วันของแม่...นางเอกของพวกเรา


            เรื่องราวนี้ของครอบครัวเราเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น  เมื่อทางทีมงานของคณะทำงานสรรหาแม่ดีเด่นของตำบล  ได้นำเอกสารมาให้พวกเราซึ่งเป็นลูกๆ กรอกประวัติของแม่  เพราะเค้าบอกกับพวกเราว่าชาวบ้านเค้านำเสนอชื่อยายสุดใจหรือยายเสนกันมา  เราก็เลยต้องช่วยกันกรอกประวัติและข้อมูลของแม่ตามมติเห็นชอบของชาวบ้านที่จะนำเสนอส่งชื่อแม่เป็นแม่ดีเด่นของตำบล  เมื่อมาอ่านเอกสารในส่วนของแม่ดีเด่นในระดับส่วนภูมิภาค จะมีแบ่งเป็นประเภทย่อยๆด้วยกัน  5  ประเภท คือ

1.        แม่ผู้เป็นเกษตรกร

2.        แม่ของผู้เสียสละ (สงวนไว้เฉพาะคุณแม่ของตำรวจ / ทหาร )

3.        แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

4.        แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร และ

5.        แม่ของผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

 

             รายการประเภทที่  2  คงถูกสงวนไว้เฉพาะคุณแม่ของตำรวจและทหาร  ฉะนั้นจึงเหลือเพียง  4  ประเภทเท่านั้นที่จะต้องเลือกส่งชื่อแม่เข้าร่วมในประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น 

             จากทั้งสี่รายการที่เหลือแม่สามารถเป็นได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น  แม่ผู้เป็นเกษตรกรรม-เพราะตั้งแต่เราเด็กๆ มาแม่คือชาวนาและชาวสวนยางพาราผู้ตรากตรำทำการเกษตรด้วยตนเองเคียงคู่สามีของเธอมาตลอด  จนเริ่มที่จะเก็บดอกผลแห่งความขยัน อดทน ตรากตรำงานมาตลอดเมื่อเธอเข้าสู่วัยชรานั้นแล,  แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม- เธอก็สามารถที่จะนำส่งในรายการนี้ได้อีกเช่นกัน  เพราะเธอก็เคียงข้างสามีของเธอช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านมาตลอดหากพวกเขาเจ็บป่วย ไข้  ด้วยสามีของเธอเป็นหมอชาวบ้านผู้ที่เลือกจะสืบทอด สานต่อตำนานยาสมุนไพรของบรรพบุรุษเพื่อช่วยผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วย, แม่ผู้มีความมานะอดทน ขยัน หมั่นเพียร - นั่นคือภาพของเธอทั้งชีวิตที่พร่ำเพียรพยายามส่งเสียพวกเราลูกๆ สี่สาว - สี่ดรุณีให้มีการศึกษา  เธอก็สามารถตอบโจทย์ได้หมดทุกข้อ  แต่พวกเราลูกๆ ตกลงกันว่าจะส่งชื่อแม่ไปในรายการประเภทสุดท้าย  เพราะดูเหมือนจะเหมาะที่สุดและโดดเด่นที่สุดกว่าใครๆ ในอำเภอสำหรับประเภทนี้  เพราะนี่คือผลรางวัลที่เธอภูมิใจที่สุดมาตลอดชั่วชีวิตของการเป็นแม่คน  เพราะลูกสาวทั้งสี่ของเธอได้เข้ารับราชการในกระทรวงศึกษาธิการหมดทุกคน  และนั่นก็หมายความว่าลูกสาวทั้งหมดของเธอมีหน้าที่ที่ต้องทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไปในอนาคตนั่นคือการเป็นครูผู้สร้างคนอีกต่อหนึ่งนั่นเอง  ลูกๆ ของแม่เข้ารับราชการในกระทรวงศึกษาธิการในตำแหน่งครูถึง  3  คน  และนักวิชาการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอีก  1  คน  (ไม่นับลูกเขยทั้งสามในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ  1  ท่าน  และปศุสัตว์อำเภอกับนักวิชาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวม 2 ท่าน)  พวกเราเลยส่งเอกสารประกอบเป็นเรื่องราวของแม่ในหมู่บ้านกับการเป็นชาวสวนที่มุ่งทางธรรมและแม่ยังเป็นอีกหนึ่งแรงหลักในการช่วยเหลือชาวบ้านและรักษาโรคด้วยยาสมุนไพรของพ่อแบบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอด  รวมถึงเอกสารประกอบเกี่ยวกับประวัติการรับราชการของลูกๆ สี่คนในการทำงานของตนเองในแต่ละโรงเรียน  ท้ายที่สุดเมื่อการตัดสินระดับอำเภอสิ้นสุดลง  ปลัดอำเภอได้โทรศัพท์แจ้งมาให้พวกเราทำเอกสารเพิ่มเติมอีก 16 เล่มเพื่อส่งยายสุดใจหรือยายเสนเป็นแม่ดีเด่นต่อในระดับจังหวัด  ซึ่งนั่นคือเอกสารสำหรับคณะกรรมการที่มาจากแต่ละอำเภอในการประกวดในระดับจังหวัดสงขลา  ผลการตัดสินในระดับจังหวัดเป็นอย่างไรก็แล้วแต่  แต่ที่สุดแล้วเราก็รู้ว่า....เธอ....คือ...นางเอกของพวกเรา  เธอคือหญิงเหล็กตัวเล็กๆ ที่ผลักดันลูกๆ เข้าสู่หน้าที่ในการช่วยเหลืองานสังคมอีกแขนงหนึ่งอย่างไม่ยิ่งหย่อนตลอดมา  เธอเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พวกเราลูกๆ มาตลอด  หากแต่ไม่เท่านั้น  เธอยังคงเป็นแบบอย่างให้แก่เพื่อนบ้านในสังคมหมู่บ้านในการเลี้ยงดูลูกๆ  และเธอก็ยังคงเป็นแบบอย่างให้สังคมในท้องถิ่นให้ได้ยลและได้ยินในเรื่องราวของเธอ....ผู้สร้างพวกเราลูกๆ ของเธอ....เพื่อ....ให้ลูกๆ ของเธอกลายมาเป็นผู้สร้างคนให้กับสังคมประเทศชาติต่อไป....

           นี่คือเรื่องราวของเธอ....นางเอกของพวกเรา........

 

รางวัลของเธอ....นางเอกของพวกเรา

รับมอบรางวัลจากท่านนายอำเภอ

            เมื่อทางอำเภอแจ้งมาอีกครั้งว่าในวันที่  10 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น  ให้ครูแอนกับพี่สาวนำคุณแม่ไปรับรางวัลแม่ดีเด่นของอำเภอด้วย  งานดังกล่าวจัดขึ้นที่บริเวณลานหน้าอำเภอเทพา  มีองค์กรหลายองค์กรเข้าร่วมในการดำเนินงาน  เนื่องจากทางอำเภอจัดโครงการประชาสัมพันธ์เสริมสร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติ  78 พรรษา มหาราชินี รวมพลังรักสามัคคี เพื่อแม่ของแผ่นดิน   โดยความร่วมมือกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา  ซึ่งขนกันมาทั้งรถและทีมงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 สงขลาและการถ่ายทอดเสียงการเสวนาในหัวข้อ วิถีใต้ วิถีงาม สู่ความสามัคคี โดยอาจารย์สถาพร ศรีสัจจัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ทาง สวท.สงขลา คลื่น FM. 90.50 MHz

          คนเทพาทั้งหลายรวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และกลุ่มพลังสตรี ในพื้นที่จึงรวมพลังรักสามัคคีถวายแด่แม่ของแผ่นดินด้วยกันในงานนี้  มีการตั้งโต๊ะลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 

          เมื่องานเริ่มขึ้นท่านนายอำเภอจึงกล่าวรายงานต่อประธานในพิธีซึ่งได้แก่ท่านปลัดจังหวัดสงขลา  จึงตามด้วยพิธีการมอบรางวัลแก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านดีเด่น และก็มาถึงเวลาที่ยายเสนจะต้องขึ้นไปรับรางวัลแม่ดีเด่นของอำเภอเทพา ตามด้วยรางวัลสตรีดีเด่นของกลุ่มพลังสตรีต่างๆ หลังจากนั้นบนเวทีก็จะมีการเสวนาในหัวข้อ “ วิถีใต้ วิถีงาม สู่ความสามัคคี ” โดยอาจารย์สถาพร ศรีสัจจัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ กับผู้นำของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำกลุ่มพลังสตรีของอำเภอ

ลูกๆ ถ่ายรูปร่วมกับศิลปินแห่งชาติ อ.สถาพร  ศรีสัจจัง

           ที่เด็ดสุด....กิจกรรมที่เรียกให้ขนลุกตั้งชันได้โดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในบรรยากาศตรงนั้น..และใจเราทั้งหมดร่วมกับตรงนั้น  ร่วมกันเป็นใจเดียวกัน...โดยการรวมพลังรักสามัคคีแห่งการร่วมใจรักสามัคคีด้วยกิจกรรมการร้องเพลง "ขวานไทยใจหนึ่งเดียว" พร้อมกับธงชาติในมือที่โบกสบัดกันพรึ่บพรั่บๆ ให้โลกได้รับรู้ว่าเราต้องรวมกัน  ต้องรักสามัคคีกันเป็นด้ามขวานของไทยใต้ร่มบรมโพธิสมภารของทั้งสองพระองค์อย่างแท้จริง

                                เพลงขวานไทยใจหนึ่งเดียว

              โลกนี้มีมาก่อนผู้คน แต่โลกจะทนอยู่ได้นานสักเท่าใด
              ถ้าเงินหมื่นแสนล้านถูกผลาญไป ใช้สร้างอาวุธมายัดใส่มือคน

              ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน
              จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล พี่น้องประชาชนจะอยู่อย่างไร

แถบธงแดงขาวน้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย
ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอยขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว
เป็นหนึ่งเดียว

             ฟ้านี้มีโอกาสเป็นหนึ่ง เมื่อคนคำนึงถึงการเสียสละ
             เหล่าบรรพชนพลีชีพแลกมา ต้องเสียน้ำตาเลือดเนื้อไปเท่าใด

             แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำยำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
             ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ หวงแผ่นดินไทยด้วยหัวใจยุติธรรม

แถบธงแดงขาวน้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย
ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอยขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว
เป็นหนึ่งเดียว

ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง
คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย

ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัวพระราชินีทรงห่วงใย
ลูกเอยหลานเอยล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว
(ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว)

แถบธงแดงขาวน้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย
ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอยขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว
เป็นหนึ่งเดียว

ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง
คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย

ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัวพระราชินีทรงห่วงใย
ลูกเอยหลานเอยล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว
(ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว)

             ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน
             จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล เราล้วนเป็นคนเป็นประชาชนไทย

             แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำยำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
             ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ ช่วยตักน้ำมาดับไฟด้วยหัวใจสามัคคี

แถบธงแดงขาวน้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย
ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอยขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว
เป็นหนึ่งเดียว

ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง
คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย

ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัวพระราชินีทรงห่วงใย
ลูกเอยหลานเอยล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว
(ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว)

ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง
คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย

ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัวพระราชินีทรงห่วงใย
ลูกเอยหลานเอยล้วนคนไทย มาสร้างฝันวันใหม่ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว
(ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว)

ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว.......ให้ขวานไทยใจหนึ่งเดียว

           หลังการเสวนาเสร็จสิ้นก็ตามด้วยชุดการแสดงบุษบาเสี่ยงเทียน, ระบำรองแง็งและเสริมทัพการแสดงด้วยฝีไม้ลายมือของคนเทพาในชุดการแสดงมายากลของคุณโทนี่  เสรีชน ที่ทำเอายายเสนของเรานั่งอึ้งกับร่มและนกพิราบที่ออกมาได้ยังไงนั่น...อยู่อย่างตะลึงพรึงเพริด  ชุดการแสดงสุดท้ายก็มาจากคุณป้าผู้น่ารักทั้งหลายที่พิธีกรบนเวทีแจ้งชื่อของท่านเหล่านั้นว่าเป็นการแสดงของเด็กหญิงและนางสาว(เหลือน้อย)จากตำบลเกาะสะบ้าที่มากับคุณป้าเครือวัลย์นั่นก็เรียกเสียงฮาจากผู้ชมในเต็นท์ได้ตรึมอีกระลอกหนึ่ง

การแสดงชุด "บุษบาเสี่ยงเทียน" และ "รองแง็ง" ชุดการแสดงประจำภาคใต้

 

 จริงๆ แล้วทุกวันเป็นวันแม่หมดล่ะค่ะ  เราดูแลและทำสิ่งที่แม่ชอบมาตลอด 

           แต่ในวันนี้....เมื่อวันที่  10  สิงหาคมที่ผ่านมา  เป็นวันของเธอเลยจริงๆ ค่ะ  เราขอให้เธอเป็นนางเอกสำหรับวันนี้....วันที่เธอก้าวเข้าไปในเต็นท์พิธีการและนั่งแถวหน้าสุด  ตรงที่นั่งของเธอแปะกระดาษไว้ว่า “แม่ดีเด่น” จองไว้เฉพาะแต่เธอเท่านั้นสำหรับปีนี้  วันที่เธอขึ้นไปเวทีเพื่อรับเกียรติบัตรและของขวัญในตำแหน่งของเธอเอง.....นางสุดใจ  หนูปลอด....แม่ของพวกเราสี่คนและผู้คนในหมู่บ้านที่เรียกชื่อเธอว่า “แม่เสน” อย่างสนิทใจเหมือนอย่างที่พวกเราเรียกขานท่านนั้นเอง.....

หมายเลขบันทึก: 384122เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2010 08:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะพี่แอน

ยินดีกับแม่เสน คุณแม่ในดวงใจของพี่แอนและชาวบ้านด้วยค่ะ ฝนตกบ่อยครั้ง ระวังเป็นไข้ รักษาสุขภาพนะคะ

ขอบคุณค่ะน้องปู 1. poo  ขอบคุณมากๆ นะคะ

  • พลาดบันทึกนี้ไปได้อย่างไร
  • น้ำลดหรือยัง
  • แม่ใครหนอ
  • ฮ่าๆๆ
  • ไปค่ายพบนักเรียนพูดภาษาลาวครั่ง
  • บางคำคล้ายภาษาใต้เลยครับ
  • ลองฟังดูนะครับ
  • http://khajit.multiply.com/video/item/8
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท