kong
นาย ก้องเกียรติ เติมเกษมศานต์

แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริง ทำ KM อย่างไรให้เป็นเลิศ ในการประชุมวิชาการกรมการแพทย์ ปี 2553


         วันที่ 9 สิงหาคม 2553  โดยการสั่งการของผู้อำนวยการศูนย์ ฯ  และคำบอกกล่าวกึ่งขอร้องของ อ.วิมล โรมา ให้ช่วยไปเป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง “แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริง ทำ KM อย่างไรให้เป็นเลิศ” ในการประชุมวิชาการกรมการแพทย์ DMS: Accessible excellence กรมการแพทย์ความเป็นเลิศที่เข้าถึงได้ ซึ่งมีวิทยากรคือ ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด ผอ.สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.)  , อ.สุรีพันธ์ เสนานุช  ผู้จัดการส่วนศูนย์ความรู้ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และตัวผมเอง   โดยผู้ดำเนินการอภิปรายคือ นพ.สุทัศน์  ดวงดีเด่น

        ในการอภิปรายครั้งนี้ผมรู้สึกกังวล เนื่องจากชื่อเรื่องเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์  ไม่น่าจะต้องมีการบรรยาย หรือทำสไลด์นำเสนอ  จากที่นึกกังวลเลยทำสไลด์นำเสนอไปเตรียมไว้คร่าว ๆ   และพอถึงเวลาจริง อ.นพ.สุทัศน์ ให้พูดก่อนคนละ 20 นาที  ยังนึกโชคดีว่าได้เตรียมสไลด์ไปก่อนแม้จะไม่สวยงามและดีนัก

        คนแรกในการบรรยายคือ อ.ดร.ประพนธ์  ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอตัวจริง ๆ  หลังจากได้ดูสไลด์และฟังบรรยายจากอาจารย์จากแผ่น CD มา 4-5 ปี  ก่อนบรรยายอาจารย์ถามที่ประชุมว่าเคยได้รับความรู้เรื่อง KM มาก่อนหรือไม่  มีผู้ประชุมส่วนใหญ่บอกว่าไม่อาจารย์เลยบรรยายพื้นฐานของ KM ซึ่งอาจารย์มีรูปแบบการสอนที่สนุกและชวนติดตามทำให้ผู้ประชุมไม่ง่วงนอนถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงบ่ายแล้วก็ตาม อาจารย์บอกว่า KM ที่ถูกทางคือ KM ที่ไม่เป็นภาระ แต่ควรจะเป็นพละ คือพลังที่จะขับเคลื่อนการทำงานให้ดีขึ้น และเนียนไปกับเนื้องาน  นอกจากนี้อาจารย์ได้ทบทวนเรื่อง Model ปลาทู ไม่ว่าจะเป็น KV หัวปลา , KS ตัวปลา และ KA หางปลา  ในเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อาจเน้นการแลกเปลี่ยนความสำเร็จ (share success)  และการสรุปบทเรียนจากข้อผิดพลาด (Lessons learned) 

       คนต่อมา อ.สุรีพันธ์  อาจารย์นำเสนอในเรื่อง KM กับกรอบแนวคิดรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) , KM กับ best practices และ ปัญหาที่พบในการทำ KM   อาจารย์กล่าวถึง Core values และconcepts ของ TQA ได้แก่ Visionary Leadership , Customer-driven excellence, Organizational and personal learning, Valuing workforce members and partners, Agility, Focus on future, Managing for innovation, Management by fact, Societal responsibility, Focus on results and creating value และ System perspective   อาจารย์มุ่งเน้นในเรื่อง Organizational and personal learning ซึ่งการเรียนรู้ในที่นี้คือ Regular part daily work ; practical at personal, work unit and organization level ; results in solving problems at their source (root cause) ; Focus on building and sharing knowledge throughout your organization และ driving by opportunities to effect significant, meaningful change and to innovate   โดย sources for learning ได้แก่ Employees and volunteers ideas, R&D, customer input, best practice sharing and benchmarking  (ขอโทษไม่กล้าแปลกลัวผิดความหมาย)  นอกจากนั้นอาจารย์ยังให้คำนิยามของ best practice ว่าเป็นแนวทางการสร้างสรรค์ในการปรับปรุงองค์กร เป็นการประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะความต้องการเฉพาะ ที่มีผลต่อการดำเนินงานขององค์กรอย่างน่าตื่นเต้น นำไปสู่การลดเวลา ลดต้นทุน การปรับปรุงคุณภาพ และเพิ่มผลกำไรอย่างก้าวกระโดด  สุดท้ายอาจารยกล่าวถึงปัญหาของการทำ KM คือ การไม่รู้ว่าอะไรคือความรู้ที่เป็นแก่นสาระสำคัญขององค์กร , มีกิจกรรมการจัดการความรู้แต่ไม่มีผลลัพธ์ , มีกิจกรรมที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน , มีการจัดเก็บความรู้แต่ไม่ได้นำมาใช้ และยึดแต่ทฤษฎีแต่ไม่ได้ปฏิบัติ

       ส่วนตัวผมเองพูดถึงการทำ KM ในองค์ของตัวเองคือศูนย์อนามัยที่ 8  เป็นการทำ KM ที่ยึดหลักการของ สคส.  มีการใช้โมเดลปลาทู มาดัดแปลงเป็นรูปแบบการทำของ KM ของตนเอง เช่น KM model หรือ KMM model   ได้นำเสนอในเรื่องการทำ KM ที่เป็นเรื่องเล็ก ๆ  ที่สามารถเชื่อมโยงต่อกันเป็นเรื่องใหญ่ ต่อเนื่องไปจนถึงขั้นการสนับสนุนต่อทิศทางขององค์กร

      เมื่อหมด Section ของการบรรยาย (ซึ่งของส่วนผมมันง่ายไปไหมเนี่ย) ก็จะเป็นการซักถาม คำถามแรกจำไม่ได้แล้ว แต่เป็นการเสนอข้อคิดเห็น พอดีจับใจความไม่ได้เพราะเป็นศัพท์ฝรั่งเป็นส่วนใหญ่   ต่อมามีการถามถึงเรื่องการจัดทำกลุ่ม Cop  ซึ่งอาจารย์ประพนธ์ก็ได้ให้คำอธิบายถึง Cop กับเก้าอี้  3 ขา ซึ่งแต่ละขาแทนองค์ประกอบคือ การมีความสนใจร่วมกัน  , การมีความสัมพันธ์ที่ดี และการมีเรื่องที่จะแบ่งปันกัน  จากนั้นอาจารย์ นพ.สุทัศน์ ก็มาถามผมว่าทำไมศูนย์อนามัยที่ 8 จึงมีกลุ่ม Cop มาก  ผมก็ตอบไปว่าจริง ๆ ศูนย์อนามัยที่ 8 เน้นการทำงานปกติ โดยมี KM เข้าไปเนียนกับเนื้องาน ดังนั้นการดำรงในชีวิตประจำวันก็เป็นกลุ่ม Cop ซึ่งไม่ได้มีการสร้างสรรค์หรือปรุงแต่งขึ้นมา ทำให้ดูมีมาก แต่ก็ไม่เป็นภาระของงาน

       มีคำถามที่น่าสนใจอีกคำถามคือถามว่าปัจจุบันนี้ก็เรียนรู้ด้วยตนเอง หาหนังสืออ่าน ดู Internet แค่นี้ยังเป็นการจัดการความรู้ไม่เพียงพออีกหรือ อาจารย์ประพนธ์ตอบว่าแสดงว่าบุคคลที่ถามมีความไฝ่รู้ที่ดีอยู่แล้ว แต่เป็นการดีเฉพาะตนเอง แล้วองค์กรล่ะ การที่องค์กรจะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้จะขาดไม่ได้ในเรื่องการ Sharing

       สุดท้ายเป็นคำถามจากอาจารย์ นพ.สุทัศน์ ให้พูดถึง ICT มีส่วนช่วยอย่างไรบ้าง อาจารย์สุรีพันธ์ บอกว่าไม่อยากให้ผูกติดกับเรื่อง ICT มากนัก ICT มีส่วนช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ง่าย และช่วยในการเก็บรวบรวมความรู้ได้มีประสิทธิภาพ

   ในบทสรุป อ.นพ.สุทัศน์ ให้สรุปว่าสิ่งที่ทำให้ KM เป็นเลิศคืออะไร ทั้ง 3 คน สรุปว่า ต้องรู้ว่าทำ KM ไปเพื่ออะไร ถ้ารู้และเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็จะเกิดความสำเร็จในการทำ KM เอง 

ขอบคุณครับ

 

หมายเลขบันทึก: 383832เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2010 09:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณครับ ผมได้ความรู้เพิ่มเติมอีกแล้วครับ

สวัสดีครับ

ตอนนี้คณะแพทย์ ม.ขอนแก่น ก็ได้นำ KM มาใช้กันหลายหน่วยงาน เริ่มปีนี้มากหน่อย เพื่อผลักดันในแพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้บุคลากรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหลายเรื่องมากขึ้น จะจัดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งใหญ่ วันที่ 20 สิงหาคม 2553 นี้ ครับ

  • ขอบคุณหมอก้องนะคะ
  • KM ธรรมชาติ ได้ก้าวสู่ KM ระดับชาติแล้วละ
  • ขอบคุณทุกท่านครับ
  • สวัสดีพี่นน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ

 "ในเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อาจเน้นการแลกเปลี่ยนความสำเร็จ (share success)  และการสรุปบทเรียนจากข้อผิดพลาด (Lessons learned) "

  • เรื่องนี้ OK ทำได้
  • แต่เรื่องนี้อ่านแล้ว เครียดเลย

"best practice ว่าเป็นแนวทางการสร้างสรรค์ในการปรับปรุงองค์กร เป็นการประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะความต้องการเฉพาะ ที่มีผลต่อการดำเนินงานขององค์กรอย่างน่าตื่นเต้น นำไปสู่การลดเวลา ลดต้นทุน การปรับปรุงคุณภาพ และเพิ่มผลกำไรอย่างก้าวกระโดด "

  • โรงเรียนพ่อแม่ที่ตั้งใจไว้ว่าจะเป็น best pratice ก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ...การสร้างสรรค์ (พอได้) แต่ประเด็นอื่นๆ ยังไปไม่ถึงขนาดนั้นน่ะ

โรงเรียนพ่อแม่ ก็ทำกันไป ได้ไม่ได้ ก็ได้อยู่แล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท