่บกพร่อง ขอชมว่าภาพเท่ค่ะ เสื้อของน้องออกสีฟ้าสดนะคะ
สวัสดีค่ะคุณเบดูอิน
ใช่ค่ะเป็นความรู้ใหม่จริง ๆ ยังมีสิ่งที่ต้องตามเก็บอีกมากมายค่ะ
สวัสดีค่ะน้องอาร์ม
ดีใจมากค่ะที่น้องอาร์มและทีมงงานได้รับเสื้อแล้ว ใส่มาอวดภาพกันบ้านนะคะ
สวัสดีค่ะพี่คิม
สวัสดีค่ะคุณหมอนาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
ใส่พอดีกันทุกคนไหมคะ ขอขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะน้องkrugui Chutima
ดูดี ๆ จักรยานก็ใหม่นะคะ ฮา ๆ ๆ ๆ
สวัสดีค่ะน้องอิงจันทร์ ณ กระท่อมอิงจันทร์
บันทึกนี้นานหลายวันแล้วค่ะ พี่คิมเพิ่งตอบเม้นท์วันนี้เอง เพระเข้าระบบยาก
ค่ะจักรยาน...ของครูกี้ร์ใหม่ด้วยนะคะ สังเกตดี ๆ