ความรักของผม... 13 สิงหาคม 2553(today is my blue day)


   ช่วงเวลาที่ไม่ได้เขียนบันทึก ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแป๊บเดียว เวลาก็ตีตรามาที่ผมว่า... ผมขาดความรับผิดชอบที่จะฝืนความรู้สึกเพื่อเขียนบล๊อกโดยปล่อยเวลาให้ผ่านล่วงเลยมาเกือบครึ่งปีแล้ว!!!
   ช่วงเวลาที่ผ่านมา เกือบครึ่งปี ผ่านอะไรมามากมายทั้งสุขและทุกข์และความรู้สึกใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ การกระทำใหม่ๆ

   และสำหรับคนพิเศษของผม เราไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีเช่นกัน นับแต่ผมไปอยู่ต่างจังหวัด ที่จ.มุกดาหาร และกลับมาในกลางเดือน มิถุนายน แต่ผมก็ยังไม่ได้ไปหาคนพิเศษของผม มีเหตุผลมากมายที่ผมไม่กล้าบอกใครว่าทำไมผมถึงไม่อยากไปหาคนพิเศษของผม และคนพิเศษของผมก็คงไม่เข้าใจ และสุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ผมปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมาหลายเดือนแล้ว ผมคิดว่าคงไม่มีแฟนคนไหนในโลกที่เขากันอย่างนี้แน่ เป็นแฟนกัน รักคนที่เรารัก แต่ไม่อยากไปหาคนที่เรารัก
   ...ที่ไม่อยากไป.... เพราะว่า... ความใกล้ชิดอาจเป็นบ่อเกิดของความเบื่อหน่ายก็ได้ นี่เป็นเหตุผลตื้นๆ ที่เกิดขึ้นในใจผมอยู่ตลอดเวลา และสำหรับเหตุผลลึกๆ นั้นก็ยังมีอยู่ แต่ผมอยากบอกเหตุผลเหล่านั้นกับ Sigmund Freud (ที่ผมเชื่อว่าเขาคงจะเข้าใจอะไรๆอย่างทะลุปรุโปร่ง)มากกว่าที่จะมาพล่าม(แบบไร้สาระ)ในนี้... อิๆๆ...

   และในวันนี้ สำหรับวันนี้ วันศุกร์ ที่ 13 สิงหาคม 2553

   ที่ผมเครียดทั้งเรื่องงาน

   ---------------------งาน-----------------------

   ที่ออฟฟิศช่างดูเงียบเหงาในวันที่ฝนตกลงมาช่วงสายๆ แล้วปล่อยให้ตะวันสาดแสงนวลๆ เนือยๆ อยู่อย่างนั้น ทั้งวัน

   พี่ในออฟฟิศพูดประชดประชัน(พูดเสร็จจบด้วยการบอกว่าแซวเล่น)ผม สองเรื่องและเรื่องงานที่ผมมีเรื่องเถียงกับเจ้านายหลายวันก่อน และกลายเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย

   เลยทำให้ผมอยากกลับบ้านเร็วๆ และไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลยในวันนี้

   ----------------------ความรัก-----------------

   ไม่ได้โทรไปหาคนพิเศษ หลายวันมาก ที่โทรไปครั้งหลังสุดก็คือวันเสาร์ แต่ก็แค่โทรไปว่า ผมรักคุณ แล้วต่อด้วย แค่นี้ก่อนน่ะครับ หวัดดีครับ อิๆๆๆๆ

   นับแต่เกิดเรื่องตอนอยู่ ต่างจังหวัด(สุรินทร์) ที่ผมเมาไวน์อยู่คนเดียวในห้องโรงแรมแล้วโทรไปบอกคนพิเศษ กลางดึก เกือบตีสามและตะโกนว่า ผมรักคุณ ผมรักคุณ ได้ยินมั้ย!!! อิๆๆๆ

   นับแต่วันนั้นคนพิเศษของผมก็มักพูดประชดประชัน พูดกระแทก

   คุณเคยโทรไปหาใครแล้วได้ยินคำพวกนี้มั้ย?

   - โทรมาทำไม?

   - ไม่ต้องโทรมาแล้ว

   - โทรมามีอะไร?

   555555555555 คนพิเศษของผมจะรู้มั้ยว่า คำพูดเหล่านี้มันแทงเข้าไปที่หัวใจของผมแบบตรงๆ เจ็บแบบแปลบๆ กลืนน้ำลายแบบฝืดคอ ผมรู้อยู่ว่าผมอาจทำผิด ที่โทรไปผิดที่ผิดเวลา แต่ก็ไม่น่าจะต้องพูดอะไรขนาดนี้เลย

   และนับแต่นั้นมาผมก็ไม่ค่อยจะกล้าโทรไป เพราะกลัวที่จะต้องเอาสมองไปรองรับคำพูดเหล่านั้นอีก... ไม่อยากให้ใจต้องรับรู้ความรู้สึกเจ็บอีก...

   ก็เลยได้แต่รอให้ผ่านไปหลายๆ อาทิตย์ก่อนแล้วค่อยโทรไปถามว่า

   ...ลืมผมหรือยัง....

   อิๆๆๆ

   ป.ล.1 ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะทำเรื่องราวตัวเองได้น้ำเน่าขนาดนี้

   ป.ล.2 ด้วยเหตุผลเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของ today is my blue day...

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #today is my blue day#ความรัก
หมายเลขบันทึก: 384512เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2010 17:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 18:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

       สวัสดีครับ  อ่านแล้วครับ อารมณ์ที่ระบายออกมาสามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ของเจ้าของบันทึก  ผมเห็นใจคุณครับที่ต้องระบายมาอย่างนี้   คุณลองอ่านทบทวนบันทึกของคุณอีกครั้งครับ คุณอาจจะได้คำตอบ  ผมคงไม่รบกวนความคิดของคุณนะครับที่แสดงความเห็นมา  แต่ผมก็ยังเห็นใจในเหตุการณ์ที่คุณกล่าวมาทั้งหมดครับ   ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้สึกมาให้อ่านครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท