ประเทศไทยกับการเป็นเจ้าภาพ World Expo 2020


บทเรียนจากความจริง กับ ดร.จีระ จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 14 สิงหาคม 2553
ประเทศไทยกับการเป็นเจ้าภาพ World Expo 2020
 
ผมเขียนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เพราะมาทำหน้าที่เป็นผู้นำคณะ หรือ Team Leader ในการสร้างเครือข่าย (Network) ระหว่างสมาคมการค้าไทยกับสมาคมการค้าของประเทศจีน

ในคณะของเรา 18 คน ประกอบด้วย

1. ตัวแทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 4 คนในฐานะของเจ้าของโครงการฯ คือ คุณอภิชาติ ประเสริฐสุด คุณจิตกร ว่องเขตกร คุณศศิพิมล มงคล และคุณกิจติญา วงษ์เนตร์

2. ตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 2 คน ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการฯ คือ คุณพัชราพร พูลเพิ่ม และคุณบุษกร เวชเคน

3. ผู้แทนจากสมาคมมันสำปะหลังไทยภาคเหนือ 3 คน คือ คุณสุรินทร์ พิชัย คุณประสงค์ อภิชาติวิรุทธิ์และคุณนิตยา ทรัพย์แสง

4. ผู้แทนกลุ่มนวัตกรรมไทยเพื่อความปลอดภัย 2 คน คือ คุณนพมาศศิริ ดำรัสธรรมและคุณลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์

5. ผู้แทนสมาคมยางพาราไทย 1 คน คือ Mr.Qiu Shi Guo

6. ผู้แทนสมาคมการค้าไทย - จีน 1 คน คือ Mr. Zongkang Jia

7. ตัวแทนสมาคมส่งเสริมธุรกิจอาเซียน+6 1 คน คือ ร.ต.ฐกรณ์ พงษ์พันธุ์

8. ผู้บริหารของบริษัท เอ็นทียู (ประเทศไทย) จำกัด 2 คนในฐานะผู้จัดการโครงการฯ คือ คุณเก็จวลี ลิขิตนุรักษ์ และคุณกาญจนา โชคดารา

9. ผู้ช่วยของผม คุณวราพร ชูภักดี

3 วันแรกได้พบกับตัวแทนจากสมาคมการค้าจากประเทศจีนหลายแห่ง รวมทั้งสภาหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมของมณฑลเซี่ยงไฮ้ด้วย

งานครั้งนี้ ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาคมการค้าต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเตรียมตัวรองรับการพัฒนาเครือข่ายในกลุ่มประเทศ ASEAN+6

ประเทศจีนเป็นประเทศที่สำคัญ 1 ใน 6 ความเชื่อมโยงทางการค้าในภูมิภาคอาเซียนและ 6 ประเทศคู่เจรจา

นับว่าเป็นการมาเยือนเซี่ยงไฮ้เป็นครั้งที่ 3 ของผมหลังจากที่ไม่ได้มานานกว่า 6 ปี ได้เห็นว่ามีการพัฒนาที่รวดเร็วมาก มีตึกสูงขึ้นเต็มไปหมด ไม่แปลกใจที่ประเทศจีนเจริญก้าวหน้าอย่างมากมายในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

การทำงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับการนำสมาคมต่าง ๆ จากการสนับสนุนจาก สสว. เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ผมโชคดีได้เห็นโอกาสและมีส่วนร่วมในการเป็นผู้นำ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อไป

รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายครั้งนี้มากโดยจัดการประสานงานอย่างเรียบร้อยในระดับรัฐบาล เพราะประเทศจีนมองประเทศไทยเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ในระดับเอเซี่ยน+6

ผมได้เห็นความพยายามของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจฯ และนักธุรกิจร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากแต่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง

เพราะการแข่งขันในอนาคตคงจะต้องมีการร่วมมือด้วย ไม่ใช่แข่งขันอย่างเดียว ในขณะที่ยุโรปมีการร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งกว่า 20 ประเทศ

มาประเทศจีนครั้งนี้ ผมมั่นใจว่าถ้าประเทศจีนเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง ดูแลปัจจัยความเสี่ยงดังต่อไปนี้

ภาพบรรยากาศกิจกรรม Network Development of Trade Associations
in ASEAN+6 Countries visit to Shanghai ระหว่างวันที่ 9 - 13 สิงหาคม 2553
ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน










* ไม่ให้มีปัญหาการเมืองภายในประเทศอย่างรุนแรง หรือ

* ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ร้อนจนกระทั่งเป็นฟองสบู่แตก หรือ

* การดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนให้พอดีกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ผมจึงขอแนะนำคนไทย และนักเรียนรุ่นหลัง ๆ ว่า นอกจากภาษาอังกฤษที่เราจะต้องเก่งและชำนาญแล้ว คงจะต้องเก่งภาษาจีนด้วยอีกหนึ่งภาษา อีกไม่นานประเทศจีนก็จะแซงสหรัฐอเมริกาในฐานะอันดับหนึ่งของโลก

ปัจจุบันคนไทยอ่อนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ผมเห็นเด็กนักเรียนจีนหลายคนพูดและเรียนภาษไทยทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเล็กกว่าเขามาก ใช้ภาษาได้คล่องแคล่วกว่าคนไทยพูดภาษาจีนมาก

การมาครั้งนี้เป็นการเปิดโลกทัศน์ที่ดีของนักธุรกิจไทย อยากให้กระทรวงพาณิชย์ฯ โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำงานอย่างต่อเนื่อง และเป็นกระทรวงที่สนับสนุนการพัฒนาการส่งออก พัฒนาการค้าอย่างยั่งยืน สร้างความร่วมมือสนับสนุนภาคเอกชนไทยอย่าเต็มความสามารถ ขณะเดียวกันนักธุรกิจไทยก็ต้องมอง ASEAN+6 ด้วย

ภาคเอกชนที่มาด้วย ขอให้ทำงานอย่างอดทน ต่อเนื่อง เพราะการจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันต้องใช้เวลา ต้องเน้นความสมดุล และสร้างประโยชน์ร่วมกันระยะยาวในอนาคต

แนวคิดเรื่อง ASEAN+6 น่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยต้องเอาใจใส่กันมากขึ้น และไทยมีบทบาทอย่างแท้จริง

ผมกับคณะฯ ได้มีโอกาสไปดูงาน Shanghai World Expo 2010 ซึ่งทำให้เห็นว่า งานเอ็กซ์โปเป็นงานที่ดีมากสำหรับการสร้างความคิดอย่างสร้างสรรค์และเป็นรูปธรรม

ประเทศไทยน่าจะมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2020 ซึ่งในปี 2015 จะจัดขึ้นที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และภายในระยะเวลาอีกไม่นาน จะมีการตัดสินใจเลือกประเทศเจ้าภาพสำหรับงาน Expo 2020

ผมมีโอกาสคุยกับคุณกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งดูแล Pavillion ของไทย ทราบว่า Pavillion ของไทยปีนี้เป็นที่พอใจของผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องการย้อนประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและคนจีน ซึ่งนอกจากจะจัดการแสดงสี่มิติให้ชมแล้ว ยังมีการแสดงสดศิลปะนาฏลีลาซึ่งเป็นศิลปะไทยแบบประยุกต์ ทำให้ผู้เข้าชมพอใจเป็นอย่างมาก

ผมขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง ที่ Pavillion ของไทยติดอันดับยอดนิยมหนึ่งในเจ็ด มีผู้เข้าชมเข้าแถวรอชมการแสดงอย่างยาวเหยียด ขณะนี้ มีผู้เข้าชม Pavillion ไทยแล้วกว่าสี่ล้านคน

เมื่อวันที่ 4 - 5 กันยาฯ ที่จะถึงนี้ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ จะให้เกียรติมาเป็นประธาน ท่านรองปลัดฯ บอกว่า คนจีนพอใจมากเพราะสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดความสนใจของคนจีนที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ผมมั่นใจว่า หากประเทศไทยมีความสงบ การท่องเที่ยวของไทยก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว และความเจริญทางเศรษฐกิจของคนจีนที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จะกระตุ้นให้คนจีนมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

ขอแสดงความชื่นชมรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ที่มองการณ์ไกลให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo ในปี 2020 ขอให้ผู้เกี่ยวข้องทำการบ้านเพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอย่างเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพ เพราะมีประเทศคู่แข่งที่น่ากลัวคือ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา

ผมเชื่อว่า ถ้าเราเลือกสถานที่ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น อยุธยา เพชรบุรี หรือ เชียงใหม่ แห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว Expo 2020 จะเป็นความภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งชาติ ผมมั่นใจว่า เราจะเป็นเจ้าภาพที่ดีได้

ผมขอสนับสนุนด้วยอีกแรงหนึ่งครับ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์0-2273-0181
หมายเลขบันทึก: 384845เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2010 09:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท