ห้องเรียน AI ตอน.."...อาจารย์ครับ..หลายคนไม่ Get เลย..หลักสูตรนี้ผมว่าไม่ได้อะไร..."


ครับ...ตั้งแต่ไปเป็นวิทยากร ร่วมกับหลายๆที่...ทั้งเดี่ยว...และร่วมกับผู้อื่น...ในโครงการทั้งของรัฐของเอกชน โดยเฉพาะหลักสูตร SMEs ทั้งหลาย..เมื่อเริ่มสนิทกับผู้เข้าอบรมเก่งๆ...วันสุดท้ายมักได้รับ Feedback แบบนี้   

“..อาจารย์ครับครับ...ผมเห็นหลายคน..ไม่ Get ในเนื้อหา...มันต้องมีอะไรมากกว่านี้..ผมว่าพวกเขายังเด็กไป..เกินกว่าจะมาเรียนอะไรที่ต้องอาศัยประสบการณ์อย่างนี้..เด็กอย่างนี้สร้าง SMEs ไม่ได้หรอก..ยิ่งมาเที่ยวด้วย...ผมว่าผลาญงบประมาณกันเปล่าๆ”

....................................................

ปัญหาโลกแตกที่ว่ามีบางคน  หรือส่วนใหญ่ไม่พร้อมที่จะเรียนในหลักสูตร SMEs ครับ..ยากครับ...ในฐานะผู้สอน หรือวิทยากร..ก็ทำอะไรไม่ได้ครับ..เพราะถ้าจะสอนคนที่ “พร้อมอย่างเดียว” ประมาณว่าเป็นคุณศุภรุจน์  (The Star) ในวงการ SMEs รับรองจะไม่สามารถเปิดสอนหลักสูตรด้านการจัดการใดๆ ได้อีกเลยครับ...

................................................

คำถามคือ หลักสูตรการจัดการ SMEs, AI  และซำมาปิทั้งหลาย ให้อะไรกับผู้เข้าอบรมครับ...คำตอบคือ ให้ความรู้ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Empathetic Knowledge (ความรู้ในเชิงทิศทาง-ผู้เขียน) นอกเหนือจากความรู้ด้านเทคนิค การทำ AI หรือซำมาปิอื่นๆ ซึ่งตรงนี้เราเรียกว่า Technical Knowledge….

(click ดูที่มาของรูปภาพ) 

...................

ความรู้เชิงทิศทางนี้...เช่นผมมีโอกาสนั่งให้ความเห็นกับผู้ประกอบการที่เสนอแผนธุรกิจกับธนาคาร SMEs หลังผมฟังนายธนาคารให้ความเห็น ทั้งโครงการเด่นๆ และ (โครงการเด็กๆ) ผมก็เริ่มรู้ทิศแล้ว...ว่าต่อไป ถ้าจะไปสอนหนังสือให้คนได้มีโอกาสขอกู้เงินได้ง่ายขึ้น ควรเน้นจุดใด...คนเก่งๆ ที่ทำแผนธุรกิจนั้นเขาคิดยังไง....และจากจุดนี้ ผมเชื่อว่าการสั่งสมความรู้ของผม จะเป็นไปอย่างถูกทางมากขึ้น.... นี่ไงครับ..ความรู้เชิงทิศทาง...มันไม่ใช่ความรู้ด้านเทคนิคที่เราได้ขณะนั้น...แต่เป็นทิศทาง...ที่เราจะเดินไป...และถ้าเราไปถูกทาง ความรู้ด้านเทคนิคของเราจะเติบโตไปเอง...

.................................................

และโดยธรรมชาติ ผมเชื่อว่าผู้เข้าอบรมก็จะเห็นทิศทางเหมือนกันว่า..ถ้าจะต่อยอดน่าจะไปทางใด...ไม่มากก็น้อย

 

เช่น มีผู้ประกอบการรายหนึ่ง หลังจากคลุกคลี กับเพื่อนมาหลายสัปดาห์ ก็รู้ “ทิศทาง” ว่าเพื่อนร่วมชั้นมีทักษะที่โดดเด่นด้านใด...ซึ่งตัวเขาเองก็ได้เริ่มวางแผนจะสร้างพันธมิตร...กับเพื่อนร่วมชั้น..ถามว่าทิศทางนี้จะทำให้เขามีความรู้ในด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นไหม ในระยะหลังจากจบไปแล้ว...รับรองครับ...ได้มากกว่าเดิม...

 

อีกรายหนี่งเก่ง Animnation มากๆ พวกเราก็ช่วยกัน “ชี้ทิศทาง” ให้เขา เพราะมีศักยภาพไปทำอะไรในระดับสากล....จนกระทั่ง...ชี้ทิศให้จับมือกับเพื่อนคนหนึ่งที่มีความรู้ (Technical Knowledge) ด้าน E-bay หรือเรื่องการส่งออก ที่มาทำแผนธุรกิจด้วยกัน (ทีมเขาพูดได้ทั้งอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี)...

 

มีรายหนึ่งเสนอระบบจองที่พักสำหรับโรงแรม...ดีมากๆ เป็นอะไรที่สร้างสรรค์...แต่พวกเราก็ช่วยกันชี้ทิศ..ให้ว่า...นอกจากโรงแรมก็ยังมีธุรกิจอื่นๆ..ที่ต้องการระบบจองดีๆ เช่นคลินิก โรงพยาบาล....

............................................

นี่ไงครับ...ผมบอกเลยครับ...คนที่เข้าอบรมส่วนใหญ่จะลำบากใจกับเนื้อหา..ด้วยเพราะความพร้อมไม่เท่ากัน....แต่สิ่งที่ผมว่าหลักสูตร...ทุกหลักสูตร ให้ความรู้ในเชิงทิศทาง (Empathetic Knowledge) อย่างแน่นอนครับ....

 

ความรู้นี้ เกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิทยากรกับผู้เข้าอบรม..และระหว่างผู้เข้าอบมรมด้วยกัน...

 

ส่วนเรื่องออกมานอกสถานที่...ไปพักด้วยกันหลายๆวัน...นี่แต่ก่อนผมก็ว่าผลาญครับ...แต่เดี๋ยวนี้ผมมองว่า...ไม่ถึงกับเลวร้ายครับ...เพราะถ้าทำดีๆแล้ว..เท่ากับช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบความรู้เชิงทิศทาง นี่ได้เป็นอย่างดีเลยครับ....เพราะเท่าที่เห็น ความรู้เชิงทิศทางเกิดขึ้นนอกห้องเรียน ระหว่างที่นั่งทานข้าวด้วยกันก็มากครับ

(นี่ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนครับว่าอะไรก็ต้องออกไปนอกสถานที่..โครงการนี้จำเป็นต้องไป เพราะเป็นวิทยากรรับเชิญ...อนึ่ง...ความรู้เชิงทิศทางนี้สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จากงานประจำครับด้วยการทำ KM และ AAR หรือ AI ก็ได้ครับ...แม้กระทั่งดูหนังสือดีๆ รายการทีวีดีๆ เข้า gotoknow และ fb).

 

คุณล่ะคิดอย่างไร....

หมายเลขบันทึก: 389311เขียนเมื่อ 30 สิงหาคม 2010 07:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ความยากของ Trainer คือ ต้องทำความเข้าใจกับความแตกต่างระหว่าง การฝึกอบรม กับการให้ความรู้ ทั้งสองประการต้องไปด้วยกันให้ได้ แต่บ่อยครั้ง ผู้เข้าร่วมโครงการมักต้องการให้เรา Train บอกมาทันทีว่าเดินออกไปจากห้องนี้แล้วต้องทำอะไรบ้าง ทำอย่างไรบ้าง 123 ถ้าเราให้ formula แบบนั้น เราในฐานะ trainer ก็จะไม่ได้ สร้างอะไรใหม่ เป็นเพียงการหล่อแบบให้ออกมาเหมือนกันเป็นโรงงานผลิต อันที่จริงทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าเราเป็น คน คนไม่ต้องถูก train นะ เขา train กันเฉพาะบ้าง creature เท่านั้น

มีเรื่องให้คิดเยอะคะ ไว้จะเข้ามา ละเลงอีกคะ

ความยากของ Trainer คือ ต้องทำความเข้าใจกับความแตกต่างระหว่าง การฝึกอบรม กับการให้ความรู้ ทั้งสองประการต้องไปด้วยกันให้ได้ แต่บ่อยครั้ง ผู้เข้าร่วมโครงการมักต้องการให้เรา Train บอกมาทันทีว่าเดินออกไปจากห้องนี้แล้วต้องทำอะไรบ้าง ทำอย่างไรบ้าง 123 ถ้าเราให้ formula แบบนั้น เราในฐานะ trainer ก็จะไม่ได้ สร้างอะไรใหม่ เป็นเพียงการหล่อแบบให้ออกมาเหมือนกันเป็นโรงงานผลิต อันที่จริงทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าเราเป็น คน คนไม่ต้องถูก train นะ เขา train กันเฉพาะบ้าง creature เท่านั้น

มีเรื่องให้คิดเยอะคะ ไว้จะเข้ามา ละเลงอีกคะ

(แจนเอง)

สัวสดีครับอาจารย์แจน

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ครับ...

เจอแบบเดียวกัน จริงๆ ภายหลังพอให้คำอธิบายลักษณะนี้ ก็จะเข้าใจกันมากขึ้นครับ...

เรื่องใหญ่จริงๆ

อาจารย์จุดประกายให้ผมได้เขียนต่ออีกครับ..พรุ่งนี้ผมจะต่อยอดเรื่องนี้อีกครับ...

ขอบคุณที่อาจารย์เข้ามามีส่วนร่วมนะครับ...

็Have a very nice Monday.

สวัสดีค่ะ

มองว่า ความคาดหวังที่ต่างกันของผู้เข้าร่วมการอบรม และความไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการอบรมก็มีส่วนนะคะ

เคยเข้าร่วมการอบรมเรื่องเกี่ยวกับการคิด วิทยากรอธิบายจนเห็นภาพเลยค่ะ ว่าเวลาทองของการคิดในแต่ละวันมีไม่มาก เพียงฃ่วงสั้นๆ แค่ประมาณ เก้าโมงกว่า ถึง สิบโมงกว่าเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ช่วงเวลาที่การคิดจะมีประสิทะภาพที่สุดนี้ไปทำอย่างอื่น

ผู้เข้ารับการอบรมบางคนเห็นว่าดีมาก นำมาใช้ในการสร้างความก้าวหน้าได้ แต่บางคนอาจเห็นว่าเรื่องที่นำมาพูดไม่เกิดประโยชน์กับงานที่ทำในปัจจุบัน

ดิฉันเห็นด้วยกับอย่างแรกค่ะ

ขอบคุณมากคุณณัฐรดา สำหรับข้อคิดเห็นครับ

เรื่องนี้ต่อยอดได้ตามทฤษฎี Adult Learning ของ Knowles เลยครับ..

ผมได้ idea ขุดค้นต่อแล้วครับ

ผมคิดว่าการฝึกอบรม SMEs ที่ไม่ใช่เรื่องเทคนิคเฉพาะทางนั้น แนวทางของอาจารย์น่าจะดี การชี้ทางให้คิด แต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เท่ากัน สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน การดำเนินชีวิตแตกต่างกัน และอีกหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ยากนักที่ผู้เข้ารับการอบรม จะประสบความสำเร็จเหมือนกัน อาจารย์เป็นผู้ชี้ทิศทาง น่าจะถูกต้องแล้วครับ

เรื่องไปนอกสถานที่บ้าง เป็นการผ่อนคลายบรรยากาศ คนเราจะคิดอะไรได้ดี ต้องมีบรรยากาศแบบสบายๆ ไม่ตึง ไม่หย่อนเกินไปครับ

ขอบคุณมากครับคุณปิยวัฒน์

ผมได้เรียนรู้อะไรจากคุณมากเลยครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับความเห็น

อ.โย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท